คือระหว่างที่ยังไม่มีรถ(ที่เอาใว้ดริฟท์)เป็นของตัวเอง
ตอนนี้ผมก็อาศัยรถปิคอัพส่งของที่ทำงานลองฝึกไปก่อนน่ะครับ
รถกำลังไม่มากนัก ตัวรถก็หนัก พวงมาลัยก็ ยังไงบอกไม่ถูก
ผมลองอยู่โค้งเดียวครับ โค้งทางเข้าบึงตะโก้ ขออธิบายทางหน่อยนะครับ
คือทางเข้านี่ระยะทางจะประมาณ 300 เมตร แต่จะเป็นทางคอนกรีตซะประมาณ 200 เมตร
จากนั้นจะเป็นลูกรังโดยตลอด จนถึงที่จอดรถ แต่ก่อนถึงที่จอดรถจะมีโค้งอยู่หนึ่งโค้ง
เล่นอยู่โค้งเดียวนี่แหละครับ
ลองจาก ISUZU Dragon eye ลองโดยการดึงเบรคมือ
แรกๆนี่ตูดไม่ยอมออกเลยครับ
หลังๆเลยเพิ่มความเร็ว แล้วหักออกก่อนเข้าโค้งก่อนแล้วค่อยหักเข้าโค้ง จากนั้นดึงเบรคมือ ลดเกียร์
รถไหลไปดีคือคืนพวงมาลัยแล้วก็เริ่มดริฟท์(แต่ไม่นานมากจนสุด) อาการรถก็ตั้งลำตรงเหมือนเดิมอีก
เลยคิดเองว่าน่าจะเป็นเพราะรถมีกำลังไม่พอที่จะทำให้ล้อหมุนฟรี
อันนี้ไม่ทราบว่าผมคิดถูกรึปล่าวครับ
ถูกบางส่วนครับ รถไม่มีแรงก็ส่วนหนึ่ง แต่ปัญหาหลักก็คือโมเมนตัมของรถมีน้อยเกินไป คือต้องอัดส่งเข้ามาให้แรงกว่านี้อีกหน่อย
ทีนี้เลยลองเพิ่มความเร็วอีก จากเดิมประมาณ 55 km/hr เป็น 65-70 km/hr
คราวนี้ล่ะทำอะไรไม่ถูกเลย มันเร็วจนทำอะไรก้ไม่ทำ แต่ก็ผ่านโค้งมาได้โดยท้ายตกถนนหน่อยนึง
เพื่อนๆที่ยืนดูบอกว่ารถเริ่มขวางแล้ว แต่อาการส่ายไปส่ายมาน่ากลัวโคตร
ก็ลองแบบนี้อยู่นานครับ เป็นเดือนเลยอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง(จริงๆอยากเล่นทุกวันแต่รถต้องใช้งาน)
มันก็ยังเป็นเหมือนเดิม คือยังไม่เนียน
ทีนี้เลยลองใหม่ แต่ลองเปลี่ยนรถดู
คราวนี้เอาปิคอัพของที่ทำงานอีกคันมาลอง
แต่คันนี้เค้าไม่ค่อยใช้ขนของมากเท่าไหร่
เป็น Ford Ranger 4WD สี่ประตูครับ
แต่พอตอนที่คิดจะลองคันนี้ ตอนแรกบอกตัวเองว่าไม่เอาดีกว่า
เบรคมืออยู่ไกลไป(ตรงคอลโซนหน้าเลยแบบรถปิคอัพทั่วไป
แต่ของ ISUZU Dragon eye จะอยู่ตรงคอลโซนเกียร์) ไม่ถนัด
แต่อีกใจนึงก็ยังอยากจะลองดู เพราะคันนี้เครื่อง เทอร์โบ
อัตราเร่งน่าจะดีกว่า เลยลองดูครับ
รอบแรกลองวิ่งแบบเดิมเลย แต่วิ่งช้ากว่าเดิมหน่อยไม่เกิน 55 km/hr
หักพวงมาลัยให้รถหันหัวออกก่อนเข้าเล็กน้อย จากนั้นหักเข้ามาในโค้ง
พร้อมๆกับกระทึบเบรคแรงๆไปทีนึง(แต่ไม่ได้เหยียบเบรคค้างนะครับไม่รู้ทำถูกรึปล่าว)
คุณโตคาดหวังอะไรจากการกระทืบเบรกแรงๆ ล่ะครับ เพราะการกระทืบเบรกแรงๆ มันเกิดเรื่องราวต่างๆ มากมายนัก เช่น
