16 มีค 57
รอบสนามบินสุวรรณภูมิทำเลนให้ขี่จักรยาน ทาพื้นสีเขียว สวยสะอาดตาดี วนรอบได้ 23.5 กมแน่ะ เจ๋งว่ะ อยากมีแบบนี้ใกล้ๆ บ้านเราบ้าง ว่างๆ จะได้ไปซัดให้หนำใจ
แต่ดูแล้วสถานที่มันโล่งๆ แล้งๆ นะ น่าจะร้อนและลมแรง ขี่เล่นได้แค่เช้าเย็น กลางคืนมีไฟหรือเปล่าก็ไม่รู้ ดูในภาพไม่ค่อยเห็นเสาไฟ อยากไปขี่นะ แต่ก็ต้องเอาจักรยานใส่รถไป เกรงใจพ่อ ไม่ค่อยกล้ายืมรถพ่อใช้ คือไม่รู้ว่าวันไหนเขาจะใช้รถคันไหนไง แล้วพ่อชอบเก็บของใช้ไว้ในรถ การเปลี่ยนรถก็ต้องย้ายสลับของด้วย เกรงใจพ่อ
เป็นอันว่าวันนี้ออกไปวิ่งอีกแล้ว วิ่งที่เดิมครับ ศูนย์เยาวชนเฉลิมพระเกียรติ บางมด ตรงข้ามเทคโนบางมด ใกล้สวนธนบุรีรมย์ ไปแต่เช้าเหมือนเดิม วันนี้ไม่ตั้งเป้าหมายอะไร แต่อยากลองวิ่งแบบช้าๆ ดู อาทิตย์ก่อนวิ่งได้ 24 กม ในเวลา 2.25 ชม
ตื่นเช้าก็จัดกล้วยน้ำว้า 2 ผลก่อนเลย เริ่มวิ่งตั้งแต่ 0530 วิ่งแบบไม่มีเป้าหมายเลยนะ วิ่งไปเรื่อยๆ แล้วค่อยคิดไปว่าจะวิ่งสักแค่ไหนดี แต่อยากลองวิ่งช้าๆ หน่อย คิดเอาเองว่าวิ่งช้าร่างกายจะเผาไขมันได้ดีกว่า
1 ชม ผ่านไปรู้สึกเฉยๆ แต่พอถึง 2 ชม แล้วเริ่มรู้สึกอืดๆ หน่อยแล้ว ยิ่งแดดเริ่มแรงนี่ชักจะขี้เกียจวิ่ง ต้องอาศัยพลังคิดบวก คิดว่าร่างกายโดนแดดน่ะดีแล้ว เสริมสร้างวิตามิน D กระดูกทั้งร่างกายจะยิ่งแข็งแรง เซลล์ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ถ้าเป็นมะเร็งอยู่นี่วิ่งกลางแดดแรงๆ จะยิ่งดีมากเลย ฯลฯ สารพัดข้อดีของการอยู่กลางแดดอยู่ในหัวผมตลอดเวลาขณะก้าวเท้าวิ่ง
พอถึง 2.30 ชม เริ่มแผ่ว แดดแรงจัด คิดบวกมานานมากแล้ว แต่แม่งร้อนว่ะ กินน้ำไปเยอะเลย วิ่งช้าๆ มานานเป็นชั่วโมงก็เริ่มไม่สนุกแล้ว แต่อาศัยลูกอึด นึกถึงตอนขี่จักรยานขึ้นเขาที่เรามองยอดเนินทีละลูกๆ
สุดท้ายก็ผ่านด่านมาได้ วิ่งไป 2.55 นาที กับระยะทาง 24 กม เหมือนเดิม ช้ากว่าครั้งที่แล้วถึง 30 นาที วิ่งตั้งแต่เข้ามาในสนามคนแรก จนเป็นคนสุดท้ายที่เดินออก เหนื่อยและร้อนมากๆ
เดินไปนั่งพักที่ม้านั่ง ดูผู้คนค่อยๆ ทยอยกันกลับบ้าน ที่แห่งนี้คนเขามาเพื่อออกกำลังกายกันจริงๆ ไม่ค่อยมีนั่งเล่นพักผ่อนเหมือนสวนสาธารณะทั่วไป ผมนั่งอยู่ตรงนี้รอให้ร่างกายคลายความร้อนลงหน่อย แล้วถึงเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่รถ
