racing-club.net

Bike Forum => my bike diary / my life diary => Topic started by: O'Pern on March 05, 2014, 01:08:10 pm

Title: มีค 57 23 กินตามกรุ๊ปเลือด 25 Motor Show
Post by: O'Pern on March 05, 2014, 01:08:10 pm
1 มีค 57
   วิ่งไปอีก 1 ชม บ๊ะ ไม่น่าเชื่อว่าถ้าตั้งใจจริงน้ำหนักเรามันก็ลดลงมาได้ไม่เห็นยาก แค่ห้ามขี้เกียจ ต้องออกกำลังสม่ำเสมอ และหนักพอ สำคัญสุดคือการคุมอาหาร พูดมันง่าย ถ้าทำได้ง่ายป่านนี้คงไม่เห็นคนอ้วนล้นโลก
   มันอยู่ที่วิธีคิดด้วยนะ ผมคิดถึงทริปจักรยานและการเดินทางสุดโหด ก็เลยต้องการร่างกายที่แข็งแกร่งตามไปด้วย อย่างที่เคยเล่า มาถึงตรงนี้ผมไม่เอาแค่ลดน้ำหนักลงแล้วล่ะ จะเอากล้ามท้องด้วย (ภาษาวัยรุ่นเขาเรียก Six Pack)
   วันเสาร์มิวเรียนพิเศษแต่เช้า วันนี้เรียน 0800 แต่มิวไม่ได้บอกอะไร ก็เลยคิดว่าเรียน 0830 เหมือนปกติ เป็นอันว่าเข้าห้องเรียนสายไปหน่อย เลยตำหนิเขาบอกว่า เราต้องรับผิดชอบให้มากกว่านี้ นัดกับใคร ทำอะไร ห้ามไปสายเด็ดขาด
   เริ่มสนุกสนานกับการรื้อตู้เสื้อผ้า จัดคัดแยกเสื้อผ้าไซส์ L เก็บลงกล่อง หยิบเอาเบอร์ M มาแทน แน่ล่ะ ยังคงมีบางตัวมันคับบ้าง เอามาลองๆ สวมดู บางตัวไม่ได้ใส่มาหลายปี
   เจอเสื้อทหารทีเคยใส่ตอนเรียน รด ลองใส่ดูแล้วพอได้ ไม่ฟิตจนเหมือนแหนม ใส่แล้วจิตใจฮึกเหิม คล้ายกับว่าเรายังผอมเหมือนตอน ม6
   อยู่ร้านขายของก็มียกแบกของ เปลี่ยนความคิดเป็นบวกมานานแล้ว คิดเสียว่าดีสิ เราจะได้ออกแรงเยอะๆ ยกยิ่งเยอะก็จะยิ่งผอมเร็ว แถมยิ่งแข็งแรงอีกด้วย บ๊ะ มันสุดยอดมากเลย
   บ่ายไปธนาคาร กำลังจะแวะเข้าไปคอนโด ดีนะมิวโทรมาเรียกก่อนบอกว่ากำลังจะเดินทางออกจากสยามเพื่อไปเรียนคุมองต่อ นี่ถ้าเขาบอกเร็วกว่านี้อีกหน่อย ผมจะไปธนาคารสาขาในห้างแทน จะได้ไม่ต้องเดินทางย้อนไปมา วันเสาร์รถติดหนักมากอีกด้วย
   เย็นมิวขอกินสเต็คร้านซานตาเฟ่ จัดไปครับ สเต็คราคาถูก กินตามโปรโมชั่นของเขา สเต็คไก่พริกไทยดำจานละ 59 บาท ลองกินดูบ้างก็พอได้ อร่อยดี ใช้สะโพกไก่เนื้อนุ่ม ลอกหนังออกแล้วค่อยกิน มีเฟรนช์ฟรายชิ้นเท่านิ้วมือสัก 5-6 ชิ้น กับผักสลัดอีกขยุ้มหนึ่ง
   กลับมาถึงบ้านยังไม่ค่ำ จัดจักรยานเตรียมขึ้นรถ Isuzu Trooper ไอ้คันนี้ขนจักรยานได้ดีมากจริงๆ ใส่รถ Full Size ได้ 3-4 คันโดยไม่ต้องถอดชิ้นส่วนใดเลย จัดจักรยานและน้ำดื่มไปให้เพียงพอ จะไปไหนยังไม่รู้เหมือนกัน แต่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ อยากพักข้อหัวเข่าบ้าง วิ่งมา 6 วันแล้ว
Title: Re: มีค 57
Post by: O'Pern on March 05, 2014, 01:09:30 pm
2 มีค 57
   ตื่น 0445 ออกจากบ้านตีห้ากว่า ออกเดินทางไปบึงหนองบอน ติดกับสวนหลวง ร9 ตั้งใจว่าตอนเช้าจะขี่จักรยาน พอสายก็จะเล่นเรือคายัค เสร็จแล้วก็ไปเดินที่ Outlet ของ Decatchlon ต่อ บ๊ะ แผนสวยมาก อยู่ในเส้นทางเดียวกันเป๊ะ
   บึงหนองบอนเปิด 0600 ผมเพิ่งมาขี่จักรยานที่นี่ครั้งแรก (แต่เคยมาเล่นเรือครั้งหนึ่งแล้ว) เส้นทางเป็นถนนลาดยางเรียบวิ่งรอบบึง ระยะทางน่าจะสัก 3-4 กม สมัยก่อนขี่ได้วนรอบเลยนะ แต่ปัจจุบันมีบ้านพักคนงานเยอะ เขาเลี่ยงหมาไว้เพียบ ขี่เข้าไปก็เห่ากันกระหึ่ม เกรงใจชาวบ้านเขาจะพักผ่อน
   บอกตามตรงนะว่าขี่ไม่สนุกครับ มันวนได้ไม่รอบ ทำให้ขี่ไปแล้วก็ต้องวนรถกลับ ช่วงเช้าๆ โอเค ผมไปตั้งแต่ยังต้องเปิดไฟหน้าขี่กันอยู่เลย แต่พอสายหน่อยนี่สิ จักรยานแม่งเริ่มมากันเยอะ ช่วงวนรถกลับนี่ต่อแถวกันแบบงูกินหาง
   วันนี้ผมแต่งชุดธรรมดาไปครับ ไม่ได้ใส่ชุดจักรยานที่รัดรูปบางคนเรียกชุด “จิ้งเหลน” ฮาดีว่ะ แต่ผมชอบเรียกว่าชุด “คอสเพลย”
   ผมจะเล่นเรือต่อด้วยไง มันต้องเป็นรองเท้าที่กันน้ำ กางเกงที่พร้อมเปียกแฉะชุ่มน้ำ
   เจอใครผมก็ยิ้มไปหมด ยิ้มแม่งตลอดทาง บางช่วงเหงือกแห้ง ริมฝีปากบนติดกับเหงือก ต้องเอาน้ำในกระติกฉีดถึงจะปิดปากได้ แต่เส้นทางมันต้องกลับรถบ่อยไง บางคันเจอรอบแรกๆ ก็พอยิ้มอยู่ นานเข้าเจอกันเป็นสิบ เริ่มจะไม่ยิ้มกันแล้ว
   ไม่ค่อยได้ออกสังคมครับ ขี่แต่คนเดียวทางไกลยาวๆ เจอเส้นทางที่ต้องวนมาเจอกันบ่อยๆ แล้วทำตัวไม่ถูกว่าคนไหนกูยิ้มไปแล้วบ้าง คนไหนหน้าใหม่ที่ยังไม่เคยยิ้ม คนไหนยิ้มมากันเป็นชั่วโมงแล้ว ฯลฯ
   ที่นี่เป็นเหมือนสวนสาธารณะ แต่ไม่มีข้าวของร้านค้าใดๆ นะ ผมรู้อยู่แล้ว เลยเตรียมสตอเบอรี่มากล่องใหญ่ ขี่แล้วก็วนมาจิ้มกินทีละ 4-5 ลูก ทำไปเรื่อยๆ จนหมดกล่อง พอคนเริ่มเยอะก็สอดส่องหาเส้นทางใหม่ๆ มีช่วงทางเดินตัดเข้าไปในบึง เขามีป้ายห้ามนำจักรยานเข้า แต่มีคนขี่จักรยานหลายคนอยู่ข้างใน เอาไงดีวะ
   นานๆ มาที ขอจัดหน่อยละกัน เส้นทางแนว Off Road บรรยากาศดีมากๆ น่าจะนำเสื่อมาปูนอน นำอาหารมานั่งกิน นำ Uke มาเล่น ลมพัดเย็นดี โปร่งสบายตา เป็นจุดในไม่กี่แห่งในกรุงเทพฯที่มองไปสุดตาแล้วไม่เห็นตึกสูงใหญ่
   ที่จุดนี้ผมรู้จักเพื่อนใหม่ที่ขี่เข้ามาตามหลัง คุยกันก็รู้ว่าเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนอัสสัมชัญ เขาแก่กว่าผม 4 ปี คุยกันอยู่ตรงนี้ราว 30 นาที แล้วก็แยกย้าย เขาจุอดรถยนต์ไว้ที่สวนหลวง ร9
   ฝันสลาย คิดว่าเขาจะเปิดให้เล่นเรือตอนสัก 0800 หรืออย่างสายก็ 0900 แต่กลายเป็นว่าเปิดตอน 1100 แน่ะ โธ่พี่ ป่านนั้นแดดแม่งก็เผาจนแห้งแล้วสินะ ไม่เป็นไร มันคือกฎของเขา เอาไงดีว่ะ ตอนนี้แดดจัดแล้ว เริ่มไม่สนุกแล้ว ตัดสินใจกลับก็แล้วกัน เดินทางไป Outlet ต่อแทน
   ขากลับวกออกมาทางแยกอุดมสุขก็ตกใจ รถแม่งติดยาวมากๆ ไม่คุ้นไง ไม่ค่อยได้มาแถวนี้ ด้านซ้ายมือมีซอยบอกทางลัดไปออกบางนา ก็ลองมั่วๆ ดู ผ่านบ้านคน ผ่านชุมชนแคบๆ ไปโผล่ตรงข้ามตึกเนชั่นตรง กม 4 ขับตรงต่อไปอีก 4 กม เพื่อกลับรถ ใช้สะพานเดียวกับทางเข้าเมกาบางนา
   ไม่ได้มาที่นี่หลายเดือน ถ้าใกล้บ้านจะมาบ่อยๆ อยากดูข้าวของเครื่องใช้ใหม่ๆ แต่ยุคหลังนี้ราคาสินค้าแพงกว่าเดิมเยอะพอควร ยกตัวอย่างนาฬิกาที่ผมใช้ประจำเคยซื้อเรือนละ 800 ตอนนี้มีรุ่นใหม่ๆ เข้ามาแทน เขาขาย 1700 เสื้อราคา 200-300 ก็น้อยลง กลายเป็น 400-500 แทน
   มีของอยากได้หลายชิ้น คือกางเกงวิ่ง เสื้อชูชีพ  แต่นั่งมองดูมันนานๆ คิดถึงลูกแล้วก็ตัดใจไม่ซื้อ เก็บเงินไว้ให้ลูกใช้เรียนดีกว่า กลายเป็นว่ากลับบ้านมือเปล่า เสียค่าจอดรถไปอีก 20 บาท
   ขากลับเริ่มหิว ดีนะติดถั่วมา 2 ถุง กินไปขับไป เพลินโคตรๆ แป๊บเดียวหมด มาถึงบ้านก็อ้อมรถไปจอดหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวที่กินประจำ แต่เขาเก็บร้านเรียบร้อยแล้ว
   เฮ้ยย นี่แค่ 1200 เองนะ ขายหมดแล้วหรือวะนี่ อึ้ง อึ้ง
   อกหัก กลับมาบ้านก็มีแต่พวกถั่วที่ซื้อสต็อคไว้ เปิดกินไม่ยั้งเลย หิวจัด ยิ่งอาบน้ำ สระผมแล้วสบายตัวมาก นอนบนเก้าอี้ Lazy Boy นี่ยิ่งสุดยอด เผลอๆ อาจมีหลับ
   ตลอดบ่ายก็อยู่บ้าน ไม่ได้ไปไหน ไม่ได้เปิดคอมฯ ดูทีวี ตามข่าวลุงกำนัน เอาใจช่วยพวกกู้ชาติทุกท่าน
Title: Re: มีค 57
Post by: O'Pern on March 05, 2014, 01:11:05 pm
3 มีค 57
   ตาถลนยามเช้า เพระน้ำหนักขึ้นมา 1 กก เมื่อวานอยู่บ้านตลอดบ่าย นั่งกิน นอนกิน ซัดถั่วหมดไปหลายถุง แม้จะดูปริมาณพลังงานแล้วไม่เท่าไหร่ แต่ปริมาณไขมันนี่สิน่าเป็นห่วง เข็ดเลย
   ลงโทษตัวเองด้วยการวิ่ง วิ่งไปคิดไปว่ากินเข้าไปเมื่อวานก็ต้องมาวิ่งเอาไขมันออก แต่วันนี้มีเวลานิดเดียว มิวมีเรียนพิเศษ แปลกดีไหม มาเรียนพิเศษตอนวันมีเรียนปกติ ผมล่ะโคตรงงเลย
   คือต้องหยุดเรียน ขอลากิจเพื่อไปเรียนพิเศษ แถมเรียนเช้าอีกด้วย 0800 จึงต้องออกจากบ้านเร็วกว่าปกติ ส่งมิวที่รถไฟฟ้าเหมือนเดิม เขาเลิกตอน 0300 มั้ง บ่ายไปธนาคารเห็นมีเวลาเหลือนิดหน่อยเลยไปรอมิวในห้าง ระหว่างนั้นก็ดูคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ๆ ในร้าน Banana IT ไปด้วย เพราะปีหน้ามิวเรียน ม1 ผมคิดว่าเขาคงจะต้องใช้คอมพิวเตอร์ส่วนตัวบ้างแล้ว
   ตาลายครับ เจอ window 8.1 ตัวล่าสุด ผมไม่คุ้นแบบจอ Touch Screen ไง คือถ้าเป็นพวก Tablet ก็ไปอย่าง ดูๆ แล้วก็ตาลายกับรูปแบบของมัน ถูกใจ Acer Iconia ที่ถอดแยกหน้าจอได้ มีแป้นพิมพ์ด้วย ผมคงจะพิมพ์หนังสือได้สะดวกมากๆ เลย หรือจะไปเล่นตระกูล Mcintosh ดี ไอ้นี่แพง แต่ทีเดียวจบ ทำงานดี ผมเบื่อ Window ตรงไวรัสนี่แหละ เลยอาจลองย้ายค่าย
กลับมาถึงบ้านก็ขอเล่นเกมเหมือนเดิม
   ไอแพดอีกแล้ว
Title: Re: มีค 57
Post by: O'Pern on March 05, 2014, 01:13:07 pm
4 มีค 57
   วิ่งไปอีก 40 นาที เวลาเหลือน้อยลง ต้องรีบออกไปส่งมิวเรียนพิเศษ วันนี้วิ่งเร็วกว่าเมื่อวานหน่อย อยากให้น้ำหนักมันลงเร็วๆ ไม่น่ากินถั่วเยอะเล้ยย พลังงานมันไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้ไขมันนี่สิมันเยอะแท้
   รีบไปส่งมิวขึ้นรถไฟฟ้า ผมเลยไปที่ทำงานต่อ ไปถึงเช้ากว่าปกติ จอดรถอยู่ริมถนน เจอผู้ชายคนหนึ่งเดินมาเป่านกหวีดแล้วโบกมือเรียก ด้วยความสงสัยเลยเปิดกระจกคุย เขาบอกว่าจอดตรงนี้ผิดกฎหมาย ตำรวจจะเขียนใบสั่งและล็อคล้อ ให้ไปจอดด้านในลานจอดรถตรงโน้น เสียเงิน 30 บาท
   “ครับผม ขอบคุณครับ” ผมตอบเขาไป แต่ก็สงสัยนะว่า เฮ้ย นี่เขาเป็นใครมาจากไหนกันนะ จะว่าคนแถวนี้ก็ไม่ใช่ หรือเป็นคนจากลานจอดรถที่มาคอยหาลูกค้าเข้าไป
   คือริมถนนน่ะจอดได้ แต่เป็นฝั่งวันคู่วันคี่ ส่วนลานจอดรถก็จะมีชาวบ้านมาขอพักอาศัยที่เขาแล้วคอยเก็บเงินค่าจอดรถแบ่งกับเข้าของที่
   มิวเรียนเสร็จ 1000 โทรมาเรียกให้ไปรับเพื่อไปโรงเรียนต่อ ที่จริงขอลากิจนะ แต่ลาไม่ได้ เพราะมีงานแสดงละครเวที มิวเล่นดนตรีขลุ่ยรีคอร์ดเดอร์ ขับไปส่งมิวที่โรงเรียนเลย ไม่ได้เอารถเข้าไปเป็นปีแล้วนะนี่ ขากลับต้องไปกลับรถไกลมาก แถมเจอพวกสิบล้อเต็มไปหมด ไม่คุ้นจริงๆ
   แวะนำรถพ่อไปตรวจสภาพ เตรียมต่อทะเบียน ไอ้คันนี้แรกๆ จดทะเบียนปีละ 5000 กว่าบาท พอตอนนี้อายุเกิน 10 ปีแล้ว ลดเหลือแค่ 2000 นิดๆ