- น้ำหนักจะถ่ายไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
- ล้อคู่หน้ารับโหลดมาก
- ด้านท้ายที่เบาอยู่แล้วก็ยิ่งเบามากขึ้น
- Suspension หลังยืดขึ้น ส่วน Suspension หน้าจะยุบลง (อย่างรวดเร็ว)
- ล้อคู่หลังสัมผัสถนนน้อยลง
- ความเร็วลดลงแบบกระทันหัน
*จากสถานการณ์ ผมคาดว่าคุณคงจะเบรกเพื่อจะสะบัดรถให้ดริฟท์ หากทำเช่นนั้นแล้วมันดริฟท์ได้ดีจนคุณโตพอใจก็ไม่ถือว่าผิดครับ แต่รับรองว่ามีวิธีอื่นที่จะทำให้รถดริฟท์ได้นอกเหนือจากการเบรกแรงๆ
พอหักพวงมาลัยพร้อมกระทึบเบรคแล้วจากนั้นจังหวะที่ถอนเท้าออกจากเบรค
ผมก้รถเกียร์ลงไปอีก(ลืมบอกอีกอย่าง วิ่งไม่เกินเกียร์ 3 ครับ)
จังหวะนี้เกียร์เลยลดลงมาอยู่ที่เกียร์ 2 แต่จากตรงนี้ ผมยกเท้าไปกดคันเร่งไม่ทัน
แล้วเครื่องดีเซลเทอร์โบนี่พอรอบตกกว่ามันจะขึ้นก็ไม่ทันการแล้ว
สรุปคือ หมุน 180 องศา เพื่อนยืนฮากันสนั่น แต่ยังดีที่หยุดรถได้(ก็มันไม่เร็วมาก)
รอบแรกผ่านไปเลยนั่งนึกดูว่ามันเป็นเพราะอะไร เลยตั้งข้อสังเกตุเอง
คราวนี้ไปลองใหม่ ลองจากข้อสังเกตุของผมเอง แล้วคราวนี้เลยลองทำแบบเดิม
แต่วิ่งทางตรงๆ ใช้ความเร็วเท่าเดิม แต่ลองทำแบบเดิมก่อนเข้าโค้ง(ไม่กะจะเข้าโค้ง)
แล้วก้ไม่หักพวงมาลัย(กะวิ่งตรงๆกลัวคุมรถไม่อยู่) ทีนี้เลยรู้ว่า
พอเราวิ่งมาเร็วขนาดนี้ แล้วเบรคแรงๆ พร้อมกับลดเกียร์
มันจะทำให้ล้อหลังหมุนช้ากว่าความเร็วรถ จนเกิดอาการล๊อค(อันนี้ไม่ทราบว่าคิดถูกรึปล่าว)
อันนี้คุณคิดถูกเผงเลย Wheel Speed ไม่จำเป็นต้องเท่ากับ Vehicle Speed เสมอไปครับ หากคุณโตชอบดริฟท์ด้วยวิธีนี้ ผมเสนอให้หัดทำ Heel & Toe ครับ ได้ผลออกมาเหมือนกัน แถมไม่ต้องเบรกแรงๆ มากๆ และจะเร่งส่งออกจากโค้งได้ดีอีกด้วย
อาการมันจะคล้ายกับตอนที่เราดึงเบรคมือ(อันนี้คิดเองครับไม่ทราบว่าถูกรึปล่าว)
อาการของรถที่แสดงออกคล้ายกันครับ แต่การตอบสนองของรถจะต่างกัน
แต่อาการรอรอบของรถนี่สิน่าเป็นห่วง เพราะถ้าเร่งไม่ขึ้นอีก ก็หมุนเหมือนเดิม
เลยเกิดความคิดแว๊บเข้ามาในหัว จากที่เคยได้ยิน เคยอ่าน
เรื่อง ฮิลแอนด์โท ผมเลยลองนั่งนึกไปถึงภาพที่เคยดูใน VDO ว่าทำกันยังไง
จากนั้นเลยลองวัดระยะเท้าตัวเอง กับแป้นเบรคแล้วก็คันเร่งดู
ระยะมันก้พอจะมีลู้นแฮะ(นึกในใจ เอาวะเป็นไงเป็นกัน)
ทีนี้เลยลองใหม่ คราวนี้ทำแบบรอบแรกเป๊ะเลย แต่ในจังหวะที่จะกระทึบเบรค
ผมเหยีบครัทไปก่อนครึ่งนึง(ตอนแรกเหยียบลงไปจมเลย) ยกปลายท้ายมากระแทกเบรค
โดยที่ส้นเท้ายังอยู่ที่คันเร่ง(อันนี้ทำถูกรึปล่าวครับ)