ถึงจุดนี้ก็นึกถึงชุดกีฬาแพงๆ สำหรับออกกำลังกายเลยนะ ชุดแบบนั้นมันแห้งเร็วมาก นั่งเล่นลมโกรกนิดเดียวก็เริ่มแห้งแล้ว สามารถนั่งเบาะรถได้เลยโดยที่ไม่เปียกเบาะมากนัก ต่างจากผมที่ใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นห่วยๆ มันเปียกแล้วเปียกเลย แก้ด้วยการนำชุดมาเปลี่ยน ก็เปลี่ยนมันในรถนี่แหละครับ ห้องน้ำห่วยมาก ไม่มีที่วางของ ไม่มีตะขอแขวนกางเกง ไม่มีเหี้ยไรเลย บางห้องไม่มีน้ำอีกด้วย
ขับรถกลับบ้าน หิวจัด ที่จริงหิวตั้งแต่ตอนวิ่งไป 2.30 ชม แล้วล่ะ หิวก็จิบน้ำเข้าไปแทน ขับไปก็คิดไป กินไรดีๆ ๆ ๆ
ผ่านร้านบะหมี่โซโหที่กินอาทิตย์ก่อน รสชาติดีนะ แต่ขอผักเยอะๆ แล้วให้ผักกวางตุ้งมาแค่ 4-5 ท่อนเอง งอนมัน ไม่กินแล้ว เอ๊ะ หรือจะไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ตลาดแถวบ้านดี แล้วก็นึกถึงร้านต้มเลือดหมู แถวบ้านมีร้านหนึ่ง ไม่ได้กินนานมาก ร้านนี้ใจดี ให้ผักเยอะด้วย ขอตำลึงก็ใส่ให้เป็นกำ มีผักชื่อจิงจูฉ่ายด้วย ไม่รู้จัก แต่กินแม่งเข้าไปหมดแหละ ซื้อกลับมากินกับข้าวกล้องที่บ้าน อืมม อิ่มแล้วโคตรง่วงเลย
อาบน้ำ สระผม โอ้ สุขสุดๆ เนื้อตัวเหนียวลื่นๆ ขาสากๆ เหมือนมีเม็ดทราย แต่ไม่ใช่หรอก มันคือคราบเกลือที่เกิดตอนเหงื่อแห้งแล้ว นี่เห็นไหม เล่นซะเกลือขึ้นเลย
อยากหลับครับ ทำไมวันนี้รู้สึกเพลียผิดปกติ หรือว่าวิ่งนาน หรือว่ากินคาร์โบไฮเดรทจากข้าวกล้องเยอะมาก อัดคาร์โบเข้าไปมากๆ ก็จะทำให้ง่วงได้ง่ายครับ เอนหลังนอนพัก แต่ไม่หลับหรอกนะ แค่นอนยกขาสูงๆ ให้เลือดไหลย้อนกลับลงมาหน่อย แบบนี้สบายขาดี
อ้อ ชั่งน้ำหนักก่อนกินข้าวนะ ลดลงมาทันที 1.5 กก แต่อาทิตย์ก่อนที่วิ่งเร็วกว่าน่ะ ลดมาถึง 2 กก
แต่มันลดเพราะร่างกายเราเสียน้ำนะ เดี๋ยวตลอดวันนี้กินข้าว กินน้ำเข้าไป น้ำหนักก็จะตีกลับขึ้นมาเอง ฮ่าๆ แต่ก็ทำให้เราดีใจช่วงสั้นๆ ก็แล้วกัน
กินข้าวพักเดียว หิวอีกแล้ว เฮ้ย อะไรกันวะนี่ หยิบน้ำเต้าหู้มาซด รวดเดียวครึ่งลิตรเลย หึหึ ร่างกายเราเสียน้ำไปเยอะนั้นเอง ซดน้ำไปครึ่งลิตร นั่นก็คือน้ำหนักเราก็จะขึ้นมาทันที 0.5 กก เช่นกัน
กลัวน้ำหนักขึ้น เลยวิดพื้นไป 30 ครั้ง โหหห หมดแรง ดันตัวแทบไม่ขึ้นเลย กัดฟันฝืนทำจนครบ 30 หอบแฮ่กๆ