   กลับมาบ้านมาทำงานเขียนต่อ ช่วงนี้สมองไม่ค่อยแล่น คิดถึงแต่เรื่องมิวสอบเข้า ม1 แถมยังไม่ได้ออกไปผจญภัยที่ไหนอีกเลย ต่างประเทศนี่ไม่ได้ไปมานานจนพาสปอร์ทหมดอายุไปแล้ว เหตุผลเดียวคือเก็บเงินไว้ให้ลูกเรียน อย่าหาว่าเว่อร์เลยนะ รายได้ผมน้อยลงมาก รถโบราณก็ขายกินไปหลายคันแล้ว ตอนนี้เหลือแค่มอเตอร์ไซค์ 2 คัน กับเวสป้าอีก 2 คัน มันเหลืออยู่เพราะมันคันเล็ก จอดง่าย เก็บง่าย ไม่กินที่ ไม่เกะกะเท่าไหร่ ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากขายสักคัน คันที่ขายไปแล้วเสียดายสุดก็คือ VW Bus Double Door Panel Van 1957 ไอ้นี่หายากมากในตระกูล VW Bus มันเป็นรถตู้ทึบสำหรับส่งของ รถมันพังและสูญสลายง่ายกว่าพวกรถตู้โดยสาร ส่วนที่เหลือเยอะหน่อยก็คือรถตู้ทั่วไป และรถพยาบาล
   สมัยก่อนนี่เขามีรถแบบทำออกมาเฉพาะกิจเลยนะ รถพยาบาล รถดับเพลิง รถขายของ เรียกว่าซื้อมาแล้วก็ทำมาหากินได้เลย ไอเดียเหล่านี่น่าจะกลับมาอีกครั้งในเร็ววัน
   ถึงบ้านก็ปรี่เข้าไปเปิดตู้เย็นก่อนเลย โชคดีเจอแตงโม ซัดเรียบหมดกล่อง ฮ่าๆ ค่อยยังชั่วหน่อย นี่ขนาดตอนสายกินน้ำเต้าหู้ไป 500 cc แล้วนะ จากนั้นก็ทำงานเขียนต่อ ซึ่งตอนนี้มันดูเหมือนไฟไม่ค่อยแรง ขาดแรงจูงใจ ขาดการกระตือลือล้น นี่ถ้าได้ออกผจญภัยสักทริปคงจะเปิดสมองได้บ้าง เอาน่า อดทนหน่อย ถ้ามิวสอบเสร็จแล้ว คงไปไหนมาไหนสะดวกขึ้นมาหน่อย
   เย็นไปรับมิว วันนี้เขามีการแสดงละครเวที เล่นเป็นนักดนตรี ก็สนุกและตลกแบบเด็กๆ กว่าจะเลิกก็มืดค่ำ ผู้ปกครองก็จับกลุ่มคุยกันในหัวข้อฮอทฮิตไม่เลิก
   “ไปสอบที่ไหนกันบ้าง”
   คนเก่งๆ เขาก็ตระเวนสอบหลายแห่ง พ่อแม่ว่างๆ ก็พาไปสอบหลายแห่ง ส่วนผมที่ไปไหนมาไหนไม่ได้ไกล ต้องรับผิดชอบร้านขายของ ต้องดูแลลูก เลยเลือกโรงเรียนสวนกุหลาบอันเดียวนี่แหละครับ วัดใจกันไปเลย
สอบมันที่เดียว แห่งเดียว ซัดกันทีเดียว ขอให้ตั้งใจจริง เอาจริง ผมว่ามิวทำได้
ลุงกำนันย้ายมาสวนลุมได้สองคืนแล้ว ส่วนพวกแบ่งแยกดินแดนก็ดิ้นหนีกันพลานเพราะงานนี้ทหารเอาจริง ไอ้พวก สปป ล้านนา ก็เลี่ยงบอกว่า สปป ย่อมาจากโน่นนี่บ้าง ไม่ได้เป็นเหมือน สปป ลาว
มึงคิดว่าทหารเขาแดกหญ้าเหมือนมึงหรอ
Title: Re: มีค 57
Post by: O'Pern on March 06, 2014, 01:06:54 pm
5 มีค 57
   ช่วงนี้วิ่งได้น้อยหน่อย เวลาจำกัด ต้องออกจากบ้านเร็วกว่าเดิม วันนี้วิ่งได้อีกแค่ 40 นาที แต่อาศัยวิ่งเร็วกว่าเดิมนิดหน่อย เรียกเหงื่อออกมาได้พอๆ กับเดิม
   อาหารมื้อเช้าสำคัญสุด วันนี้มีแกงอะไรก็ไม่รู้ ใส่มะเขือเปาะ และมะเขือพวง น้ำสีส้ม แต่รสชาติคล้ายแกงเขียวหวาน แปลกๆ ว่ะ มีผักแกล้มคือบร็อคโคลี่ และแครอท กระเทียมสด กินกับข้าวกล้องเหมือนเดิม ก่อนอาหารมีน้ำแครอทคั้นแยกกาก 1 แก้ว
   เจอข่าวหญิงโดนระเบิดมือขาดขณะนำระเบิดไปวางที่รถของเจ้าหนี้ที่เขากู้เงินมา 3 ล้านแล้วกะจะฆ่าล้างหนี้ ไม่รู้จะสงสารหรือสมน้ำหน้าดี แต่เป็นตัวอย่างของคำว่าให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว
   รีบเร่งอาบน้ำ แต่งตัว ออกไปส่งลูกที่รถไฟฟ้า มิวชอบเดินทางด้วยรถไฟฟ้ามาก เขาบอกชอบยืนชมวิว แต่ถ้ารถโล่งๆ ก็ขอนั่งบ้างเหมือนกัน จึงสอนเขาว่าหากมีผู้ใหญ่ลุกให้นั่งก็ต้องไหว้ขอบคุณและช่วยเขาถือของ (ถ้ามี) และถ้าเราเป็นคนนั่ง แล้วมีคนถือของมายืนใกล้ๆ ก็อาสาช่วยเขาถือของเสียหน่อย
   ตอนเช้าไปลงสินค้าในโกดัง สายหน่อยมิวโทรมาเรียกให้ไปรับเสียแล้ว วันนี้อยู่ร้านหน่อยเดียว เย็นนี้มิวมีละครเวทีอีกชุด คราวนี้เล่นโขนเลย มิวบอกว่าเขาเล่นเป็นตัวตลก เออ สงสัยว่ะว่าจะตลกอย่างไร เย็นนี้ไปรอลุ้นเอา ก็ขอให้ลูกแสดงให้สมบทบาท เล่นให้เต็มที่ก็แล้วกัน เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว
   บ่ายมีช่างมาซ่อมระบบประปาในบ้านหลังเล็กของผม ไอ้หลังนี้ไม่ได้เข้าอยู่หลายปีแล้ว บูรณะล่าสุดแล้วเงินหมด เลยไม่ได้ตกแต่งต่อ ถ้าอยู่เองคนเดียวล่ะก็สบายครับ ห้องโล่งๆ ผมก็อยู่ได้ โต๊ะก็ใช้ลังไม้มาแทนได้ แต่กลัวภรรยาเขารับไม่ได้นี่สิ มันก็เลยกลายเป็นห้องจักรยานแทน
   ถ้ามีเงินก็อยากตกแต่งให้อยู่อาศัยได้นะ แต่สันดานดีไซน์เนอร์ เราก็อยากให้มันมี “ลุค” ในแนวของเราด้วย ห้องนี้สไตล์ Loft ครับ Loft กันตั้งแต่ 20 กว่าปีก่อนโน้นแล้ว คิดเอง สร้างเอง (คุมคนงาน) ออกแบบเอง แต่ให้วิศวกรโครงสร้างช่วยดูแลจุดหลักให้
   อยู่บ้านก็ทำงานไป ออกกำลังกายไปด้วย วิดพื้นไปได้ 100 ครั้ง ซิทอัพอีก 100 ไถ่โทษที่แดกเยอะ เพราะแอบกินถั่วไปอีก 2 ถุง ก็มันหิวนี่หว่า ก่อนหน้านั้นกินสละหมดไปหลายลูกแล้วก็ยังไม่หาย
   MG โทรมาเชิญไปร่วมงานเปิดตัวรถในงาน Motor Show ที่จะจัด 24 มีนาคมนี้ โอ้ ไอ้รถค่ายนี้น่าสนใจครับ ผมพอจะคุ้นเคยกับผู้บริหารค่ายนี้คือ ดร วิทย์ รู้จักกันสมัยเขาดูแล BMW ตอนผมทำ Racing Club นี่แหละ เจอกันล่าสุดงาน Motor Expo ตอนผมไปยืนดูรถ MG โบราณอยู่นานแสนนาน เป็นรถ MG-A และ MB-B ผมบอกเขาว่าถ้าอยากเปิดตัวแล้วขายได้ดี ก็ต้องเอารถคลาสสิคแบบนี้กลับมาทำใหม่อีกครั้ง ระบบเดิมๆ โลวเทคนี่แหละ รับรองขายกระจาย มีข้อแม้กดราคาอย่าให้เกินล้านนะ
   น้ำท่วมใหญ่ในเมืองไคร์สเชิร์ส นิวซีแลนด์ พักหลังเมืองนี้โดนธรรมชาติจัดเต็มบ่อยจัง มีแผ่นดินไหวใหญ่เพิ่งเกิดไม่กี่ปีนี้เอง
   เอเวอร์เรสเปิดข่าวขยะเกลื่อนเต็มยอดเขา เต็มไปด้วยซากเต้นท์ เชือก กระป๋องออกซิเจน ฯลฯ อันนี้งานช้าง พอๆ กับการดำน้ำลงไปเก็บขยะในทะเลเลย
   อเมริกายังคงโดนคลื่นความเย็นเข้าปกคลุมไม่เลิก หนาวไม่บันยะบันยัง
   เย็นไปดูมิวเล่นละคร เป็นการแสดงโขนแบบชุดใหญ่ ใช้ชุดอย่างดีที่ทางโรงเรียนเช่ามา ดูดีครับ ตื่นตาตื่นใจดี มิวเล่นมีบทพูดด้วย (ปกติโขนเขาจะไม่มีพูดกัน) มิวเล่นเป็นทหารยักษ์ที่กำลังถือเครื่องตรวจวัตถุระเบิด (ติงต๊องจริงๆ )
   เล่นโขนเสร็จก็ถ่ายรูปร่วมกับผู้ปกครอง ฮือฮากันมาก เพราะแต่งชุดกันแบบมืออาชีพจริงๆ สวยงามมากครับ เท่ดีด้วย ผมยังไม่เคยแต่งแบบนี้เลย
   กลับถึงบ้านมิวขอกินสเต็คหน้าปากซอย แถมไล่ให้ผมเข้าบ้านไปก่อน เขาอยากนั่งกินคนเดียว ผมเดาว่าคงจะต้องสั่งเมนูที่ผมไม่ชอบให้เขากินแน่ๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ไม่อยากตึงมากนัก
Title: Re: มีค 57
Post by: O'Pern on March 07, 2014, 01:24:35 pm
6 มีค 57
   วิ่ง วิ่ง วิ่ง ถ้าหุ่นไม่ดี ไม่มีทางเลิก วัดกันดูสักตั้ง จัดไปอีก 50 นาที น้ำหนักลดลงช้าเหลือเกิน แต่คิดถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้วก็มีพลังครับ
   เป้าของผมคืออยู่ถึงอายุ 100 ปี และจะต้องอยู่อย่างมีคุณค่าด้วยนะ ไม่ได้แบบนอนอยู่บนเตียง หรืออยู่บนรถเข็น ผมจะต้องยังคงขี่จักรยานได้แบบสบายๆ จะต้องไปบริจาคร่างกายเพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่ บริจาคอวัยวะทุกส่วนเท่าที่จะทำได้ คนที่จะนำอวัยวะของผมไปใช้ต่อจะได้ของดีๆ นั่นคือผมต้องดูแลสุขภาพให้ดีอยู่เสมอ
   โห เป้าใหญ่โคตร
   คิดได้ ก็ทำได้ครับ ผมวิ่งจนไม่เจ็บขาอีกแล้ว ร่างกายน่าจะปรับตัวได้ กล้ามเนื้อหัวใจของผมตอนนี้คงจะต้องแข็งแรงกว่าเดิมมาก ไว้ปีหน้าถ้าไปตรวจสุขภาพอีกครั้งคงจะเห็นความต่าง

   อยู่ว่างๆ เลยหาข้อมูลสานฝันให้มิว คุยกันบ่อย ถามกันเกือบทุกวันว่าฝันของลูกยังเป็นแบบเดิมอยู่ไหม มิวตอบหนักแน่นว่า “เหมือนเดิมครับ”
   มิวเขาคิดเอง ฝันเอง ผมไม่ได้มีส่วนยุ่งเกี่ยวอะไรด้วยเลย ส่วนตัวผมชอบแต่เรื่องรถยนต์ มุ่งมั่นไปในด้านงานขับรถทดสอบโดยเฉพาะ ฝันของผมมันคงเป็นเพียงแค่ความฝัน แต่กับลูกแล้วผมอยากให้ฝันของเขาเป็นจริง
   เจอข้อมูลอะไรเกี่ยวกับด้านการบินก็จะเก็บไว้ให้เขาอ่าน วันนี้เจอบทสัมภาษณ์ของนักเรียนนายเรืออากาศ เขาเล่าบรรยากาศของการเรียน การฝึก และการกิน อยู่ หลับนอน ให้มิวอ่าน เขาจะได้เกิดไฟ จะได้มองเห็นฝันของตัวเองชัดขึ้น
   ตอนผมฝัน ไม่มีใครสนับสนุน แถมยังโดนกีดกันสารพัดวิธี มันต้องไม่เกิดขึ้นกับมิว ผมทำฝันของผมไม่สำเร็จไม่เป็นไร ขอให้มิวหาฝันของเขาและทำให้มันเป็นจริงได้ก็แล้วกัน
   ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เจ้าจงอย่าละทิ้งความฝันของตน ถ้าอยากจะตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ ก็จงทำความฝันของเจ้าให้เป็นจริง
   ขอแค่นี้จริงๆ

   วันนี้โรงเรียนหยุด มิวเรียนพิเศษตลอดวัน เช้าไปส่งขึ้นรถไฟฟ้า ผมไปร้านขายของต่อเหมือนเดิม อยู่จนบ่ายๆ ก็เข้ามาบ้าน กลางวันกินก๋วยเตี๋ยวหมู 1 ชาม ใส่ผักเยอะๆ เหมือนเดิม เลือกวุ้นเส้นด้วยนะ จะได้อ้วนน้อยหน่อย
   เข้ามาบ้านตอนบ่าย กะว่าจะไม่กินอะไรอีกแล้ว แต่พอเห็นถั่วก็หยิบมากินหน้าตาเฉย ทั้งๆ ที่ไม่ได้หิวเลย กินเพราะอยากกินมากกว่า ไอ้แบบนี้นิสัยไม่ดีเลย จึงลงโทษตัวเองด้วยการวิดพื้นและซิทอัพไปอีกอย่างละ 100 ครั้ง
   เย็นสองจิตสองใจว่าจะไปขี่จักรยานดีไหม หรือไปว่ายน้ำที่คอนโดดี หรือไปวิ่งที่สวนสาธารณะดี คิดไปคิดมาก็มีข้อแม้มากมายสารพัน สรุปคืออีกใจเรามันยังไม่อยากไปก็หาข้ออ้างโน่นนี่
   สองจิตสองใจ เอาไงดีๆ สุดท้ายก็กัดฟันออกไปวิ่งที่ศูนย์เยาวชนบางมด เริ่มชอบวิ่งแล้วครับ เหนื่อยดี สมาธิดี จิตนิ่งและสงบดี ออกแรงมากกว่าจักรยานเยอะเลย น่าจะทำให้น้ำหนักตัวลงเร็วกว่านะ
   อ้อ วันนี้ไม่ต้องไปรับมิว เขาเรียนพิเศษจนถึงเย็น ภรรยาผมจัดการไปรับเอง
   สุดท้ายตัดสินใจไปวิ่งครับ ที่เดิมนั่นแหละ ศูนย์เยาวชนเฉลิมพระเกียรติบางมด อยู่ตรงข้ามเทคโนบางมด ที่เดียวกับเมื่อครั้งมาวิ้งในวันอาทิตย์เช้า แต่นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี (น่าจะกว่าสิบปี) ที่ผมมาตอนเย็น
   วิ่งรอบนอกสนามฟุตบอลครับ ด้านในมีนักเรียนจากโรงเรียนกีฬากำลังฝึกซ้อมกัน ลู่วิงรอบนอกยาวราว 800 เมตร ไม่น่าเชื่อนะ ผมวิ่ง 1 ชม ทำระยะทางได้ถึง 14 รอบ นั่นคือสถิติความเร็วใหม่อีกด้วย 10.5 กม/ชม โหห ปกติตอนเช้าจะวิ่งได้แค่ 6 -7 เอง ถ้ากัดฟันสู้หน่อยก็ได้ 8 แต่นี่วิ่งตอนเย็น ทำได้ 10.5 เฉยเลย