ฮ่าๆ ท่านมาถูกทางแล้ว เริ่มคิดวิเคราะห์ ในที่สุดก็มาเล่นที่ Heel & Toe แต่... คุณกดคลัตช์เพียงครึ่งเดียวเพื่อคาดหวังสิ่งใดหรือ อันนี้ไม่เข้าใจครับ ;D / ขณะทำ Heel & Toe นั้น จังหวะเบรกคุณสามารถถอนเท้าออกจากคันเร่งได้หมดเลยครับ ยกคันเร่งแล้วย้ายมาแป้นเบรกได้เลย พอกดเบรกได้น้ำหนักที่เราต้องการ จังหวะนั้นเองก็บิดข้อเท้าไปเบิ้ลคันเร่งได้แล้วครับ รถกระบะดีเซลทำ Heel & Toe ง่ายมาก ลองดู
พอได้จังหวะที่กระทึบเบรคจนสุด
ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ผมโยกคันเกียร์ลงที่เกียร์ 2 พอดี จากนั้นก็ถอนเท้าออกจากแป้นครัท
แล้วก็กดคันเร่งต่อเลย จังหวะนี้รถเริ่มสไลด์พร้อมๆกับที่ผมเริ่มคืนพวงมาลัย
ถึงตอนนี้รถสไลด์ผ่านโค้งมาหน่อยนึง แต่อาการส่ายไปส่ายมายังมีอยู่บ้าง
แต่น้อยกว่าตอนที่ใช้ ISUZU พอผ่านโค้งมาแล้วจึงตั้งลำแล้ววิ่งต่อไป
เป็นครั้งแรกที่สไลด์แล้ววิ่งต่อได้ครับ นอกนั้นส่วนใหญ่จะหมุน
ไม่ก็ส่ายไปส่ายมา จนต้องรีบเบรคเพราะกลัวเอาไม่อยู่
อ้าว ..เริ่มต้นเหมือนจะทำ Heel & Toe แต่มันเพี้ยนไปหน่อยจนการเป็นการลดเกียร์ธรรมดาแล้วครับ คุณโตทำถูกวิธีการแล้ว แต่ผิดจังหวะนิดหน่อย แก้ไขด้วยการฝึกฝนใหม่ครับ
- คุณข้ามขั้นตอนที่ต้อง "เบิ้ล คันเร่ง" ไป
- อาการส่ายของรถ ขณะออกจากโค้ง แปลว่าคุณใช้ความเร็วเข้าโค้งต่ำเกินไป ไม่ก็เบรกจนรถแรงหมด และสุดท้ายก็คือคุมบาลานซ์ของรถยังไม่ถูกต้อง
นี่แหละครับ คือที่ผมลองมา(หลายเดือน) ลองอยู่คนเดียว คิดอยู่คนเดียว
วันนี้เลยอยากลองโพสถามดูว่า ที่ผมทำนั้นมันถูกมั๊ยะครับ
ขอคำแนะนำเรื่องเทคนิคการขับด้วยนะครับ ส่วนเรื่องจะให้ไปปรับปรุงอะไรกะตัวรถ
คงทำไม่ได้แน่เลย ก็รถบริษัทน่ะครับ
ทำไม่ผิดครับ เริ่มต้นและทำความเข้าใจได้ก็โอเคแล้ว เสียตรงที่มันเป็นรถกระบะ รถมันบาลานซ์ห่วยครับ หน้าหนัก ท้ายเบามากๆ คุณโตดริฟท์กับรถกระบะ 4 ประตูได้ดีกว่าใช่ไหมล่ะครับ คุณอาจคิดว่ามันไปได้ดีกว่าเพราะเทอร์โบ แต่ผมคิดว่ามันดีกว่าเพราะท้ายมันหนักขึ้นกว่าแบบกระบะธรรมดาครับ
เรื่องเทคนิคที่จะแนะนำก็คือหัดทำ Heel & Toe ครับ เริ่มจากทำตอนเกียร์ 5 ไป 4 เกียร์ที่อัตราทดต่างกันน้อยก็จะหัดได้ง่ายกว่า อาการรถออกมาเนียนกว่า
Heel & Toe ที่สมบูรณ์แบบคือทำแล้วรถสมูธ นุ่ม ราบเรียบ เนียน ถ้าทำตอนกดเบรกแรงๆ ก่อนเข้าโค้ง และถ้ามีคนปิดตานั่งไปด้วย เขาจะไม่รู้ถึงจังหวะการลดเกียร์ของเราแม้แต่น้อยครับ