เดินไปเดินมา เล่น Uke บ้าง ล้มตัวลงนอนพักบ้าง หมดแรงเดินว่ะ อยากแปลงร่างเป็นฝุ่นให้ปลิวๆ ไปตามลม
สายหน่อยหิวอีกแล้ว ซัดถั่วโก๋แก่ไป 1 ถุง ไอ้นี่ถุงใหญ่เสียด้วย หึหึ กลัวน้ำหนักตีกลับจริงๆ เลยวิดพื้น ซิทอัพอีกรอบ คราวนี้มีแรงแล้ว กล้ามเนื้อคงได้พักแล้ว
กลับมาบ้านนี่เพิ่งจะฉี่ตอนบ่ายเองนะ กินน้ำเข้าไปเยอะแยะไม่เห็นฉี่ออกมาเลย นี่แสดงว่าเราขาดน้ำเยอะจริงๆ บ่ายกินฝรั่งไปอีก 1 กล่องใหญ่ พอกินเยอะรู้สึกสำนึกผิด กลัวน้ำหนักตีกลับมาเท่าเดิม กลายเป็นวิ่งฟรี
เฮ้ย ไม่ฟรีหรอก แม้น้ำหนักจะไม่ลง แต่เราสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงขึ้น กล้ามเนื้อทั่วร่างกายเลยนะ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหัวใจ และปอด ไอ้นี่สร้างกันยากนะ ขี่จักรยานยังทำได้ยากกว่าวิ่งเลย
มุสลิมที่หาดใหญ่เมื่อวานข่าวว่าเป็นชาวตุรกี มาวันนี้บอกว่ามาจากอุยกูร์ เป็นจีนมุสลิม ย่านซินเจียง-อุยกูร์ หนีภัยสงครามมา น่าสงสารว่ะ น่าจะช่วยเหลือกันได้มากกว่านี้
เฮ้ย เมลล์โดนแฮค ล็อคอินเข้าแล้วเข้าไม่ได้ มันฟ้องว่าพาสเวิร์ดผิด ฉิบหาย งานเข้า
เลยแก้ปัญหาไปทีละจุด สุดท้ายก็ได้พาสเวิร์ดใหม่ส่งมาทางมือถือ บ๊ะ ทำงานทันใจดีแท้ นี่ขนาดเมลล์ฟรีนะนี่ ขนาดเข้าใช้งานแทบทุกวันนะนี่ ยังโดนแฮคได้เลย
เล่นเอาตกใจหมดเลย งานก็เพียบ แถมใกล้มอเตอร์โชว์อีกด้วย ข่าวสารด้านรถยนต์ไหลมาเป็นสาย
ไปงานปีนี้อาจได้แต่งหล่อหน่อย น้ำหนักลดลงมาเกือบ 6 กก แล้ว ใส่สูทแล้วน่าจะโอเคกว่าเดิมนิดๆ ตอนวิ่งแล้ววันไหนเบื่อๆ ก็คิดแบบนี้แหละครับ คิดถึงวันงานแล้วแต่งชุดหล่อๆ ถ้ามันอ้วนอยู่ก็ไม่หล่อน่ะสิ
ที่จริงน่ะ ไม่ได้สนใจหล่ออะไรนักหรอก ผมเน้นไปด้านสุขภาพมากกว่า แต่ไอ้สุขภาพนี้ผมรู้เองคนเดียวไง ส่วนหล่อหรือไม่นั้นคนอื่นเขามองเราต่างหาก เราก็อยากให้ตัวเองดูดีด้วยน่ะ อย่างน้อยก็ดูแล้วเจริญตากว่าก็แล้วกัน
ผมต้องเตรียมสุขภาพไว้ให้พร้อมเต็มที่ ปีนี้มิวเข้า ม1 แล้ว จะได้เรียนที่ไหนก็ยังไม่รู้เลย ลุ้นฉิบเป๋ง ถ้าได้สวนกุหลาบก็ดีใจมาก เดินทางสะดวก ใกล้บ้าน แต่ถ้าไม่ได้ มิวก็ต้องยอมรับในโรงเรียนที่จะต้องไปเข้าตอนสอบรอบ 2 ซึ่งจะมีที่ไหนเปิดให้สอบบ้างก็ไม่รู้เหมือนกัน