   น่าจะเป็นเพราะว่าวิ่งเย็นนี่แหละครับ ร่างกายเราวอร์มอัพมาเต็มที่ตลอดวันแล้ว ต่างจากตอนเช้าที่เพิ่งตื่นมาก็ซัดเลย
   ตกเย็นนักกีฬาเลิกซ้อม เลยเข้าไปวิ่งด้านในสนามฟุตบอลต่อ ลู่วิ่งด้านนอกยาว 600 เมตร ผมใช้เดินเร็วถอยหลัง 1 รอบ แล้วไปวิ่งขึ้นลงบันไดที่อัฒจรรย์อีกหลายรอบ
   ขากลับเจอภาพน่าตกใจ คือรถของคนมาออกกำลังกายเยอะมากๆ จอดซ้อนคันกันแบบไม่เว้นระยะให้เข็นเลย รถผมกว่าจะออกได้ก็ต้องไปเข็นรถด้านหน้าอีก 5 คัน ต้องกะระยะให้ดีด้วยนะ ไม่งั้นคันสุดท้ายที่ขวางหน้าเรามันไม่พ้นไง ทำให้ต้องเริ่มเข็นใหม่ทั้งหมด
   กลับมาบ้านรีบชั่งน้ำหนัก สะใจดีครับ หายไปอีก 1 กก (แต่มันลดชั่วคราว เพราะร่างกายเสียเหงื่อ)
   ภรรยาและลูกยังไม่กลับ อาศัยเวลาว่างรื้อตู้เสื้อผ้า ความสุขยามนี้คือการหยิบเอาเสื้อผ้าเก่าๆ ที่เคยใส่ไม่ได้แล้วมาลองสวม และคัดแยกเสื้อผ้าไซส์ L ลงเก็บเข้ากล่อง หวังว่าเราคงไม่ต้องมาพบกันอีก
Title: Re: มีค 57
Post by: O'Pern on March 10, 2014, 05:54:41 pm
7 มีค 57
   วิ่งเข้าไป วิ่งเข้าไป หายใจเข้าออกตามจังหวะก้าวของเท้า ดูๆ ไปมันก็คือการทำสมาธิดีๆ นี่เอง มิน่าเล่าพวกนักกีฬาถึงมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดีกว่าคนที่ไม่ได้ออกกำลังกาย จะว่าผลพลอยได้ก็ไม่เชิง มันน่าจะเป็นผลเด่นเลยด้วยซ้ำ
   จิตกับกายต้องไปควบคู่กัน เผลอๆ จิตสำคัญกว่าอีกด้วย (ในความคิดของผม) วันนี้วิ่งไป 1 ชม แถมเดิน Cool Down ชุดใหญ่ มีเวลาเหลือเยอะ มิวไม่ต้องไปเรียนพิเศษ
   วันสุดท้ายของปีการศึกษา ทางโรงเรียนมีงานตั้งแต่เช้า ผมขอลากิจที่ร้านขายของ 1 วัน วันสุดท้ายแล้วผมขอแต่งหล่อหน่อย เผื่อจะมีการถ่ายภาพหมู่จะได้ดูเรียบร้อยหน่อย ปกติจะใส่ชุดแบบสบายโคตรๆ ไป จนเด็กๆ นักเรียนเพื่อนมิวชอบถาม
   “พ่อมิวๆ พ่อมิวทำงานอะไรหรอ”
   “ทำงานขับรถส่งของครับ” ผมก็ตอบไปตามนั้น แต่เด็กๆ ทำหน้าไม่เชื่อ บอกว่าผมโกหก
   “ทำงานขับรถ ทำไมใส่ขาสั้นล่ะ”
   “อ้าว ก็ขับรถส่งของไง ใส่ชุดอะไรก็ได้”
   “ไม่เชื่อๆ ทำงานขับรถต้องใส่กางเกงขายาวแบบนั้น” อีฟ พูดพร้อมกับชี้ไปยังผู้ปกครองอีกท่านที่ใส่ชุดราชการครึ่งท่อน กางเกงขายาวสีกากี เสื้อยืดคอกลมสีขาว
   “เฮ้ย นั่นมันราชการ ไม่ใช่คนส่งของ” ผมแย้ง
   อีฟกับเพื่อนหัวเราะเริงร่า ผมสนิทกับพวกเด็กๆ หลายคนมาก ตอนเด็กเล็กๆ นี่ชอบมาเล่นกับผม ดึงแขน ดึงขา ปีนป่าย พอไม่ว่าอะไรนี่ยิ่งชวนเพื่อนมาปีนป่ายตัวผม ราวกับว่าเป็นของเล่นมหาสนุก
   ไม่มีภาพเหล่านั้นอีกแล้วสินะ นกน้อยเหล่านี้ถึงวันที่จะต้องสละรัง ออกโบยบินสู่โลกกว้าง สู่อิสสระเสรี เดินทางตามหาความฝัน
ลูกนกบินใหม่ๆ ยังไม่คล่อง อาจต้องมีพักบ่อยบ้าง นกตัวที่แข็งแรงก็ย่อมต่อยอดไปได้ดีกว่านกตัวเล็กที่เพิ่งหัดบิน มันเป็นสัจจะธรรม
นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผมขับรถไปจอดที่โรงเรียน แถมยังเป็นครั้งสุดท้ายในปีการศึกษานี้อีกด้วย งานวันนี้คือวันรับประกาศนียบัตร พิธีบายศรี อำลา และมีงานเลี้ยงเล็กๆ ตอนกลางวัน
ด้านนอกอาคารครูนำภาพเด็กๆ มาติดโชว์ ก็ฮากันไปครับ รวมฮาตั้งแต่เด็กเล็กๆ อนุบาล ประถมต้น ประถมปลาย เป็นภาพที่ครูถ่ายตอนเด็กอยู่โรงเรียน บ้างก็ตอนไปออกค่ายพักแรม ล้วนเป็นภาพที่ผู้ปกครองไม่เคยเห็นมาก่อน
พิธีเริ่มตอน 0900 มีเด็กรุ่นน้องนำของที่ละลึกมามอบให้รุ่นพี่ที่จะจบออกไป ก็แล้วแต่เด็กเขาจะทำนะ บางคนเป็นสมุดภาพ บางคนก็ได้ต้นไม้ บางคนได้การ์ด ฯลฯ
เด็กๆ มีการแสดงร้องเพลง บรรยากาศแบบอำลาอาลัย ครูร้องเพลงคิดถึงลูกศิษย์ มีคนร้องไห้กันหลายคน ปิดท้ายด้วยพิธีบายศรีผูกข้อมือ ได้มาเต็มแขน มิวบอกจะไม่ถอดออกจนกว่าจะสอบเข้าสวนกุหลาบเสร็จ เพราะครูอวยพรให้เขาสอบได้
มีงานเลี้ยงอำลา ปาร์ตี้เล็กๆ มีอาหารหลากหลาย แต่มิวพุ่งมุ่งตรงไปยังพิซซ่า หยิบมา 3 ชิ้น สุดท้ายเอามาโชว์บอกว่ากินไม่หมดทำไงดี
ไหว้อำลาครู แล้วรีบพามิวไปส่งที่รถไฟฟ้า มิวยังคงมีเรียนพิเศษตลอดทุกวันจนถึงวันสอบโน่นเลย ช่วงนี้ก็เป็นการตลุยโจทย์พิชิตการสอบเข้า ม1 น่าแปลกจริงๆ ที่มิวเขาชอบเรียนพิเศษมาก ไม่ต้องบังคับขู่เข็ญกัน แต่บางทีมันก็เรียนมากไปจนไม่ได้ใช้ชีวิตผจญภัยสนุกสนานแบบเด็กๆ ก็ขนาดวันหยุดยังขอไปเรียน ตื้อให้ไปส่งที่รถไฟฟ้าหน่อย
ส่งมิวเสร็จกลับบ้านทั้นที หิวจัดครับ อยู่ที่โรงเรียนของกินเพียบ น่ากินตั้งหลายอย่าง แต่ก็ให้เด็กๆ เขากินกันก่อน ไฮไลท์คือพิซ่า ซูชิ บะหมี่หมูแดง และส้มตำ ผมนั่งดูพวกเด็กๆ กินแล้วก็คิดถึงเขานะ คงไม่ได้เจอกันแล้ว ไม่สิ บางคนยังอาจเจอกันบ้าง แต่ก็มีบางคนที่คงจะต้องแยกย้าย
ผ่านร้านก๋วยเตี๋ยวแถวบ้านแต่ไม่แวะนะ อยากกินแต่กลัวอ้วน โชคดีที่บ้านทำถัวแดงต้มเอาไว้ ซัดไป 2 ชามใหญ่ หึหึ ตามด้วยถั่วลิสงอบอีกนิดหน่อย จัดเต็มจนอิ่มแล้วก็หนังตาหย่อน
เปิดคอมฯทำงานเขียนนิดหน่อย ที่จริงน่าจะเรียกว่างานพิมพ์นะ สมัยนี้ไม่มีใครใช้เขียนกันแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่พิมพ์สัมผัสได้โดยไม่ต้องมองแป้นนี่ พิมพ์อย่างเร็วเลย แถมผิดก็แก้ไขได้ง่าย สะดวก ข้อเสียก็คือชิ้นงานที่ออกมาจะไม่มีวิญญาณ ไม่เหมือนเขียนด้วยลายมือ
วิ่งครบ 2 เดือนแล้วนะนี่ ลดน้ำหนักไปได้แค่ 5 กก เท่านั้นเอง ที่จริงก็โอเคแล้วนะ หุ่นประมาณนี้กำลังดี แต่แหม ไหนๆ ก็สู้มาสองเดือนแล้วมันก็อยากได้กล้ามท้องหล่อๆ กับเขาบ้าง ซึ่งหลังจากนี้มันจะต้องสาหัสกว่าเก่าถึงได้ ผมไม่ชอบไปยิมเสียด้วยสิ ก็เลยทำแค่วิดพื้น ซิทอัพ กายบริหารแบบทำเองตอนอยู่บ้านได้
ตกเย็นสองจิตสองใจอีกแล้วว่าจะไปวิ่งอีกดีไหม ไม่ได้ขี้เกียจหรอก แต่วิ่งเยอะจัดมันสงสารหัวเข่า กลัวระยะยาวจะเป็นโทษนี่ซวยเลย ขณะคิดก็ทำซิทอัพไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็ลองเหยียดยืดเส้นแบบโยคะบ้าง ทำเอง คิดเอง ไม่ได้ดูจากตำราที่ไหน สุดท้ายก็หมดแรง เหนื่อยหอบ อยู่กับบ้าน
ไม่ต้องไปรับมิวครับ เขาเรียนเลิกหัวค่ำ ภรรยารับกลับบ้านและพาทานอาหารเย็นพร้อม
Title: Re: มีค 57
Post by: O'Pern on March 10, 2014, 06:00:23 pm
8 มีค 57
   วิ่งยามเช้านี่สบายดีครับ มีลมพัดเย็นเบาๆ ถ้าทำเลบ้านใครต้นไม้เยอะๆ นี่ผมว่าสุขสุดๆ เสาร์อีกแล้ว พรุ่งนี้วันอาทิตย์ผมน่าจะหยุดพักวิ่ง 1 วันนะ สงสารหัวเข่าตัวเองเหมือนกัน จะไปขี่จักรยานที่ไหนดีนะ บางขุนเทียนชายทะเลก็ไปบ่อยแล้ว แถมสะพานไม้ก็พังโดนชาวบ้านเลาะขโมยไม้ไปหน้าตาเฉย หรือจะไปบางน้ำผึ้งดี ไอ้นี่แหล่งของกินเลย ไปแล้วอาจไม่ผอมดังคาด วิ่งไปคิดไป คิดไปเรื่อยๆ
   เช้านี้วิ่งไปได้ 45 นาที วิ่งเช้าๆ นี่ต่างจากวิ่งตอนเย็นเยอะเลย ความเร็วทำได้แค่ 6.5 กม/ชม ต่างจากวิ่งตอนเย็นที่ร่างกายเราวอร์มมาพร้อมแล้ว วิ่งขำขำยังได้เกิน 10 กม/ชม
   ตอนใกล้เที่ยงหิวจัด ไม่มีอะไรกิน เห็นกล้วยน้ำว้าที่ไหว้เจ้าแล้ว เลยปลิดมากินทีละลูกๆ ไม่น่าเชื่อว่าถึงเที่ยงนี่ผมซัดไป 4 ลูก แถมยังไม่หายหิว
   บ่ายมีข่าวเศร้าว่ะ เศร้าโคตรๆ เลย ผมจอดรถอยู่ริมถนนไว้หลายชั่วโมง พอจะออกรถก็เคลื่อนตัวช้าๆ เข้าเกียร์ D และเลียๆ เบรกไว้ ไม่กดคันเร่ง แต่รถมันติดคล้ายไปทับอะไรสักอย่าง ใจผมคิดว่าคงเป็นพวกขยะริมถนน ขวดน้ำ ไม่ก็พวกรองเท้าแตะเด็กที่ทำตกหล่นตอนนั่งมอเตอร์ไซค์ เลยออกแรงกดคันเร่งไปนิดหนึ่ง นึกเอะใจและเหลือบดูกระจกข้างตอนรถออกจากจุดนั้นมาแล้ว
   ไอ้สัตว์เอ๊ยย ผมเหยีบบแมวว่ะ ดิ้นพล่านเลย และตลอดทางที่ขับรถก็คิดถึงแต่เจ้าแมวตัวนี้ ขอโทษๆ ๆ
   เมื่อวานขณะวิ่งอยู่ตอนเช้าก็มีแมวดำวิ่งตัดหน้า เล่นเอาตกใจเลย นี่ผมจะทำอย่างไรดีวะนี่ ไปฆ่าสัตว์เข้าเสียแล้ว รู้สึกไม่สบายใจจริงๆ แม้จะไม่ได้ตั้งใจก็เถอะ
   ไปทำธุระที่ธนาคารในห้าง ซื้อถั่วมาตุนสต็อคเอาไว้กิน เลือกถั่วแบบที่ไม่ค่อยได้กินาด้วย วันนี้เล่นพีแคน เฮเซล อยากเอาแมคคาเดเมียมาด้วยนะ แต่ไอ้นี่ไขมันเยอะสุดๆ เลย ไม่กล้ากิน แม้จะมีประโยชน์ต่างร่างกายนะ แต่มันอ้วนแน่ๆ
   เดินหาของกินก็เจอแต่แบบกินแล้วไม่ผอมสักอย่าง ไปหยุดดูตรงมุมสลัดบาร์แต่เปลี่ยนใจไม่กินเฉยเลย ขับรถกลับบ้านเลย
   พอขึ้นรถก็คิดถึงแมวอีกแล้ว ทำไงดีๆ คิดแบบนี้ไปตลอดทางจนถึงบ้าน กลับมากินสตอเบอรี่ที่บ้าน กินสลับกับถั่วลันเตาอบที่เพิ่งซื้อมา พอได้นะ อิ่มเหมือนกัน มื้อนี่น่าจะพลังงานราว 300-400 กิโลแคลอรี่ มันก็พอๆ กับก๋วยเตี๋ยวน้ำสักชาม (ไม่ปรุงต้มยำนะ) แต่ก๋วยเตี๋ยวจะได้พลังงานจากเส้นที่เป็นแป้ง แต่ยังดีที่มีผัก
   หลักการลดน้ำหนักของผมคือกินผักผลไม้มากๆ ลดละมื้อเย็น ใช้พลังงานให้มากกว่าที่กินเข้าไป ง่ายๆ แค่นี้แหละ
   ตลอดเย็นจนถึงค่ำผมต้องออกกำลังกายอีกชุด
   วันนี้ครบรอบอายุ 100 ปีสนามบินดอนเมือง เป็นสนามบินที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังคงเปิดใช้งานอยู่
   วันนี้อีกเช่นกันที่เป็นวันสอบเข้า ม1 ของโรงเรียนรุ่งอรุณ โรงเรียนที่เพื่อนๆ มิวแห่กันไปสอบมากที่สุด รับแค่ 5 คน ไปสอบกันกว่า 25 คน แต่ไม่มีผมอยู่ในกลุ่มนั้น ทั้ง ๆที่ตอนเด็กๆ อยากจะเอามิวเข้าเรียนที่นี่ แต่ตอนไปสอบก็เกิดทะเลาะโวยวายกับครูตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้า ก็เลยเกิดความอคติต่อโรงเรียนแห่งนี้ ทั้งๆ ที่อยู่ใกล้บ้านนิดเดียวเอง
Title: Re: มีค 57
Post by: O'Pern on March 10, 2014, 06:03:04 pm
9 มีค 57
   ไม่สบายใจว่ะ ตั้งใจไว้ว่าจะขี่จักรยานไปซื้อปลาที่ตลาด เอาไปปล่อยในแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อวานทำร้ายแมวมา ก็ขอไถ่ชีวิตปลาแทน
   แต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนแผนครับ เมื่อคืนแม่มาถามว่าวันพรุ่งนี้จะไปไหนหรือเปล่า แม่จะไปบ้านที่สระบุรี ถ้าไม่มี่ธุระอะไรก็ให้ผมช่วยอยู่เฝ้าบ้าน
   อ้าว คิดว่าจะชวนไป จะได้ช่วยขับรถให้ ว้า….
   เลยไปวิ่งแทนครับ ไปแบบไม่ได้ตั้งตัวเลย วิ่งแบบจัดหนักเหมือนเดิม ซัดไป 24 กม แถมทำเวลาได้ดีอีกด้วย ครั้งล่าสุดระยะทาง 24 กม ผมใช้เวลาเกือบ 3 ชม แต่วันนี้แค่ 2.25 ชม เอง
   ก่อนออกจากบ้านก็ซัดกล้วยน้ำว้าไป 2 ผล เออ แปลกอีกอย่างคือช่วงนี้ผมวิ่งแล้วกินน้ำน้อยลงกว่าเดิมมากเลย อย่างวันนี้จิบน้ำทุกๆ 3 กม วิ่ง 24 กม ยังกินน้ำไปไม่ถึง 1 ลิตรเลย
   วิ่งเสร็จแดดเริ่มแรงจัดพอดี เดินถอยหลัง 1 รอบ เพื่อ Cool Down เดินเล่นให้เหงื่อแห้งลงสักหน่อย แล้วเปลี่ยนเสื้อกางเกงที่เตรียมมา จะได้นั่งขับรถอย่างสบาย เนื้อตัวจะได้ไม่เหนียวเหนอะหนะจากเหงื่อ
   ขากลับแวะกินบะหมี่เกี๋ยวน้ำร้าน “โซโห” เป็นร้านบะหมี่รสชาติดีมาก อยู่ในซอยวัดพุทธบูชา ไม่ได้กินมาหลายปี วันนี้ปรับปรุงร้านใหม่ ติดแอร์ด้วย นั่งสบายกว่าเดิมหน่อย หิวจัดครับ สั่งเปาะเปี๊ยะสดมากินด้วย แต่ไอ้นี่รสชาติยังไม่เด็ดขาด สู้บะหมี่ไม่ได้ เส้นดี น้ำซุปยอด เกี๊ยวลูกโตๆ เหมือนทางฮ่องกง ไม่ใช้ผงชูรส ราคาชามละ 40 บาท เสียตรงให้ผักกวางตุ้งน้อยไปหน่อย กินแล้วไม่เสียดายเงินครับ ผมซดจนน้ำแห้งชามเลย
   กลับมาบ้านอาบน้ำ สระผม ให้อาหารปลา ให้อาหารหมา แล้วไปคอนโดต่อ วันนี้นัดช่างไฟมาแก้ระบบไฟ ช่างมาตรงตามนัด ทำแค่ 15 นาทีก็เสร็จแล้ว เขาบอกแค่ขาขั้วหลอดหลวม ปัดโธ่
   รีบกลับเข้าบ้าน แม่สั่งให้เฝ้าบ้านไง ตอนนี้ 1220 หิวอีกแล้ว แวะร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำ แต่พอเดินไปถึงหน้าร้าน เห็นเจ้าของส่งยิ้มขณะกำลังเช็ดทำความสะอาดตู้ อ้าว หมดแล้วหรอ เร็วโคตรๆ เลย นี่ก็เป็นอีกร้านที่อร่อยมาก
   อกหัก กลับมาบ้านกินถั่วแทนก็ได้วะ มีสต็อคเอาไว้แล้ว เหลือกล้วยน้ำว้าอีก 2 ผล ก็ซัดต่อไปเลย ในตู้เย็นยังเหลือน้ำเต้าหู้ใส่เม็ดแมงลักอีก 2 ถุง เอาไว้กันเหนียว เผื่อหิวแล้วไม่มีอะไรกิน
   เพลียครับ เจอแอร์เย็นๆ นี่เกือบหลับ อยู่บ้านก็เดินไปเดินมา เล่น Uke อ่านหนังสือ แต่จะดูทีวีเสียมากกว่า เจอรายการกบนอกกะลาตอน Cobra Gold ยิ่งชอบดูใหญ่ ไอ้เหตุการณ์นี้ผมเคยมีประสบการณ์ตรงตอนสมัยหนุ่มๆ ผมนอนอยู่บ้านที่ระยอง ริมทะเลหาดแม่รำพึง ยุคนั้นชายหาดยังไม่มีโรงแรมที่พักมากเหมือนทุกวั้นนี้ บ้านผมตั่งร่นเข้ามาหน่อย ไม่ได้ติดทะเลแบบแนบชิด แต่ด้านหลังเป็นลานกว้างโล่งๆ ผืนใหญ่มาก ชาวบ้านชอบจูงวัวมาเดินกินหญ้า
   ปิดเทอมหรือว่างๆ ผมชอบมาบ้านหลังนี้ วันหนึ่งขณะฟ้ายังไม่สว่างดี ผมได้ยินเสียเฮลิคอปเตอร์หลายลำ เสียงดังมากๆ จนตื่นมาดูที่หน้าต่าง ภาพที่เห็นแม่งเหมือนฝัน
   ฮ ลอยลำนิ่งๆ แล้วมีทหารโรยตัวไหลลงมาทีละคนๆ ลงมาถึงก็ซุ่มตามสภาพแวดล้อม ตกใจสิ เลยวิ่งไปมองหน้าต่างอีกด้าน เจอรถสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกเป็นสิบๆ คัน แม่งแล่นฝ่าทะเลเข้ามา พอถึงผืนทรายก็เปิดกางด้านหน้ารถออก ทหารกรูกันออกมาเป็นสิบ
   เฮ้ย ไอ้สองพวกนี้แม่งต้องรบกันแน่ๆ แต่กูอยู่ตรงกลางนี่หว่า ทำไงดี
   ยุคนั้นมีแค่ทหารไทย-สหรัฐนะครับ มากันแบบอาวุธครบมือเลย ไม่ได้ฝัน ของจริงล้วนๆ ตอนนั้นยังไม่รู้จัก Cobra Gold
   วิ่งลงจากบ้านไปหา “พี่นอม” แม่บ้านที่ดูแล พี่นอมบอกว่าเขามาซ้อมรบ ไม่มีอะไร
   อ้าว สวยสิ พอบอกไม่มีอะไรก็รีบตื่นแล้วเอากล้องออกไปตระเวนถ่ายทหารเลย ยุคนั้นกล้องฟิล์มนะครับ ผมไปไหนมาไหนก็ชอบพกกล้องตลอด เลยได้ภาพนั้นเก็บไว้จนถึงทุกวันนี้
   ดูเขาซ้อมรบในทีวีก็นึกถึงเหตุการณ์ที่เราเคยเจอมาหลายปีก่อน เริ่มจะต่างกันเยอะมากครับ เพราะทุกวันนี้มีหลายประเทศเข้าร่วมฝึก เช่นมาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลี ฯลฯ โดยรวมคือประเทศในละแวกบ้านเรานี่แหละ
   เย็นพ่อกลับมาบ้าน ขนไม้ไผ่มาหลายลำ แต่ใช้วางแบบทแยงเฉียง แบบนี้ก็นั่งลำบากสิ เลยสอนพ่อว่าไอ้คันนี้มันพับเบาะกลางลงได้นะ สามารถวางของชิ้นยาวๆ ได้สบาย พ่อบอกไม่เคยพับ เลยไม่รู้
Title: Re: มีค 57
Post by: O'Pern on March 10, 2014, 06:05:43 pm
10 มีค 57
   ลอง เมื่อวานวิ่งจัดหนักมา วันนี้ลองซ้ำอีกที ไม่ยอมพัก แล้วก็เป็นไปตามคาด เจ็บต้นขา ก้าวไม่ออกเลย
   เปลี่ยนเป็นเดินเร็วแทนครับ ต้องเดินอยู่ถึง 2 กม ถึงจะเริ่มวิ่งเหยาะๆ ได้ วันนี้เลยวิ่งไป 40 นาที และเดินเร็วอีก 10 นาที เข้ามาบ้านก็มีน้ำแครอทคั้นแยกยากรออยู่ 1 แก้ว
   อาหารเช้าวันนี้เป็นปลาอินทรีย์ย่างกินนกับยำมะม่วง ไข่ดาว ข้าวกล้อง มิวปิดเทอมแล้ว แต่กลับต้องออกจากบ้านเร็วกว่าปกติเพราะเรียนพิเศษที่สยามตั้งแต่เช้า เอ้า จัดไปครับ
   ภารกิจสำคัญของผมในวันนี้คือแจ้งความจำนงในการสอบเข้า ม1 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยให้มิว เพิ่งรู้ครับว่าการสมัครเรียนยุคนี้เขาต้องยื่นเรื่องก่อน แล้วปริ๊นออกมาจะมีวันเวลาให้เรานำเอกสารใบนี้แหละไปยื่นสมัครที่โรงเรียนอีกครั้งหนึ่ง ก็ไอเดียดีนะ วันจริงที่โรงเรียนจะได้ไม่วุ่นวาย น่าจะสะดวกสำหรับทุกฝ่าย
   ผมเฝ้าเช็คเวปของโรงเรียนมาหลายวัน คลิกกรอกแจ้งความจำนงก็ไม่ได้สักที มารู้ว่าเขาจะเปิดวันที่ 10 นี่แหละ ก็เฝ้ารอตลอด วันนี้ตื่นมาตี 4 ก็ยังเข้าไม่ได้ ดูซ้ำทุกๆ ชั่วโมงจนถึง 0800 ก็ยังเข้าไม่ได้ เริ่มไม่สบาย เพราะหลังจากนี้ผมจะไม่ว่างแล้วไง จะต้องออกไปส่งของหรือเปล่าก็ไม่รู้ และจะกลับมาอีกทีกี่โมงก็ไม่รู้
   สุดท้ายเลยตัดสินใจขี่จักรยานไปที่โรงเรียนเลยครับ สอบถามครูหลายคนจนเจอท่านที่ควบคุมการสมัครนี้โดยตรง ครูบอกว่าล็อคหน้าลงทะเบียนเอาไว้ เดี๋ยวครูจะเปิดเดี๋ยวนี้แหละ แต่ครูเห็นผมมาหาถึงที่ ก็เลยเปิดคอมฯ ให้ผมลงทะเบียนและปริ๊นท์เอกสารกันตรงหน้าเซอร์เวอร์ของโรงเรียนเลย
   ได้หมายเลข 12 ครับ คือเป็นคนลงทะเบียนคนที่ 12 (นี่ขนาดครูเพิ่งปลดล็อคนะนี่) อีกเหตุผลที่อยากได้คิวแรกๆ ก็เพราะว่าวันยื่นเอกสารมี 4 วัน คือ 20-24 ทางโรงเรียนรับได้วันละ 300 คิว แบ่งเป็นช่วงเช้า 150 คิว บ่าย 150 คิว ผมต้องการไปลงทะเบียนในวันที่ 20 ช่วงเช้า ก็เลยต้องกระเสือกกระสนดังที่เป็น
   รู้สึกดีทุกครั้งที่ก้าวเข้ามาเหยียบโรงเรียนนะ มาทุกครั้งต้องเจอพวกศิษย์เก่ามาเยี่ยมโรงเรียนประจำ เจออาจารย์หลายท่าน รู้จักบ้าง แต่ส่วนใหญ่ไม่รู้จัก ครูหน้าใหม่มาเยอะมาก แต่ถ้าเจอครูเก่าๆ ที่สอนเรามานี่แทบเข้าไปกอดเลย
   เสร็จธุระแล้วก็ขี่จักรยานกลับมาร้านขายของต่อ เข้าสู่โหมดโลกแห่งความจริง อยู่จนถึงบ่ายแก่ๆ ก็ไปจ่ายค่าภาษีโรงเรือนที่เขตราษบูรณะ ว่างช่วงเย็นๆ เล็กน้อย เข้ามาบ้านหิวจัด กินน้ำเต้าหู้ใส่เม็ดแมงลัก และถั่วอบ แต่รู้สึกว่าจะกินถั่วเยอะไปหน่อยอีกแล้ว มันกินแล้วเพลินไง เจอถั่วบราซิลที่มันรสชาติคล้ายแมคคาเดเมียอีกด้วย ไอ้นี่ไขมันเพียบจริงๆ แต่ก็มีประโยชน์มากนะ ไม่เป็นไร พรุ่งนี้เช้าก็ออกวิ่งอีก ฮ่าๆ ช่วงนี้น้ำหนักลดน้อยลงกว่าเดิมอีก วันก่อนยังบอกว่ามันลดลงแค่วันละ 100 กรัม แต่ทุกวันนี้น่าจะเหลือแค่ 25-50 กรัมเท่านั้นเอง
   ข่าวใหญ่สุดดราม่าวันนี้คือ ลูก ม4 ติดเกมจัด พ่อยึดมือถือ โกรธ โมโห เครียด เลยยิงฆ่าพ่อ แม่ และฆ่าตัวตายตาม โดยที่พี่ชายคนโตเพิ่งออกไปเรียน
   โหดว่ะ ผมเรียกให้มิวมาอ่าน มิวอ่านจบก็พูดสั้นๆ ว่า “ปันหย่อน”
   แปลว่า ปัญญาอ่อน
   แต่พอตกเย็นข่าวเดิมกลับเปลี่ยนเป็นหลังมือ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานและสืบสวนจับได้ว่าคนฆ่าทั้ง 3 คนก็คือไอ้พี่ชายคนโตนี่เอง
   โอ้ โหดแท้
Title: Re: มีค 57
Post by: O'Pern on March 12, 2014, 06:57:06 pm
11 มีค 57
   เช้านี้จัดไปอีก 1 ชม เปลี่ยนสไตล์การวิ่งไปเป็นแบบวิ่งช้าๆ วิ่งไปก็เกิดนิมิตรไปว่า เอ.. กูวิ่งบ่อยๆ แบบนี้จะส่งผลอย่างไรต่อข้อหัวเข่าตอนกูอายุมากไหมวะนั่น การวิ่งออกกำลังกายน่ะดี แต่วิ่งแค่ไหนมันถึงจะไม่อันตรายต่อหัวเข่า ไอ้นี่สำคัญสุด หาข้อมูลยากมาก แต่ที่แน่ๆ ถ้าตัวอ้วน ตัวหนัก อย่าวิ่งครับ
   ตอนนี้หุ่นผมกลับมาใกล้เคียงกับเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ยังอ้วนกว่าตอนทำ Racing Club อยู่ราว 1 กก ต้องใช้เวลาอีกนิดถึงจะกลับมาท็อปฟอร์มเหมือนเดิม
   วิ่งบ่อยๆ เข้า เริ่มอยากได้กางเกงสำหรับออกกำลังกาย อาทิตย์ก่อนโน้นไปร้าน Decatchlon ก็เจอตัวที่ถูกใจ 2 แบบนะ แต่ก็ตัดสินใจไม่เอา เสียดายเงินก็ด้วย และไม่อยากแต่งตัวให้มันดูแพงๆ อยากให้คนอื่นดูเราแบบห่วยๆ ไม่มีอะไร แบบนี้แหละ ผมชอบ
   กับจักรยานก็เหมือนกัน มี Panniers ของ Ortlieb ตั้งแต่ชาวบ้านเขายังไม่ฮิตกันเลย แต่พอมีแล้วดันไม่กล้าใช้ใส่ของไปข้างนอก กลัวคนอื่นดูแล้วคิดว่าเรามีตังค์ ซึ่งมันจะเป็นโทษต่อตัวเองขณะขี่ออกเดินทางไกล
   จะว่าผมคิดมากไปก็ยอมครับ ก็ขนาดสร้อย แหวน ที่ใส่ติดตัวมาตั้งแต่เด็กผมก็ถอดเก็บหมดแล้ว นาฬิกาก็ยังไม่ใส่เลย
   อืม แต่วิ่งมันไม่เหมือนจักรยานนี่หว่า กางเกงออกกำลังกายนี่ผ้าจะยืดหยุ่น ใส่สบาย แถมโดนเหงื่อแล้วแห้งเร็ว ทุกวันนี้ผมใส่กางเกงขาสั้นธรรมดา วิ่งนานๆ เปียกโชกทั้งตัว ชนิดที่ว่านั่งเบาะรถไม่ได้เลย เบาะต้องเน่าเหม็นแน่ๆ ผมแก้ด้วยการนำชุดไปเปลี่ยน
   คุณ ทรงกลด บางยี่ขัน ประกาศรายชื่อคนที่เขารับเข้าไปเป็นทีมงาน “80 วันรอบโลก” ก็ยินดีกับผู้ชนะด้วยครับ อิจฉาเขาเล็กน้อย แต่ไม่เคยริษยาใคร ผมไม่ผ่านก็ไม่เป็นไร ผมก็เตรียมความแข็งแกร่งให้แก่ร่างกายและจิตใจของผมไปเรื่อยๆ มันต้องมีวันของผมเข้าให้บ้าง สักวัน สักวัน
   ส่งมิวที่รถไฟฟ้าเหมือนเดิม ก่อนออกจากบ้านอัดวิตามินซี 1000 mg ไป 1 เม็ด ให้เอาเสื้อแขนยาวมีฮู๊ดติดไป 1 ตัว เมื่อวานมิวกลับมาบ้านบอกรู้สึกไม่สบาย ที่นั่งเรียนแอร์เย็นมาก รู้สึกเหมือนจะมีไข้ ขอนอนเร็วหน่อย แต่เช้านี้ก็เห็นร่าเริงดี
   นานๆ มิวจะใส่กางเกงขายาวสักครั้ง แต่งแล้วก็ดูหล่อดีนะ เหมือนเด็กโตแล้ว หุ่นเริ่มผอมลง แบบนี้ค่อยยังชั่ว ข้อดีของมิวคือเขาไม่ค่อยชอบกินขนมจุบจิบ แต่ถ้าเข้ากลุ่มกับเพื่อนก็ไม่น่ารอดเหมือนกัน เด็กๆ เล่นด้วยกันก็กินด้วยกันเป็นเรื่องปกติ อันนี้ผมไม่ไปห้ามเขาหรอก เหล่านี้คือส่วนหนึ่งในการเข้าสังคม
   เล่าแล้วนึกถึงตัวเองนะ ผมเป็นคนไม่แคร์อะไรใคร เป็นคนเพื่อนน้อยมาก เพราะเพื่อนๆ ชวนกันไปกินโน่นกินนี่กันผมก็ไม่ค่อยไปกับเขา คือเราอยากจะประหยัดเงินไง ไม่อยากใช้ฟุ่มเฟือย แถมส่วนใหญ่ชวนกันไปเที่ยวกินเหล้า เที่ยวผับ อันนี้เลิกเลย จบข่าว แดกเหล้าไม่เป็น ไม่รู้สึกอร่อยหรือมีความสุขเลยแม้แต่น้อย เลยไม่เข้าใจแนวคิดของคนชอบกินเหล้า หรือคนที่บอกชอบบรรยากาศในวงเหล้า หากมาถามผมตรงๆ ผมกลับชอบบรรยากาศเงียบๆ ที่เกาะแบบไม่มีผู้คนมากกว่า
   เข้ามาบ้านตอนบ่าย อย่างหิวเลย ตั้งใจจะกินก๋วยเตี๋ยวแถวบ้าน มีสองร้านครับ ร้านเบอร์ 1 นี่อร่อยมาก หมดเร็ว ไปถึงร้านเที่ยงกว่าๆ ก็หมดแล้ว ส่วนอีกร้านอยู่ริมถนนใหญ่ รสชาติด้อยกว่า แต่ได้กินชัวร์ ปิดราวบ่าย 3
   แต่เหมือนฟ้าลงโทษ ไปถึงร้านแล้วรถติดมาก ที่จอดรถก็ไม่มี จบข่าว งอน กลับบ้าน
   เข้ามาบ้านเจอแค่กล้วยหอม 2 ผล จัดไปครับ ตามด้วยถั่วอบอีกนิดหน่อย ไม่กล้ากินเยอะแล้ว ให้พลังงานเยอะจริงๆ ยังดีที่วิ่งทุกวัน ทำนองว่าโหลดเข้าตอนบ่ายตุนพลังเอาไว้
   ตอนคุมอาหารแล้วนึกถึงช่วงที่ผ่านมาแล้วน่าตกใจนะ บางอย่างติงต๊องมากเลย แถมกินเยอะ เช่นพวกกล้วยแขก มันทอด ข้าวเม่า ขนมปัง ขนมอบ เบเกอรี่นี่ก็จัดบ่อย กับข้าวอาหารก็ไม่แพ้กัน อย่างตอนนี้กินเนื้อสัตว์อะไรก็จะลอกหนังออกหมด แต่อดีตเคยกินเป็ดปักกิ่งที่เลาะกินแต่หนังกรอบๆ เอาแผ่นแป้งมาห่อแถมจิ้มน้ำจิ้มหวานๆ อีกด้วย ไอ้นี่โหดมากเลย น่าจะเป็นอาหารจีนที่อ้วนที่สุดแล้วมั้ง รองลงมาก็คือหมูหัน ที่กินแต่หนังหมูกรอบๆ กับน้ำจิ้มหวาน
   การลดน้ำหนักใช้แรงใจอย่างมาก แต่ที่ยากกว่านั้นที่ผมจะต้องก้าวผ่านไปให้ได้นั่นคือการคุมน้ำหนักต่อไปอีกราว 3 เดือน
   นี่ผมยังลดลงไม่ได้ต่ำถึงขีดที่ตัวเองพอใจเลยนะนั่น เผลอ ๆ ตลอดปีนี้จะเป็นปีแห่งการควบคุมน้ำหนักอีกด้วย ไม่เป็นไร คุมวันนี้ดีกว่าคุมวันหน้า ยิ่งอายุมากยิ่งคุมยาก ผมซึ้งใจแล้วครับ วิ่งต่อเนื่องทุกวันมาสองเดือนกว่าเพิ่งจะลดไปได้นิดเดียวเอง นี่ถ้าเป็นตอนอายุราว 30 รับรองว่าน้ำหนักลงไปอย่างรวดเร็วกว่านี้เยอะ
   เห็นหลายคนที่มาโพสตามเวปบอกว่าตัวเองลดน้ำหนักได้ พร้อมโชว์รูปประกอบอย่างละเอียด ผมก็ดีใจกับเขาด้วยนะ แต่เห็นหน้าตาเขาแล้วหลายคนอายุน้อยมาก บ้างก็ไม่ถึง 20 ปี หรือเกินบ้างนิดหน่อย ต่อให้เก่งๆ ก็ราว 30 หึหึ มึงลองไปหาคนอายุเกิน 40 มาลดน้ำหนักดูบ้างสิครับ เอาแบบไม่กินยาลดนะ ออกกำลังกายและคุมอาหารล้วนๆ อยากรู้จริงๆ ว่าจะลดลงได้เร็วแบบเด็กวัยรุ่นกันไหม
   ยิ่งเห็นเพื่อนๆ ในเฟซบุ๊คโพสภาพอาหารของแต่ละคนแล้วยิ่งน่าสงสาร หลายคนน้ำหนักเกินเกณฑ์แล้วยังไม่เลิกกินของบำรุงพุงพวกนี้อีกหรือ อายุยิ่งมากโรคภัยจะตามมานะ ตอนนี้ยังหนุ่มสาวยังแข็งแรงดีอยู่มันก็ไม่แสดงอาการออกมา แต่จะเห็นได้จากเริ่มไม่สบายบ่อย ง่ายๆ คือเป็นหวัด ไอ เป็นแล้วหายช้า ไอ้นี่แหละคือร่างกายเตือนแล้ว
   บางทีมันเตือนบ่อย แต่เราไม่รับรู้รับฟัง สุดท้ายอาจไม่ทันการนะ อยากใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างไรก็ดูชีวิตตัวคุณเองในวันนี้ครับ
Title: Re: มีค 57
Post by: O'Pern on March 12, 2014, 07:00:54 pm
12 มีค 57
   วันนี้วิ่งได้แค่ 50 นาที วิ่งแบบเหยาะๆ ไม่เร็วมาก กลัวข้อเข่าพัง นี่ผมชอบวิ่งมากกว่าจักรยานแล้วหรือนี่ ไม่น่าเชื่อ ที่ชอบวิ่งก็คงเพราะเป็นการออกกำลังกายที่ใช้แรงได้เยอะในเวลาจำกัด วิ่ง 1 ชม กับขี่จักรยาน 1 ชม ผมว่าวิ่งเหนื่อยกว่ากันเยอะ เหงื่อออกเยอะกว่าอีกด้วย จักรยานมันขี่แล้วลมปะทะไง เหงื่อเลยน้อยกว่า จึงรู้สึกเหนื่อยน้อยกว่า แต่ถ้านับเอาความสนุก ความเพลินล่ะก็ จักรยานกินขาด
   แต่ถ้านับความสุขใจของผมในช่วงนี้ เรือใบก็จะกินขาดจักรยานเช่นกันครับ
   อยากแก่เร็วๆ ว่ะ จะได้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านระยองเสียที จะหาเรือใบสักลำเร่รอนออกทัวริ่งไปเรื่อยๆ อยากไปเกาะเสม็ด เกาะที่เห็นตั้งแต่เด็ก แต่ไม่เคยไปสักที (อยากไปด้วยเรือใบไง) ไปเกาะบริวารรอบๆ เช่นเกาะกุฎีอีกด้วย ไอ้นี่เจ๋งกว่าเสม็ดเยอะ โหด ดิบ เถื่อนกว่า เพราะไม่มีน้ำ ไม่มีไฟ ถูกจริตผมจริงๆ ชอบแบบนี้แหละครับ
   เกาะที่ไม่ไกลจากฝั่งมากนักนี่พอไหว พอจะแล่นใบไปค้างพักแรมได้ แต่มือใหม่ต้องระวังนะ เรือใบและทะเลมันโหดกว่าจักรยานแบบคาดไม่ถึง บางทีต้องรอฟ้าเปิดถึงจะออกแล่นใบได้ บางทีพายุมาก็ต้องรู้จักหลบ ไม่งั้นอาจเกิดข่าวเศร้าได้ อย่างหลายปีก่อนช่วงพายุเกย์เข้านี่ เรือข้ามพากไปเกาะเสม็ดหยุดเดินเป็นสัปดาห์เลย คนจะรีบกลับต้องจ้าง Speed Boat แทน ค่าเรือหลายพันบาท
   เข้ามาบ้านตอนบ่าย ทำความสะอาดบ้านหลังเล็กของผมที่ทุกวันนี้กลายเป็นบ้านจักรยานเสียแล้ว เริ่มคิดจะบูรณะห้องนี้ใหม่อีกรอบ มิวเริ่มโต อาจยกห้องนอนทุกวันนี้ให้เขาอยู่ส่วนตัว อีกอย่างคือมีหนังสือมากมาย คงต้องทำชั้นวางของอีกหลายจุดในบ้าน
   ผมคงต้องย้ายกลับไปอยู่บ้านหลังเล็กเหมือนตอนหนุ่มๆ ยุคนั้นอยู่คนเดียว จะทำอะไรยังไงก็ได้ แต่ตอนนี้ต้องทำเผื่อภรรยาด้วย ปล่อยไอเดียแรงๆ มากไปบางครั้งก็ใช้งานไม่สะดวก เช่นบันไดวนแบบไม่มีราวจับ หรือชั้นลอยที่ไม่มีแผงกันตก ทำบ้านเหมือนทำไม่เสร็จน่ะครับ ผมชอบตรงมันโล่งๆ ดี
   ที่บ้านทำน้ำเต้าหู้ไว้ สบายเลย หิวก็เดินไปซดกิน มีกล้วยน้ำว้า แตงโม และพวกถั่วอบ รอดตายแล้วๆ
Title: Re: มีค 57
Post by: O'Pern on March 14, 2014, 05:24:38 pm
13 มีค 57
   สู้เข้าไป อย่าได้ถอย วิ่งยามเช้าสดชื่นดี ก้าวแรกๆ จะขี้เกียจหน่อย วอร์มไปสักพัก คิดถึงอนาคตที่สดใส หุ่นเท่ๆ แบบบัวขาว บัญชาเมฆ แล้วก็จะมีพลังเอง (คิดบวกไง) คิดถึงคนที่รับช่วงต่ออวัยวะในร่างกายของเราไปใช้ต่อ เขาจะได้หัวใจ ตับ ปอด ฯลฯ คุณภาพสูงๆ ไปใช้
   เช้านี้กินต้มยำกุ้ง กับไข่เจียวใส่หอมใหญ่ ตอนนี้เปลี่ยนน้ำมันทำอาหารจากน้ำมันมะกอกเป็นน้ำมันคาโนลา อันไหนว่าดีก็ลองไปหมดครับ สำคัญสุดคือต้องเปลี่ยนไปเรื่อยๆ นะ อย่ากินอะไรซ้ำซาก มันจะทำให้เราได้รับสารตกค้างเดิมๆ ในปริมาณมาก
   ช่วงนี้ไปถึงที่ทำงานเร็วมาก ไปเร็วก็ได้ทำงานเร็ว เปิดร้านเร็ว แต่ดูแล้วคนงานจะไม่ค่อยชอบ คนงานส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบทำงาน แปลกดี
   บ่ายนี้พามิวไปเรียนคุมองต่อที่เดอะมอลล์ท่าพระ ผมทำธุระที่ Citi Bank มีเวลาว่างราว 2 ชม ก็เดินเล่น มุมโปรดคือแผนกรองเท้า บอกตามตรงนะว่าอยากได้รองเท้าใหม่ที่มันนุ่มกว่านี้ แต่เห็นราคาแล้วท้อใจ ไม่มีคู่ไหนต่ำกว่า 5000 บาทเลย (ดูเฉพาะตัวท็อป และพวกที่โหวงเฮ้งเข้าตา)
   สมัยก่อนเขาก็จะแบ่งเป็นรองเท้าวิ่ง รองเท้าเทนนิส รองเท้าลำลอง รองเท้าบาส ฯฯลฯ จะเล่นกีฬาอะไรก็แบ่งกันไปชัดเจนดี เลือกง่าย แต่วันนี้เจอค่าย Nike แม่งมาแรง เสือกแบ่งรองเท้าวิ่งออกเป็น 3 แบบ
   1 แบบเบา ใส่สบาย เป็นธรรมชาติ / น้ำหนักเบามาก ผ้าสังเคราะห์บางๆ
   2 แบบรองรับแรงกระแทกได้ดี ใส่แล้วนุ่มสบาย / พื้นตรงส้นมีช่องอากาศใหญ่ๆ
   3 แบบโอบประคองข้อเท้า ป้องกันข้อเสีย ข้อพลิก / ตรงส้นมีแกนพลาสติกดามไว้
   เฮ้ยย นี่มึงเล่นอะไร กูงง
   มึงไม่รู้หรอกหรือว่าควรทำไอ้ทั้ง 3 แบบให้มันอยู่ในรองเท้าคู่เดียว มึงติสต์มากเลย ผลก็คือไม่เลือกครับ ไปดู Adidas แทน ไอ้นี่แบรนด์เก่าแก่ คลาสสิค ไว้ใจได้ในคุณภาพ เป็นโลโก้กีฬาอันแรกที่ผมรู้จักตั้งแต่เด็กประถม ดอกทิวลิป และเส้น 3 แถบนี่แหละ
   แต่ก็ได้แค่ดูครับ แม่งแพงจัด ไม่กล้าซื้อ เก็บเงินให้ลูกเรียนหนังสือดีกว่า อีกยาวไกลกว่าจะเรียนจบ จะต้องใช้เงินอีกเยอะมาก รองเท้าคู่เก่าผมยังมี เพิ่งซื้อได้ไม่กี่เดือน ใช้คงใช้ได้อีกนาน
   จุดนัดพบของเราคือในร้านหนังสือครับ จุดนี้สามารถคอยได้สบายๆ มาก่อนเวลาก็อ่านหนังสือไปเรื่อยๆ เจอหนังสือพอคเก็ตบุ๊คเกี่ยวกับการลดน้ำหนักของ อัลเบิร์ต นักร้องวง  UHT (ยุคผมตอนหนุ่มๆ) เจตนาของเขาดีนะ เขาบอกเพื่อเตือนตัวเองว่าไม่ให้กลับมาอ้วนอีก ก็เลยเขียนหนังสือออกมาถึงความเป็นมาในการลดน้ำหนักของเขา
   อัลเบิร์ตอ่อนกว่าผมสิบกว่าปี เขายังบ่นว่าอายุเยอะแล้วลดยาก ไม่เหมือนตอนวัยรุ่น จริงครับ เห็นด้วยเป็นที่สุด แต่อัลเบิร์ตกับผมจะต้องมาเจอปัญหาอีกอันซึ่งใหญ่กว่า นั้นคือการคงน้ำหนักระดับที่ลดแล้วไว้ไห้ได้ตลอดชีวิต
   ไอ้นี่แหละ หินสุดๆ
Title: Re: มีค 57
Post by: O'Pern on March 14, 2014, 05:27:37 pm
14 มีค 57
   ร่างกายตื่นเองก่อนนาฬิกาปลุกมาได้สักพักแล้ว เช้านี้วิ่งช้าลงกว่าเดิม แต่ระยะเวลานาน 1 ชม เหมือนเดิม เริ่มรู้สึกว่าวิ่งช้าน้ำหนักจะลดได้ต่อเนื่องกว่าแบบวิ่งเร็วนะ หรือว่าเมื่อวานกินน้อยก็ไม่รู้สิ
   ไม่เป็นไร ยังอีกยาวไกล วันนี้เลยลองวิ่งช้าซ้ำดูอีกครั้ง วิ่งได้แบบสบายๆ เลยครับ ครบ 1 ชม แล้วยังรู้สึกว่าวิ่งได้ต่ออีกเยอะเลย สงสัยร่างกายจะเริ่มแข็งแรงมากแล้ว
   เช้านี้กินผัดผักบุ้ง ไข่ดาว อ้อ วิ่งเสร็จก็มากินน้ำแครอทคั้นแยกกากมาได้หลายวันแล้วนะ ลืมเล่าไป
   ไปส่งมิวแต่เช้าเหมือนเดิม ช่วงนี้ชีวิตคงจะเป็นแบบนี้ไปตลอดจนถึงวันที่มิวสอบช่วงปลายเดือน ให้มิวคอยนับถอยหลังทุกวัน เตรียมพร้อมกับการสอบแข่งขันครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ดันไปเลือกโรงเรียนที่มีคู่แข่งสูงมากเสียด้วยสิ มิวจึงต้องเตรียมความพร้อมเยอะหน่อย
   ยาก แต่ผมว่ามิวทำได้ คิดใหญ่ ฝันใหญ่ ก็ต้องผ่านด่านยากๆ แบบนี้ให้ได้ เพราะตอน ม4 จะต้องสอบเข้าเตรียมทหารอีก ไอ้นี่น่าจะยากสุดๆ แล้ว ยากกว่าสอบเอนทรานซ์อีกเยอะ
   เราคุยกันเสมอในเรื่องของความฝันนะ หากมิวยังคงฝันจะเป็นนักบินอยู่ ก็น่าจะใช้ชีวิตตามเส้นทางที่ผมแนะนำไว้ แต่มันยังมีอีกหลายวิธีแหละครับ ผมยังไม่ได้บอกเขา แม้มันจะง่ายกว่า แต่ก็ใช้เงินสูงกว่ามากๆ แถมยังต้องแข่งขันยิบย่อยอีกตลอดรายงานที่เขาต้องเดินผ่าน สู้เลือกเตรียมทหารไปเลย ตอนแบ่งเหล่าก็เลือกกองทัพอากาศ หลังจากนี้ก็ไม่ต้องแข่งขันกับใครนอกจากเพื่อนๆ ของเราเองในเหล่านั้น เรียนจบออกมาก็จะเข้าประจำการกองทัพก็ได้ หรือจะไปบินให้การบินไทยก็ได้ แต่อันนี้ผมไม่รุ้ว่าต้องมีเงื่อนไขพิเศษอย่างไรบ้างหรือไม่ เอาไว้ว่ากันทีหลัง ยังอีกหลายปี
   ผมมีหน้าที่ส่งเสริมและช่วยเขาสานฝัน เราทำงานกันเป็นทีม ผมเหมือนเป็นเข็มทิศมั้ง คอยชี้ทิศทางทีถูกต้องให้เขาเดิน ไม่ว่ามิวจะคิดฝันอะไร ผมก็จะช่วยผลักดันเขาให้ไปจนถึงฝั่ง จะให้เขาในสิ่งที่ผมไม่เคยได้รับ ผมรู้ว่ามันเจ็บขนาดไหน
   วันนี้อยู่ที่ทำงานจนถึง 0300 เลย งานเยอะมาก หิวจัดด้วย อุตส่าห์กินส้มลูกเล็กๆ ไปหลายผลยังไม่หายอิ่ม ตามด้วยกล้วยน้ำว้าก็ยังช่วยอะไรไม่ได้มาก พอกลับมาถึงบ้านรีบซดน้ำเต้าหู้ไปเกือบครึ่งลิตร ตามด้วยถั่วลันเตา ถั่วลิลงอบ วันนี้กินเยอะว่ะ น้ำหนักต้องไม่ลงแน่เลย เผลอๆ อาจมีตีกลับ พรุ่งนี้ต้องวิ่งนานๆ หน่อยคงจะดี
   คุ้ยหาเสื้อผ้าเก่าๆ ที่ซุกเก็บมาลองสวมเล่น ตัวไหนใส่ได้แล้วดูหล่อก็ดีใจอยู่คนเดียว มีเสื้อของ BMW Motorrad ที่ได้มาสองเดือนก่อน ตอนนั้นใส่แล้วคับ ตอนนี้ใส่แล้วพอดีตัว กำลังหล่อเลย 
   คัดเสื้อผ้าไซส์ L ไปเก็บ บางตัวยังสวยอยู่ แต่มันไม่พอดีตัว ไม่หล่อ อิอิ จัดเตรียมกางเกงขาสั้นมาเตรียมไว้เยอะๆ วิ่งตอนเช้าทุกวัน กางเกงตัวเก่าแห้งไม่ทันพอดี คงต้องวิ่งไปอีกสักพักใหญ่ เพราะถึงแม้น้ำหนักตัวจะลงมาอยู่ในเกณฑ์ที่เราพอใจแล้ว แต่ก็ต้องคุมมันต่อไปอีกราว 3 เดือน
   ครั้งนี้เป็นการลดน้ำหนักที่จริงจังที่สุดเท่าที่ผมเคยทำมา คิดหาสูตรของตัวเองจากการลองผิดลองถูก จนได้ซึ้งใจกับคำสั้นๆ ที่ว่า “ใช้ให้มากกว่ากิน” คือใช้พลังงานให้มากกว่าที่เรากินเข้าไป เด็ก หนุ่มสาว ร่างกายจะเผาผลาญได้ดีกว่าคนอายุมาก ข้อนี้สำคัญ ต้องตระหนักว่าแม้เราจะกินน้อยกว่าเขา ใช้แรงมากกว่าเขา แต่ก็ยังอ้วนได้ง่ายกว่าอยู่ดี และถ้ายิ่งไม่คุมล่ะก็ นอกจากอ้วนแล้วสุขภาพยังเสื่อมโทรมตามมาอีก
   โอ้ สองเด้ง
ยังไม่พอ อาจต้องเสียเงินที่เก็บมาสมัยหนุ่มสาว และเสียเวลาบั้นปลายชีวิตมาอยู่บนเก้าอี้รถเข็นหรือนอนอยู่ในโรงพยาบาล
   เฮ้ยย นีแม่ง 4 เด้งแล้ว
   ไม่ออกกำลังกายวันนี้  แล้วคุณจะเริ่มลดกันวันไหนหรือครับ
   อย่าลืม “ยิ่งเริ่มช้า มันจะยิ่งลดยาก”
Title: Re: มีค 57
Post by: O'Pern on March 15, 2014, 07:07:19 pm
15 มีค 57
   เฮ้ย เมื่อวานกินเยอะจริงๆ ด้วยว่ะ อัดถั่วเข้าไปหลายขนาน น้ำหนักไม่ลดลง แถมยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย ไม่นะ ไม่ ไม่ ไม่
   ผมนี่ชอบกินถั่วจริงๆ ครับ ชอบตั้งแต่เด็กแล้ว ตอนเด็กๆ กินแต่ถั่วลิสงต้ม เลิกเรียนมากลับบ้านต้องวิ่งไปขอเงินแม่ซื้อถั่วต้ม 3 บาท กินกับโอเลี้ยง วัยรุ่นสมัยนี้เรียก “ฟิน”
   ฟิน เฟินไรของแม่งก็ไม่รู้ว่ะ ผมย้อนถามว่าฟินอะไร ก็ตอบกันไปคนละทาง มีบางคนไปโน่นเลย บอกว่า “ฟินนิช”
   วิ่งไปอีก 40 นาที ตื่นสายนิดหน่อย เลยมีเวลาวิ่งน้อย วันนี้ลองแบบวิ่งช้าอีกครั้ง เริ่มรู้สึกว่าวิ่งช้าๆ จะลดน้ำหนักตัวได้ดีกว่านะ ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน ช้าที่ว่านี่ก็คือความเร็วราว 6 กม/ชม
   ส่งมิวไปเรียนพิเศษ ผมไปเฝ้าร้านขายของ วันนี้งานเยอะอีกแล้ว ต้องเข้าไปโกดังตรวจเช็คสินค้า ยกแบกเล็กน้อย ดีที่หลังไม่เจ็บแล้ว การวิ่งทำให้หลังผมแข็งแรงขึ้นจริงหรือนี่
   กลางวันกินก๋วยเตี๋ยววุ้นเส้นไป 1 ชาม ใส่ผักเพียบๆ เลย อยากได้ไฟเบอร์ชนิดอื่นนอกจากถั่วบ้าง ไอ้ถั่วนี่ผมกินทุกวันเลยนะ สลับๆ กันไป อย่างวันนี้มีถั่วลิสงต้ม ที่บ้านก็มีพวกถั่วอบหลายๆ แบบ พีแคน ฟิสตาชิโอ เฮเซล บราซิลนัท ฯลฯ อันไหนใครว่าดี กินแล้วอร่อยก็จัดบ่อยหน่อย แต่ไอ้บราซิลนี่น่าจะไขมันเยอะไม่แพ้แมคคาเดเมีย
   ผลคะแนน onet ออกวันนี้แล้ว ข้อมูลคงจะส่งถึงโรงเรียนในตอนบ่าย ทางโรงเรียนมีเวลาจัดเตรียมเอกสาร 2 วัน เห็นเขานัดให้ไปรับผลสอบในวันอังคารที่ 18
   มีผู้หลบหนี้เข้าเมือง ร้อยกว่าคน ที่สงขลา เป็นคนตุรกีหลบหนีภัยสงครามมา ทางการตุรกีบอกว่าถ้าตรวจแล้วเป็นคนตุรกีจริงก็จะต้องส่งกลับประเทศ แต่คนเหล่านี้มาแบบแอบเข้าเมือง ไม่มีเอกสาร
   น่าเห็นใจนะ คนเขาหนีร้อนมาพึ่งเย็น ถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้ที่พักพิงแก่คนทุกข์ยากเหล่านี้ แต่ก็เข้าใจในเรื่องกฎของสังคมนะ เอาเป็นว่าช่วยพบกันครึ่งทางได้ไหม
   หาดบางแสนงานเข้า มีคราบน้ำมันมาเกยชายฝั่ง ผู้คนเล่นน้ำแล้วต้องพากันวิ่งมาอาบน้ำจืดขัดถูร่างกายกันยกใหญ่ เจ้าหน้าที่ก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่เบื้องต้นก็ชอบเดากันไปว่า คงจะเกิดจากเรือสินค้าใหญ่
   อ้าว ก็แหงสิวะ คราบเพียบขนาดนี้ มันไม่มาจากเรือหางยาวหรอก
   เย็นกินแตงโม ถั่ว น้ำเต้าหู้ อย่างละนิดละหน่อย ผสมๆ กันไป กินเยอะอีกแล้ว คิดเสียว่าเป็นการเติมพลังก็แล้วกัน พรุ่งนี้เช้าเราจะไประเบิดพลังกันอีกครั้ง
   ศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองการเนรเทศ สาธิต เซกัล แล้ว เห็นไหมๆ คนดีเขามีคนคุ้ม ส่วนพวกทรราชก็หวังแต่หลอกแดกเงินทักษิณไปเรื่อยๆ การนัดรวมตัวของพวกเสื้อแดงแต่ละครั้งก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการแดกค่าหัวคิวไปเรื่อยๆ เขาถึงเรียกว่าพวก “สู้แล้วรวย” ไง
   อย่างวันนี้ก็มีการแสดงพลังแดงที่อยุธยา เห็นคางคกเปรยๆ ว่าจะยกทัพเข้ามาในกรุงเทพฯด้วย ก็อยากให้มาจริงๆ เหมือนที่เห่านะ รับรอง สนุกและจบเร็วกว่านี้อีก
   วันเวลาของพวกมันนับถอยหลังลงไปเรื่อยๆ ยิ่งดิ้นก็ยิ่งวุ่นเหมือนลิงแก้แห จากตอนแรกแค่ลาออกก็จบ แต่ตอนนี้มึงจะต้องโดนยึดทรัพย์และมีแววว่ามันจะต้องหนีไปอยู่กับทักษิณที่ดูไบ หรือไม่ก็รอรับโทษที่ต้องเข้าคุก
   ข่าวย้าย ผบ หน่วยซีล ดังไปทั่ว แต่ผมไม่อยากให้วิจารณ์กันมาก รายละเอียดซับซ้อน แต่บอกได้เลยครับว่ามันคือแผนซ้อนแผน “ซีล” ชุดใหญ่ และ”แรงเยอร์” อีกฝูงก็กำลังจะตามมา ถ้ายังไม่หนำใจ ยังมี “รีคอน” อีกชุด ปิดท้ายด้วยกลุ่ม “อากาศโยธิน” ที่เตรียมพร้อมหากมีภารกิจทางอากาศ งานนี้รวมไทยใจหนึ่งเดียวของจริงอีกครั้ง จากครั้งล่าสุดเมื่อปลายปี 49 ที่ยกทัพไปช่วยคนไทย 700 กว่าคนกลางพนมเปญเมื่อครั้งโดนเผาสถานทูตไทย
   ทหารของพระราชา สุดยอดผู้กล้าแห่งแผ่นดิน
Title: Re: มีค 57
Post by: O'Pern on March 17, 2014, 06:11:24 pm
16 มีค 57
   รอบสนามบินสุวรรณภูมิทำเลนให้ขี่จักรยาน ทาพื้นสีเขียว สวยสะอาดตาดี วนรอบได้ 23.5 กมแน่ะ เจ๋งว่ะ อยากมีแบบนี้ใกล้ๆ บ้านเราบ้าง ว่างๆ จะได้ไปซัดให้หนำใจ
   แต่ดูแล้วสถานที่มันโล่งๆ แล้งๆ นะ น่าจะร้อนและลมแรง ขี่เล่นได้แค่เช้าเย็น กลางคืนมีไฟหรือเปล่าก็ไม่รู้ ดูในภาพไม่ค่อยเห็นเสาไฟ อยากไปขี่นะ แต่ก็ต้องเอาจักรยานใส่รถไป เกรงใจพ่อ ไม่ค่อยกล้ายืมรถพ่อใช้ คือไม่รู้ว่าวันไหนเขาจะใช้รถคันไหนไง แล้วพ่อชอบเก็บของใช้ไว้ในรถ การเปลี่ยนรถก็ต้องย้ายสลับของด้วย เกรงใจพ่อ
   เป็นอันว่าวันนี้ออกไปวิ่งอีกแล้ว วิ่งที่เดิมครับ ศูนย์เยาวชนเฉลิมพระเกียรติ บางมด ตรงข้ามเทคโนบางมด ใกล้สวนธนบุรีรมย์ ไปแต่เช้าเหมือนเดิม วันนี้ไม่ตั้งเป้าหมายอะไร แต่อยากลองวิ่งแบบช้าๆ ดู อาทิตย์ก่อนวิ่งได้ 24 กม ในเวลา 2.25 ชม
   ตื่นเช้าก็จัดกล้วยน้ำว้า 2 ผลก่อนเลย เริ่มวิ่งตั้งแต่ 0530 วิ่งแบบไม่มีเป้าหมายเลยนะ วิ่งไปเรื่อยๆ แล้วค่อยคิดไปว่าจะวิ่งสักแค่ไหนดี แต่อยากลองวิ่งช้าๆ หน่อย คิดเอาเองว่าวิ่งช้าร่างกายจะเผาไขมันได้ดีกว่า
   1 ชม ผ่านไปรู้สึกเฉยๆ แต่พอถึง 2 ชม แล้วเริ่มรู้สึกอืดๆ หน่อยแล้ว ยิ่งแดดเริ่มแรงนี่ชักจะขี้เกียจวิ่ง ต้องอาศัยพลังคิดบวก คิดว่าร่างกายโดนแดดน่ะดีแล้ว เสริมสร้างวิตามิน D กระดูกทั้งร่างกายจะยิ่งแข็งแรง เซลล์ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ถ้าเป็นมะเร็งอยู่นี่วิ่งกลางแดดแรงๆ จะยิ่งดีมากเลย ฯลฯ สารพัดข้อดีของการอยู่กลางแดดอยู่ในหัวผมตลอดเวลาขณะก้าวเท้าวิ่ง
   พอถึง 2.30  ชม เริ่มแผ่ว แดดแรงจัด คิดบวกมานานมากแล้ว แต่แม่งร้อนว่ะ กินน้ำไปเยอะเลย วิ่งช้าๆ มานานเป็นชั่วโมงก็เริ่มไม่สนุกแล้ว แต่อาศัยลูกอึด นึกถึงตอนขี่จักรยานขึ้นเขาที่เรามองยอดเนินทีละลูกๆ
   สุดท้ายก็ผ่านด่านมาได้ วิ่งไป 2.55 นาที กับระยะทาง 24 กม เหมือนเดิม ช้ากว่าครั้งที่แล้วถึง 30 นาที วิ่งตั้งแต่เข้ามาในสนามคนแรก จนเป็นคนสุดท้ายที่เดินออก เหนื่อยและร้อนมากๆ
   เดินไปนั่งพักที่ม้านั่ง ดูผู้คนค่อยๆ ทยอยกันกลับบ้าน ที่แห่งนี้คนเขามาเพื่อออกกำลังกายกันจริงๆ ไม่ค่อยมีนั่งเล่นพักผ่อนเหมือนสวนสาธารณะทั่วไป ผมนั่งอยู่ตรงนี้รอให้ร่างกายคลายความร้อนลงหน่อย แล้วถึงเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่รถ
   ถึงจุดนี้ก็นึกถึงชุดกีฬาแพงๆ สำหรับออกกำลังกายเลยนะ ชุดแบบนั้นมันแห้งเร็วมาก นั่งเล่นลมโกรกนิดเดียวก็เริ่มแห้งแล้ว สามารถนั่งเบาะรถได้เลยโดยที่ไม่เปียกเบาะมากนัก ต่างจากผมที่ใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นห่วยๆ มันเปียกแล้วเปียกเลย แก้ด้วยการนำชุดมาเปลี่ยน ก็เปลี่ยนมันในรถนี่แหละครับ ห้องน้ำห่วยมาก ไม่มีที่วางของ ไม่มีตะขอแขวนกางเกง ไม่มีเหี้ยไรเลย บางห้องไม่มีน้ำอีกด้วย
   ขับรถกลับบ้าน หิวจัด ที่จริงหิวตั้งแต่ตอนวิ่งไป 2.30 ชม แล้วล่ะ หิวก็จิบน้ำเข้าไปแทน ขับไปก็คิดไป กินไรดีๆ ๆ ๆ
   ผ่านร้านบะหมี่โซโหที่กินอาทิตย์ก่อน รสชาติดีนะ แต่ขอผักเยอะๆ แล้วให้ผักกวางตุ้งมาแค่ 4-5 ท่อนเอง งอนมัน ไม่กินแล้ว เอ๊ะ หรือจะไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ตลาดแถวบ้านดี แล้วก็นึกถึงร้านต้มเลือดหมู แถวบ้านมีร้านหนึ่ง ไม่ได้กินนานมาก ร้านนี้ใจดี ให้ผักเยอะด้วย ขอตำลึงก็ใส่ให้เป็นกำ มีผักชื่อจิงจูฉ่ายด้วย ไม่รู้จัก แต่กินแม่งเข้าไปหมดแหละ ซื้อกลับมากินกับข้าวกล้องที่บ้าน อืมม อิ่มแล้วโคตรง่วงเลย
   อาบน้ำ สระผม โอ้ สุขสุดๆ เนื้อตัวเหนียวลื่นๆ ขาสากๆ เหมือนมีเม็ดทราย แต่ไม่ใช่หรอก มันคือคราบเกลือที่เกิดตอนเหงื่อแห้งแล้ว นี่เห็นไหม เล่นซะเกลือขึ้นเลย
   อยากหลับครับ ทำไมวันนี้รู้สึกเพลียผิดปกติ หรือว่าวิ่งนาน หรือว่ากินคาร์โบไฮเดรทจากข้าวกล้องเยอะมาก อัดคาร์โบเข้าไปมากๆ ก็จะทำให้ง่วงได้ง่ายครับ เอนหลังนอนพัก แต่ไม่หลับหรอกนะ แค่นอนยกขาสูงๆ ให้เลือดไหลย้อนกลับลงมาหน่อย แบบนี้สบายขาดี
   อ้อ ชั่งน้ำหนักก่อนกินข้าวนะ ลดลงมาทันที 1.5 กก แต่อาทิตย์ก่อนที่วิ่งเร็วกว่าน่ะ ลดมาถึง 2 กก
   แต่มันลดเพราะร่างกายเราเสียน้ำนะ เดี๋ยวตลอดวันนี้กินข้าว กินน้ำเข้าไป น้ำหนักก็จะตีกลับขึ้นมาเอง ฮ่าๆ แต่ก็ทำให้เราดีใจช่วงสั้นๆ ก็แล้วกัน
   กินข้าวพักเดียว หิวอีกแล้ว เฮ้ย อะไรกันวะนี่ หยิบน้ำเต้าหู้มาซด รวดเดียวครึ่งลิตรเลย หึหึ ร่างกายเราเสียน้ำไปเยอะนั้นเอง ซดน้ำไปครึ่งลิตร นั่นก็คือน้ำหนักเราก็จะขึ้นมาทันที 0.5 กก เช่นกัน
   กลัวน้ำหนักขึ้น เลยวิดพื้นไป 30 ครั้ง โหหห หมดแรง ดันตัวแทบไม่ขึ้นเลย กัดฟันฝืนทำจนครบ 30 หอบแฮ่กๆ
   เดินไปเดินมา เล่น Uke บ้าง ล้มตัวลงนอนพักบ้าง หมดแรงเดินว่ะ อยากแปลงร่างเป็นฝุ่นให้ปลิวๆ ไปตามลม
   สายหน่อยหิวอีกแล้ว ซัดถั่วโก๋แก่ไป 1 ถุง ไอ้นี่ถุงใหญ่เสียด้วย หึหึ กลัวน้ำหนักตีกลับจริงๆ เลยวิดพื้น ซิทอัพอีกรอบ คราวนี้มีแรงแล้ว กล้ามเนื้อคงได้พักแล้ว
   กลับมาบ้านนี่เพิ่งจะฉี่ตอนบ่ายเองนะ กินน้ำเข้าไปเยอะแยะไม่เห็นฉี่ออกมาเลย นี่แสดงว่าเราขาดน้ำเยอะจริงๆ บ่ายกินฝรั่งไปอีก 1 กล่องใหญ่ พอกินเยอะรู้สึกสำนึกผิด กลัวน้ำหนักตีกลับมาเท่าเดิม กลายเป็นวิ่งฟรี
   เฮ้ย ไม่ฟรีหรอก แม้น้ำหนักจะไม่ลง แต่เราสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงขึ้น กล้ามเนื้อทั่วร่างกายเลยนะ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหัวใจ และปอด ไอ้นี่สร้างกันยากนะ ขี่จักรยานยังทำได้ยากกว่าวิ่งเลย
   มุสลิมที่หาดใหญ่เมื่อวานข่าวว่าเป็นชาวตุรกี มาวันนี้บอกว่ามาจากอุยกูร์ เป็นจีนมุสลิม ย่านซินเจียง-อุยกูร์ หนีภัยสงครามมา น่าสงสารว่ะ น่าจะช่วยเหลือกันได้มากกว่านี้
เฮ้ย เมลล์โดนแฮค ล็อคอินเข้าแล้วเข้าไม่ได้ มันฟ้องว่าพาสเวิร์ดผิด ฉิบหาย งานเข้า
   เลยแก้ปัญหาไปทีละจุด สุดท้ายก็ได้พาสเวิร์ดใหม่ส่งมาทางมือถือ บ๊ะ ทำงานทันใจดีแท้ นี่ขนาดเมลล์ฟรีนะนี่ ขนาดเข้าใช้งานแทบทุกวันนะนี่ ยังโดนแฮคได้เลย
   เล่นเอาตกใจหมดเลย งานก็เพียบ แถมใกล้มอเตอร์โชว์อีกด้วย ข่าวสารด้านรถยนต์ไหลมาเป็นสาย
   ไปงานปีนี้อาจได้แต่งหล่อหน่อย น้ำหนักลดลงมาเกือบ 6 กก แล้ว ใส่สูทแล้วน่าจะโอเคกว่าเดิมนิดๆ ตอนวิ่งแล้ววันไหนเบื่อๆ ก็คิดแบบนี้แหละครับ คิดถึงวันงานแล้วแต่งชุดหล่อๆ ถ้ามันอ้วนอยู่ก็ไม่หล่อน่ะสิ
   ที่จริงน่ะ ไม่ได้สนใจหล่ออะไรนักหรอก ผมเน้นไปด้านสุขภาพมากกว่า แต่ไอ้สุขภาพนี้ผมรู้เองคนเดียวไง ส่วนหล่อหรือไม่นั้นคนอื่นเขามองเราต่างหาก เราก็อยากให้ตัวเองดูดีด้วยน่ะ อย่างน้อยก็ดูแล้วเจริญตากว่าก็แล้วกัน
   ผมต้องเตรียมสุขภาพไว้ให้พร้อมเต็มที่ ปีนี้มิวเข้า ม1 แล้ว จะได้เรียนที่ไหนก็ยังไม่รู้เลย ลุ้นฉิบเป๋ง ถ้าได้สวนกุหลาบก็ดีใจมาก เดินทางสะดวก ใกล้บ้าน แต่ถ้าไม่ได้ มิวก็ต้องยอมรับในโรงเรียนที่จะต้องไปเข้าตอนสอบรอบ 2 ซึ่งจะมีที่ไหนเปิดให้สอบบ้างก็ไม่รู้เหมือนกัน
Title: Re: มีค 57
Post by: O'Pern on March 17, 2014, 06:13:20 pm
17 มีค 57
   วิ่งช้าๆ ไปอีก 50 นาที ขาน่าจะอยู่ตัวแล้วนะ วิ่งมาสองเดือนกว่าแล้ว แถมวันหยุดยังจัดเต็มอีกด้วย บางวันก็เบื่อ อาศัยคิดบวกไปเรื่อย แต่ถ้าวันไหนน้ำหนักลงก็มีกำลังใจหน่อย อย่างเช้านี้ก็ลงมาอีกนิด ทำ New Low ไปเรื่อยๆ
   ถึงแม้จะลดลงได้พอใจแล้วนะ แต่มันก็ต้องคุมต่อไปอีกอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อป้องกันไม่ให้โยโย่เด้งกลับไปหนักเท่าเก่า เผลอๆ หนักกว่าเก่า
   เช้านี้กินหนักเลย เป็นหมี่กรอบร้านโบราณสมัย ร5 ร้านชื่อดังย่านตลาดพลู แม่ซื้อมาตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น ผมไม่กล้ากินแบบนี้ในมื้อเย็น เลยเก็บไว้กินตอนเช้า
   ผมลดน้ำหนักด้วยสูตรของผมเองนะ อ่านมาเยอะ ลองมาหลายอย่าง สุดท้ายได้ข้อสรุปง่ายๆ คือต้องกินให้น้อยกว่าใช้พลังงาน ส่วนจะเป็นสูตรใดก็แล้วแต่ถนัด แต่ผมไม่ชอบแนวของ Atkin ที่ให้กินไขมันได้ โปรตีนได้ ยกเว้นคาร์โบฯ
   ไม่อยากกินเนื้อสัตว์มากนักไง อายุเริ่มมากยิ่งไม่ควรกินเนื้อสัตว์มาก ฉะนั้นจงเลือกที่จะเชื่อและทำ ไม่ใช่อ่านเจออะไรก็เชื่อแม่งไปหมด หนังสือห่วยๆ มีเยอะแยะไป
   แนวผมคือกินผักผลไม้เยอะๆ หลากสี หลากหลายยิ่งดี เน้นโปรตีนจากพืช เช่นถั่ว เต้าหู้ ถ้าจะกินแป้งก็เลือกแบบแป้งคุณภาพสูง เช่นข้าวกล้อง กินก๋วยเตี๋ยวก็เลือกวุ้นเส้น ถ้าจะกินของอ้วนๆ ก็เก็บมาไว้กินตอนเช้า อะไรทำนองนี้
   ส่งมิวไปเรียนพิเศษ นับถอยหลังกันทุกวัน นี่ก็เหลืออีก 12 วันก็จะสอบแล้ว ลุ้นสุดตัวจริงๆ
   อยู่ร้านขายของก็ยกแบกกันไป ตอนนี้หลังไม่เจ็บแล้ว ค่อยโอเคหน่อย ตั้งแต่สายจนถึงบ่ายกินกล้วยน้ำว้าไป 4 ผล หึหึ ตามด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์อบอีกสองกำมือ
   กลับมาบ้านตอนบ่ายแก่ๆ ก็กินส้มไปอีก 1 กล่อง แต่หิวจัด เลยตามด้วยถั่วอบอีก เอาอีกแล้วๆ พรุ่งนี้ต้องมาวิ่งชดเชยอีกแล้ว ไอ้ถั่วอบนี่ไขมันเยอะมาก
   ผลคะแนน onet ออกแล้ว ทางโรงเรียนสวนกุหลาบจะใช้คะแนนนี้ 20% ไปรวมกับผลสอบเข้า ม1 หึหึ มิวได้เกรด 2.55 ก็ถือว่ากลางๆ นะ ไปลุ้นกันหน้างานก็แล้วกันครับลูก เอาใจช่วยเสมอครับ
   อยู่บ้านตลอดบ่าย ไม่ต้องไปรับมิว นั่งวางแผนชีวิต ปีหน้าหากมิวสอบเข้าสวนกุหลาบได้ก็โอเคไป แต่ถ้าสอบไม่ได้ ก็ต้องหาโรงเรียนอื่นมาแทน ไอ้นี่สิปัญหา เรียนที่ไหนดีวะ คิดไม่ตก แต่ที่แน่ๆ มันต้องใช้เงินอีกเยอะมาก มากกว่าโรงเรียนสวนกุหลาบเป็นสิบเท่าเลย
   วางแผนหาเงินนี่เล่นเอาปวดหัว เพราะเช้าถึงบ่ายไปช่วยที่ร้านขายของ ว่างตอนใกล้ๆ เย็นแค่ 2- 3 ชม มันจะไปทำอะไรกินได้วะนั่น
Title: Re: มีค 57
Post by: O'Pern on March 18, 2014, 06:12:18 pm
18 มีค 57
   วิ่งอีกแล้ว ซัดไปอีก 1 ชม เต็มๆ วันไหนไม่วิ่งสิแปลก ช่วงนี้ชีวิตเป็นแบบนี้ และน่าจะเป็นไปอีกพักใหญ่ น้ำหนักค่อยๆ ลดมาทีละนิดๆ เห็นตัวเลขบนตาชังแล้วค่อยมีกำลังใจหน่อย ต่างจากเมื่อก่อนที่ลองขึ้นชั่งในห้างแล้วเครื่องร้องว่า “กรุณาขึ้นชั่งทีละคน”
วิ่งแล้วก็คิดถึงชีวิตของมิวไปด้วยที่เขาต้องเรียนพิเศษตลอด 7 วัน เป็นผมคงเบื่อนะ แต่พอถามมิวเขากลับชอบว่ะ โคตรงงเลย บอกว่าสอนสนุกกว่าที่โรงเรียนอีก
   อืม ชอบเรียนก็โอเคครับ แต่อยากให้ใช้ชีวิตนอกห้องเรียนด้วย การเดินทางไง อยากให้มิวเรียนรู้ชีวิตผ่านการเดินทาง มันจะสอนอะไรเขาได้มาก ต้องเดินทางคนเดียวด้วยนะ
   เดินทางคนเดียว เราจะรู้จักตัวเอง
   เดินทางสองคน เราจะรู้จักเพื่อน
   เดินทางเป็นกลุ่ม เราจะรู้จักสังคม
   เช้านี้กินอาหารเช้าไม่ค่อยดี แต่แม่ซื้อมาฝาก เลยไม่อยากเลี่ยง เป็นกุยช่ายทอด แป้งเพียบ รู้สึกผิด เลยลวกถั่วฝักยาว และแครอทมาเพิ่มอีกอย่างละกำมือ กินของไม่ดีเข้าไป ก็ควรกินของดีๆ เข้าไปสู้กับมันด้วย
   อยู่ทีทำงานวันนี้มีขี่จักรยานไปทำธุระนิดหน่อย ปั่นกลางแดดจ้า เอ๊ะ เมื่อเดือนก่อนเราเพิ่งจะหนาวๆ กันอยู่เลยไม่ใช่หรอ
   
   บ่ายไปโรงเรียนมิว ไปรับผลคะแนน onet เตรียมเอกสารเอาไว้ให้ครบถ้วน วันที่ 20 จะต้องไปยื่นใบสมัครที่โรงเรียนสวนกุหลาบ และจะสอบในอีก 9 วันถัดมา
   ลุ้นโคตรๆ ตื่นเต้นเสียยิ่งกว่าคนสอบเองเสียอีก
   แวะร้านผ้าม่าน ดูม่านแบบที่เราเล็งเอาไว้ในใจ ไปดูสินค้าตัวอย่าง กำลังจะบูรณะห้องกระจก บ้านหลังที่ผมสร้างไว้ตั้งแต่เด็ก เป็นบ้านทรง Loft แบบจัดๆ เลย ยุคนั้นยังไม่มีใครรู้จักหรอก ผมคิดเองทำเอง มั่วๆ เอง ไม่ค่อยลงตัวในบางจุดก็ช่างมัน ยุคนั้นคิดได้เพียงเท่านั้น
   เริ่มวางแผนบูรณะห้องนี้แบบครั้งใหญ่ เลยวางคอนเสปใหม่ ตอนนี้ต้องมีภรรยามาอยุ่ด้วย แถมมีลูกมาใช้ห้องร่วมด้วยบ่อยแน่ๆ ไอเดียแรงๆ บางอันต้องปรับเปลี่ยน ลดความแรงลง กลัวคนอื่นเขารับไม่ได้ 
   มีจุดยากเพิ่มมาใหม่หลายจุด เช่นโต๊ะทำงานที่นั่งทำงานได้พร้อมกัน 3 คน พ่อ แม่ ลูก ฉากกันห้องแบบเล็ก บาง เบา และสามารถซ่อนบนเพดานได้ (อันนี้เอาไว้ปิดตอนกลางคืน เอาไว้กั้นแอร์)
   ห้องนี้จะมีไฮไลท์อันใหม่อยู่ที่พื้นเลื่อนได้ เลื่อนซ้ายขวาเพื่อเปิดปิด ถ้านำทุกชิ้นมาชนกันหมดก็จะเป็นห้องนอนพอดี จุดที่ยังลังเลก็คือจะทำที่วางจักรยานดีไหม ออกแบบไว้หลายปีแล้วล่ะ ที่ลังเลก็เพราะตำแหน่งวางจักรยานมันจะไปทับซ้อนกับตำแหน่งของตู้หนังสือ ได้อย่าง เสียอย่าง แต่ถ้าเอาสวยก็ต้องเป็นที่จอดจักรยานครับ น่าจะเท่ดี ออกแบบเอง ไม่ได้ก็อปใคร ไม่ได้ดูไอเดียมาจากอินเทอร์เนท ผมแมนๆ นะ ก็อปก็บอกก็อป ไม่มามั่วแล้วทำเป็นชัวร์แล้วหลอกคนอื่นว่าคิดเอง
   กลับมาบ้านตอนเย็นหิวจัด ตอนกลางวันกินกล้วยน้ำว้าไป 3 ผล กับถั่วต้มอีกนิดหน่อย มาบ้านเจอแตงโม โอ้โห ชอบมาก จัดไป กินกับถั่วพิสตาชิโอด้วย มีงาขาวงาดำอัดแผ่นอีกอย่างละชิ้น อิ่มแล้วแอบซดน้ำเต้าหู้อีกหน่อย อิ่มแบบมีประโยชน์
   นี่ถ้าผมโพสอาหารที่ผมกินลงในเฟซบุ๊คเหมือนคนอื่นเขาบ้างก็คงจะงงกันหลายคน มันไม่มีของหรูหรา ไม่มีของแพงๆ ทุกอย่างล้วนหาได้ง่ายในตลาดแถวบ้านและราคาถูกมาก 
Title: Re: มีค 57
Post by: O'Pern on March 19, 2014, 06:25:14 pm
19 มีค 57
   ตื่นเช้ากว่าปกติหน่อย จะได้มีเวลาวิ่งเต็มชั่วโมง แค่วิ่งไม่พอนะ อยากได้เวลา Cool Down เยอะๆ หน่อยอีกด้วย ช่วงเวลาหลังออกกำลังกายนี่ก็สำคัญนะ ร่างกายเรายังคงอยู่ในโหมด Burn Fat ไปอีกสักพักแม้จะหยุดออกกำลังกายแล้วก็ตาม
   วิ่งไป 1 ชม วิ่งช้าๆ มาหลายวันแล้ว ผมรู้สึกว่าวิ่งช้าจะช่วยลดน้ำหนักได้ดีกว่านะ หรือจะคิดไปเองก็ไม่รู้
   ทว่าช่วงนี้น้ำหนักมันค่อยๆ ลดลงอย่างช้ามากๆ แทบจะมองไม่เห็นว่าลดเลย ชักสงสัย เอ๊ะ เกิดอะไรขึ้น หรือว่าร่างกายเริ่มจะคุ้นชินแล้ว หรือว่าเราต้องปรับการวิ่งใหม่ วิ่งไปก็คิดไป แต่ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้แน่ชัด
   นึกถึงภาพอาหารที่เพื่อนๆ ชอบโพสลงในเฟซบุ๊คกันแล้วก็นึกไปอีกด้าน อยากเห็นอาหารที่เขากินตอนปกติบ้าง อยากดูว่ามันจะเป็นเช่นไร แต่ถ้าให้ผมโพสภาพอาหารที่ผมกินให้ดูล่ะก็ คนคงจะขำแน่ๆ มีมื้อเช้าเท่านั้นแหละที่ดูเป็นมื้ออาหารหน่อย นอกนั้นเป็นเหมือนของว่าง
   อย่างเช้าวันนี้กินคะน้าผัดน้ำมันหอย ไข่ดาว ข้าวกล้อง ตอนสายกินน้ำเต้าหู้ ถั่วต้ม เมล็ดมะม่วงหิมพานต์อบ กลับมาบ้านตอนเย็นกินแตงโม มะยงชิด ถั่วลันเตาอบ ถั่วลิงคั่ว
   จัดเตรียมเอกสารสำหรับสมัครสอบเข้า ม1 ให้มิวเป็นครั้งสุดท้าย เช็คมาหลายวันแล้วล่ะ พรุ่งนี้สมัครจริง ไม่อยากให้มีอะไรตกหล่น กลัวเสียเวลา ไปทีเดียวเอาให้มันจบๆ ไป แล้วก็รออีกแค่ 9 วัน
   สนามบินสุวรรณภูมิสร้างทางจักรยานรอบสนามบินความยาว 23.5 กม โอ้โห สุดมาก น่าจะเป็นสนามบินแรกในโลกที่มีเลนจักรยานให้ขี่ชมเครื่องบินเล่น
   จะว่าไปสิงคโปร์เขาก็มีเลนจักรยานที่ใกล้ๆ สนามบินนะ แต่ว่าเขาไม่ได้ทำแบบวนรอบให้ขี่เล่น เขาทำให้ใช้เดินทางจริงๆ เลย ลงจากเครื่องก็ประกอบรถแล้วซัดได้เลย ที่ผมไปขี่มาก็ใช้ถนนเส้นนี้แหละ สนุกมาก เมืองเขาสะอาดไง แต่คนสิงคโปร์เองก็บ่นว่ารถใหญ่ชอบเบียด ผมไม่ได้ตอบอะไรเขาไป เพราะในกรุงเทพฯเราโหดกว่าเยอะ ทั้งรถตู้โดยสาร มอเตอร์ไซค์รับจ้าง สามล้อ แท็กซี่ ยังไม่นับตอนดึกๆ ที่มีพวกเมาแล้วยังขับ ไอ้นี่ไม่รู้จะคุมอย่างไร เราขี่ของเราปกติก็อาจเป็นเหยื่อได้ง่าย แต่สิ่งเหล่านี้ไม่มีในสิงคโปร์ครับ
   อาทิตย์นี้จะมีงานเปิดถนนจักรยานเส้นนี้ ผมอยากไปร่วมมาก ดูจากภาพแล้วน่าจะร้อนโคตรๆ เลยล่ะ ต้องจัดเตรียมน้ำดื่มไปให้เพียงพอด้วย ช่วงแรกนี้เขาทำแต่ถนนอย่างเดียวเลย ไม่มีร่มเงาแม้แต่น้อย ไม่มีร้านค้า ไม่มีห้องน้ำ ฯลฯ งานนี้คงได้เห็นรถหรูๆ แอบยืนฉี่กันข้างทางแน่ๆ สงสารแต่พวกผู้หญิงนี่แหละครับ คงไม่กล้าไปเด็ดดอกไม้ริมทาง
   อีกอุปสรรคที่ทำให้กังวลก็คือไฟไหม้กองขยะแถวบางปูยังไม่ดับเลย มันส่งผลให้กลิ่นลอยไปถึงสุวรรณภูมิด้วยนี่สิ ก็ลุ้นนะว่าขอให้ช่วงเช้าๆ ไม่มีลมใต้พัดส่งมา ปกติลมจะแรงในช่วงบ่ายๆ ผมเล่นวินเซิร์ฟผมพอจะจำได้ เช้าๆ ไม่ค่อยมีลมหรอก
   งานเปิด 0730 ถ้าผมไป ก็คงไปตั้งแต่ 0600 แต่ไปถึงเช้าก่อนเปิดงาน เขาจะให้เราขี่ไหมล่ะนี่
   เย็นเอาจักรยานออกซ้อมในที่แคบๆ ในบ้าน ซ้อมพวก Track Stand / Bike Balance & Control ไม่ได้เน้นเอาแรง
Title: Re: มีค 57
Post by: O'Pern on March 20, 2014, 07:22:19 pm
20 มีค 57
   ตั้งเวลาปลุกให้ตื่นเช้ากว่าเดิมอีก 15 นาที ทำให้วันนี้วิ่งได้ 1 ชมเต็มๆ เช้านี้เปลี่ยนสไตล์ใหม่ ลองเพิ่มความเร็วขึ้นทีละนิด และวิ่งแบบสลับช่วงความเร็วเหมือนตอนที่เริ่มวิ่งเดือนแรกๆ ดูบ้าง หลอกร่างกายเราสักหน่อย อย่าทำอะไรเดิมๆ แต่วิ่งแบบนี้เหนื่อยฉิบเป๋งเลยนะ กลัวข้อเข่าเสียด้วย ยิ่งวิ่งเร็ว ยิ่งก้าวเท้ายาว ข้อเข่าก็รับแรงกระแทกแรงตามไปด้วยเช่นกัน
   วอร์มหน่อยเดียวแล้วก็ซัดเลย เริ่มด้วยวิ่งทีความเร็วมากขี้น และวิ่งแบบสลับช่วงความเร็วอีก 2.5 กม วิ่งเร็ว 200 เมตร สลับวิ่งช้า 200 เมตร ซัดไปแบบนี้ตลอดทาง
   โหห เหนื่อยโครตๆ เลย ครบ 1 ชม นี่หมดแรง อยากจะนอนราบ เสื้อเปียกเหงื่อแบบไม่เห็นพื้นที่แห้งแม้แต่น้อย กางเกงนอก กางเกงใน เปียกชุ่มไปหมด ต้องกลับเข้าบ้านเปลี่ยนชุดแล้วถึงลงมากินมื้อเช้า
   ขนาดนั่งกินข้าวเหงื่อยังผุดออกมาต่ออีก นี่แปลว่าผมยังต้อง Cool Down นานกว่านี้ แต่เวลาของเช้านี้หมดแล้ว ต้องรีบกินข้าว และรีบออกจากบ้าน
   อาหารเช้านี้ดีมากนะ เป็นกระเพราไก่ ไข่ดาวทอดในน้ำมันคาโนล่า แครอทลวก กระเทียมสด ใบกระเพราหอมมากๆ ซื้อมาจากชาวบ้านข้างถนนกำละ 5 บาท เจ๋งสุดๆ ดีกว่ากระเพราตามตลาดเยอะเลย ไอ้พวกนั้นผัดออกมาแล้วเหลือกลิ่นจางๆ
   แต่เหนื่อยจนกินข้าวไม่ลง เป็นครั้งแรกที่กินข้าวแล้วไม่ค่อยอร่อย ร่างกายรู้สึกผิดปกติ เลยเคี้ยวช้าๆ ตักคำให้เล็กลง ช่วงหลังๆ ค่อยอร่อยหน่อย
   ออกจากบ้านเช้ากว่าปกติหน่อย เอารถไปจอดที่ทำงาน แล้วพามิวเดินข้ามสะพานพุทธไปโรงเรียนสวนกุหลาบ สะดวกมากเลย เร็วกว่ารถเมล์เสียอีก เดินแล้วก็นึกภาพสมัยเด็กที่เราเป็นนักเรียน เราก็เดินแบบนี้แหละครับ ทุกๆ วัน
   ขั้นตอนการสมัครสอบของเขาทำมาดีมากเลยนะ คือเราแจ้งความจำนงในเวปก่อน กดพอปริ๊นก็จะมีบอกวันและเวลาให้เราไปยื่นเอกสาร อย่างผมสมัครคนแรกที่เซอร์เวอร์ของโรงเรียนเลยเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ก็เลยได้คิวแรกคือวันนี้เวลา 0830-1200 เขารับได้วันละ 300 คน ใครมาหลัง ก็ได้คิวหลัง ผมว่าก็โอเคดีนะ
   กงสุลที่ทำพาสปอร์ทก็น่าจะใช้วิธีนี้นะ คือให้มาลงทะเบียนในเวปก่อน พอกดส่งปุ๊บก็จัดคิวให้เลย บอกเลยว่าให้เรามาวันไหน เวลาใด แค่นี้เอง ง่ายๆ ไม่เห็นต้องมานั่งรอคิวกันตั้งแต่ตี 3
   พาลูกไปสมัคร ยังตื่นเต้นเองเลย ลุ้นโคตรๆ อยากให้เขาสอบได้ไง คู่แข่งเพียบ ไม่ต้องห่วง มิวเป็นเด็กเรียนระดับปานกลาง นี่เป็นวันแรกที่เขาจะได้เห็นคู่แข่งของเขาแต่ละคนว่าหน่วยก้านเป็นเช่นไร
   ยุคผมเรียนนี่นักเรียนสวนกุหลาบมาจากทุกทิศทุกภาคของไทยเลย ผมมีเพื่อนเป็นคนใต้ เหนือ อีสาน ตะวันออก ครบหมด จนโคตรๆ ขนาดต้องอยู่วัดก็มี ปานกลางก็เยอะ แต่รวยๆ นี่มีน้อยครับ ซึงผมถือว่าดีนะ ผมมีประสบการณ์แย่ๆ กับเพื่อนรวยๆ สมัยเรียนอัสสัมชัญมาแบบจำฝังใจ เล่าให้อ่านก็แล้วกัน
   ตอน ม3 ผมไปบ้านเพื่อนสนิท แล้วแม่เขาไม่ให้ผมเข้าบ้าน เอามือเท้าประตูข้างหนึ่งยันไว้แล้วยืนคุยกัน ผมบอกว่าผมนัดลูกเขาเอาไว้ เขาบอกลูกเขาไม่อยู่
   โอเคครับ ผมกลับบ้าน ตอนนั้นผมชอบแต่งตัวด้วยเสื้อทหาร กางเกงยีนขาดๆ สะพายเป้ทหาร แนวเดียวกับพวกคาราบาวเลย เขาจะมองผมเป็นกุ๊ยก็ไม่ว่าอะไรเขาหรอก มันเรื่องของเขา
   ยุคโน้นผมอายุแค่ 15 ปี อ้อ เด็กอัสสัมฯเขาขับรถยนต์กันแล้วนะ ตอนนั้นผมเองก็ขับเป็นแล้วเหมือนกัน แต่ผมแอบขับเองแถวบ้าน ถนนพระราม 2 รถยนต์ผ่านนาทีละแค่ 2 คัน ขี่จักรยาน BMX ยกล้อได้ไกลหลายเสาไฟฟ้าสบายๆ แต่เพื่อนๆ นี่เขาได้สิทธิจากที่บ้านให้เอารถออกมาใช้ได้ มันก็เลยดูเป็นการแบ่งฐานะไปโดยปริยาย ผมไม่มีรถ ไม่มีเงิน แต่งตัวเหี้ยอีกด้วย เขาเลยอาจไม่ชอบ
   ผมขับรถยนต์และเล่น BMX มาพร้อมกันนะ เริ่มตั้งแต่อายุ 14 ปี ผมผนวกรวมจักรยานและรถเข้าไว้เป็นหนึ่งเดียวกัน ศึกษาสองอย่างพร้อมกัน แล้วก็สร้างทฤษฎีในการขับและขี่ของตัวเองขึ้นมา
   มันคือหนึ่งในหนังสือที่ผมเขียนเก็บไว้ให้มิวอ่านนี่แหละ ไม่รู้ว่ามิวจะชอบหรือไม่ แต่ถ้าเขาขับรถยนต์ มันจะเป็นคัมภีร์ในการขับรถให้ถึงลิมิท
   อยากเป็นฮีโร่ของลูกไง แต่เขาคงไม่ชื่นชมผมนักหรอก ผมเข้มงวดกับเขาหลายเรื่อง อยากให้เขาเซอร์ไพร์สในตอนโต เลยทำเรื่องที่เงินก็หาซื้อไม่ได้
   ใบสมัครนัด 0830 แต่ผมไปตั้งแต่ 0810 ยังมีคนมาก่อนผมหลายคนเลย มิวรับบัตรคิวที่ 10 เราเตรียมเอกสารมาครบทุกอย่างแล้ว เลยนั่งรอเรียกอย่างเดียว
   เจ้าหน้าที่เรียกคิวที่ 1-20 ที่ทำให้ตกใจก็คือ เขาห้ามผู้ปกครองเข้าไปกับเด็ก คือให้เด็กถือเอกสารไปเองคนเดียว เดินเรียงแถวกันเข้าไปกรอกเอกสารในห้องประชุมครั้งละ 20 คน ให้ผู้ปกครองรออยู่ด้านล่างเท่านั้น
   เฮ้ย เจ๋งดีว่ะ แบบนี้ก็คือให้เด็กหัดเรียนรู้ขั้นตอนต่างๆ ด้วยตัวเองตั้งแต่เริ่มสมัครแล้วหรือนี่ สุดยอดมากๆ เด็กทั่วไปจะมีผู้ปกครองคอยช่วยไง เตรียมเอกสารบ้าง ซีร็อกบ้าง เตรียมผล onet บ้าง พาไปถ่ายรูปก็ด้วย แต่มาถึงตอนนี้ เด็กต้องจัดการกับชีวิตัวเอง ใครไม่เรียบร้อยก็ลงมาหาพ่อแม่ข้างล่าง ผมเห็นเด็กค่อยๆ ทยอยเดินลงมาทีละคนสองคน
   แล้วก็ไม่ผิดหวัง สักพักมิววิ่งลงมา บอกว่าต้องซีร็อกทะเบียนบ้านเพิ่มอีก อ้าว ไม่เป็นไร ผมพามิวเดินไปร้านซีร็อกของโรงเรียนที่อยู่ติดกับโรงอาหาร ผมรู้ว่ามีตรงนี้ แต่คนไม่รู้ก็เดินออกไปหาร้านค้าด้านนอกโรงเรียนแทน
   อีกพัก วิ่งลงมาอีกแล้ว บอกว่าช่วยเซ็นกำกับเอกสารให้มิวด้วย ครูบอกว่ามิวยังอายุไม่ถึง 20 ปี เซ็นเอกสารไม่ได้ อ้าว อันนี้ผมเองก็เพิ่งรู้เหมือนกัน
   ลงมาสองรอบแล้ว ไม่น่าจะพลาดอีกแล้วนะ อีกสัก 10 นาทีมิวก็วิ่งลงมาอีก แต่คราวนี้บอกว่าเสร็จแล้ว พร้อมกับโชว์บัตรสอบให้ดู
   พามิวไปหาของกินที่โรงอาหาร แต่พบว่ามีร้านค้าเปิดแค่ร้านเดียวเอง เลยกดน้ำเปล่าที่ตู้น้ำเย็น ผมอยากลองกินดูครับว่าน้ำจะมีกลิ่นคลอรีนไหม
   เฮ้ย น้ำจืดสนิท ไม่มีกลิ่นเลย เป็นตู้สแตนเลสปลอดสารตะกั่ว สุดยอด ชอบมากๆ เพราะขนาดของที่โรงเรียนเก่ามิว ผมกินน้ำแล้วมีกลิ่น บอกครูใหญ่ไปตั้งหลายปี แม่งเหมือนเดิมเลย เขาไม่ค่อยสนใจเลย ไอ้สารตะกั่วนี่บ่อนทำลายสมองเด็กโดยตรงเลยนะ
แสดงว่าที่สวนกุหลาบนี่เขาห่วงใยเด็กจริงๆ เจ๋งๆ ๆ ๆ ๆ
   ไหว้ศาลพ่อปู่สวนกุหลาบ และหลวงพ่อสวนกุหลาบที่อยู่หน้าประตู มิวไหว้แล้วบอกว่าขอให้สอบได้ จะวิ่งรอบสนาม 1 รอบ โหห แอบมีบนด้วย อิอิ
   เดินย้อนกลับทางเดิมจนไปถึงร้านขายของ แดดโคตรร้อนเลย หิวน้ำมาก มิวบอกอยากกินชามะนาว ขอซื้อในร้าน 7-11 ผมบอกว่าอดทนหน่อย เดี๋ยวไปซื้อในร้านกาแฟแถวบ้านจะอร่อยกว่า ชงสดๆ มะนาวหอมๆ อีกด้วย
   กลางสะพานพุทธ เจอเพื่อนคนหนึ่งในเฟซบุ๊คขี่จักรยานสวนไป ผมเห็นเขาโพสบ่อยมาก จำ KHS T20 ได้แม่น เป็นรถพับแบบสองตอนสีชมพู ไอ้รถแบบนี้หาได้ไม่ง่าย มีไม่กีคน จะเอ่ยปากทักก็ไม่ทันเสียแล้ว สวนไปนานแล้ว
   เดินกลางแดดนานๆ มิวบ่นเหนื่อย และหิว พอเจอร้านต้มเลือดหมูที่เคยกินประจำ ก็ขอเงินซื้อ และบอกว่ามื้อเช้ากินมาแค่หน่อยเดียว
   ผมขี่จักรยานไปซื้อชาดำเย็นให้มิว พอได้ขึ้นรถปุ๊บ ขี่รถแล้วลมปะทะ รู้สึกเย็นสบายตัวมากเลย ดีกว่าเดินเยอะจริงๆ แม้ขี่กลางแดดก็ไม่เห็นรู้สึกร้อนเหมือนตอนเดินมาเลยว่ะ แปลกชะมัด
   มิวกินข้าวหมดก็ขึ้นไปบนห้อง บอกอยากหลับ ฮ่าๆ อิ่มแล้วนอนนี่หว่า แต่แอบไปดูทีหลังแล้วเขาไม่ได้นอนหรอก ดูการ์ตูนแทน
   อีกพักใหญ่ก็ขับรถไปส่งมิวที่รถไฟฟ้า เขาบอกจะเรียนพิเศษต่อ โหห ชอบเรียนจริงๆ เลยคนนี้ แปลกมากๆ ตอนเดินกลับจากสวนกุหลาบเห็นโรงเรียนติวชื่อ 152 ที่เปิดติวเข้าสวนกุหลาบโดยเฉพาะ เห็นเขาขึ้นป้ายว่าปีที่แล้วสอบได้ 160 คน โอ้โห สุดยอดมากๆ มิวเห็นแล้วบอกอยากเรียนทันที แต่ผมบอกว่าลูกเรียนที่สยามเยอะมากแล้ว พอแล้ว
   ส่งมิวเสร็จก็กลับมาเฝ้าร้านขายของต่อ นับเงินที่ลูกค้ารายหนึ่งแล้วตกใจ เพราะเขาจ่ายเงินเกินมา 30000 กว่าบาทแน่ะ เฮ้ย มันเกิดขึ้นไม่ได้ง่ายๆ นะนี่ เลยบอกเจ้าของร้าน และตรวจสอบให้ดีเพื่อที่จะแจ้งให้เขาทราบ และทำการคืนเงินในลำดับต่อไป
   เริ่มหิว กินกล้วยน้ำว้าไปทีละผล ไม่หายหิวก็กินอีก สรุปคือจัดไป 3 แน่ะ บ่ายแวะซื้อน้ำมันเครื่องก่อนกลับบ้าน ผมไม่ค่อยได้ตามเรื่องเทคโนโลยีน้ำมันเครื่องนะ แต่เจอของ ปตท เป็นเกรด SN แล้ว โหห เกรดสุงสุดแบบไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
   วิธีเลือกน้ำมันเครื่องคือเลือกจากค่า API ก่อนครับ เลือกที่สูงสุดเลยนะ ตอนนี้ก็ SN (สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน) ตามมาก็ดูที่ค่า SAE รถผมยังไม่กินน้ำมันเครื่อง เลือกเบอร์ 0W-30 ได้ หรือรถเก่าหน่อยจะใช้ 40 ก็ได้ ดูว่ารถเรากินน้ำมันเครื่องไหม ถ้ากินก็เพิ่มค่าเบอร์หลังให้สูงหน่อย เลือกง่ายๆ แค่นี้แหละ
   อ้อ เลือกประเภทด้วย ว่าจะเอาแบบ Fully Syn / Semi Syn / หรือ Normal แน่ล่ะ ผมเลือก Fully Syn รถผมใช้น้อย น้ำมันยิ่งเกรดสูงจะช่วยปกป้องตอนสตาร์ทได้ดีมากๆ ไอ้ช่วงนี้แหละที่ทำให้เครื่องยนต์เราสึกหรอได้ง่ายที่สุดเลย
   เข้ามาบ้านก็ซดน้ำเต้าหู้ก่อนเลย หิวจัด ตามด้วยถั่วอบที่เปิดกินเหลือไว้เมื่อวาน จากนั้นก็เปิดคอมฯ เช็คข่าวสารงานมอเตอร์โชว์ บันทึกไออารี่
   เดินไปเดินมาในบ้าน วิดพื้นบ้าง เหยียดยืดบ้าง เริ่มตึงๆ ข้อพับด้านขาขวา มันต้องเกิดจากการวิ่งเร็วของผมแน่ๆ มั่นใจเลยล่ะ เพราะไม่เคยเจ็บในจุดนี้มาก่อนเลย เริ่มกังวลแล้วสิ พรุ่งนี้จะวิ่งไหวไหมวะ
Title: Re: มีค 57
Post by: O'Pern on March 21, 2014, 05:54:48 pm
21 มีค 57
   ปกติตื่นตี 5 แต่ตอนนี้ตื่น 0445 ค่อยๆ ร่นมาเรื่อยๆ จะได้มีเวลาวิ่งนานๆ หน่อย แต่แทบไม่อยากลุกเลยนะ เมื่อคืนนอนดึกด้วยไง ห้าทุ่มกว่าแน่ะ มิวไม่ยอมนอน นั่งเขียนหนังสือ ทำเอาผมนอนไม่หลับไปด้วย
   แข็งใจตื่น เอาน้ำเย็นๆ ล้างหน้าก็พอได้อยู่ ข้อพับขาขวาก็ไม่เจ็บแล้ว แต่กลัวกำเริบ เลยวิ่งสูตรใหม่ worm up 15 นาที ซัดอัดเต็มแบบ Interval 30 นาที ตามด้วย cool down อีก 15 นาที เหนื่อยน้อยกว่าเมื่อวานหน่อย เพราะช่วง interval ไม่ได้วิ่งเร็วแบบหลุดโลก เอาแค่เร็วมาก
   เช้านี้ลองเอาเสื้อฟุตบอลที่ได้รับแจกฟรีมาใส่วิ่ง นึกว่าผ้าจะระบายเหงื่อได้ดี แต่เปล่าเลย มันแค่เปียกเหงื่อแล้วไม่เห็นผิวหนังเหมือนเสื้อขาวเท่านั้นเอง แม้เนื้อผ้าจะมีรูระบาย แต่ก็ไม่เห็นจะใส่สบายตรงไหน สู้เสื้อยืดคอกลมเก่าๆ ผ้านุ่มๆ ไม่ได้สักนิด
   เช้านี้เป็นอีกวันที่กินข้าวไม่อร่อย ร่างกายยังคงร้อนอยู่มั้ง กินเนื้อปลาเก๋าผัดขิง ไข่ต้ม แครอทลวก กระเทียมสด ข้าวกล้อง ปกติกินเกลี้ยงไม่เหลือสักเม็ด แต่วันนี้เหลือข้าว กินไม่ลงจริงๆ
   น้ำหนักแทบไม่ขยับลงแล้วว่ะ ตอนสายวันนี้เลยอัดผลไม้ไปเพียบ มีมะยงชิด และขนุน อย่างละกล่อง ถั่วลิสงต้มนิดหน่อย  ซดชาเขียวแบบชงเองไม่ใส่น้ำตาลไปอีกครึ่งลิตร
   มาบ้านตอนบ่ายๆ หิวอีกแล้ว มีถั่วพิสตาชิโอเหลืออยู่ จัดไปทันที ท้องอิ่ม หลังตาหย่อน เมื่อคืนนอนน้อย เมื้อเช้าออกกำลังกายหนัก เอนหลังนอนพัก ปิดตา แต่ไม่หลับหรอกนะ แค่พักเฉยๆ
   อยู่บ้านเปิดคอมฯทำงาน แต่หัวสมองไม่ค่อยแล่นเลย รู้แล้วๆ อาการแบบนี้คือขาดธรรมชาติ ต้องออกท่องเที่ยว ผจญภัย เราจะได้ไอเดียจากสิ่งที่พบเจอมาเอง นี่ผมไม่ได้ไปต่างประเทศเป็นปีแล้วนะนี่ ก็ขนาดจนปล่อยพาสปอร์ทหมดอายุไปนานแล้ว
   ข้างนอกอากาศร้อนจัดมาก อ เถิน จ ลำปาง อุณหภูมิทะลุ 40 C ไปแล้ว นี่ยังไม่เข้าเมษาเลยนะ หึหึ ร้อนนี้ต้องเตรียมตัวให้ดีเสียแล้ว แอร์ห้องนอนใครมาเสียช่วงนี้ แม่งเอ๊ยย นรกบนดินเลยล่ะ อาทิตย์หน้าโทรนัดช่างแอร์มาล้างเรียบร้อย
   เงียบๆ เหงาๆ หน่อย มิวไปเรียนกลับค่ำทุกวันจนถึงก่อนสอบ ผมอยู่บ้าน นั่งขีดๆ เขียนๆ ออกแบบห้องใหม่บ้าง แต่ยังไม่ลงตัวเสียที อยากได้ฟังชั่นเยอะๆ แต่ก็ชอบห้องโล่งๆ มันช่างขัดกันเสียจริง บ้านคนอื่นนี่ทำแป๊บเดียวเสร็จ บ้านตัวเองโคตรนานเลย
Title: Re: มีค 57
Post by: O'Pern on March 22, 2014, 05:52:07 pm
22 มีค 57
   วิ่งแบบเดิมอีกวันน่า มีวิ่งสลับช่วงความเร็ว ไอ้นี่เหนื่อยดีครับ แต่การวิ่งแบบนี้จะทำให้กล้ามเนื้อเผาผลาญแบบไม่ใช้อ๊อกซิเจนแทน คือจะเผาคาร์โบแทนที่จะเผาไขมัน (หวังว่าผมคงจะจำไม่ผิดนะ) เป็นการให้กล้ามเนื้อหัดใช้พลังงานสลับกันไป ผมคิดเอาเองว่ามันน่าจะดีกว่า
   วันนี้วิ่งวอร์มไป 30 นาที วิ่งสลับช่วงความเร็ว 20 นาที และวิ่งเบาๆ อีก 15 นาที เช้านี้วิ่งไป 1.05 ชม และเดินอีกนิดหน่อย
   วิ่งเร็วกล้ามเนื้อจะใหญ่ขี้น (ถ้ากินโปรตีนเข้าไปมากพอ) แต่ผมกินโปรตีนปานกลางถึงน้อย ก็คงได้ความแข็งแรงแทน และกล้ามเนื้อที่แข็งแรงก็จะเผาผลาญอาหารที่กินเข้าไประหว่างวันได้ดีกว่าคนที่ร่างกายไม่ค่อยมีกล้ามเนื้อหรือกล้ามเนื้ออ่อนแอ
   เฮ้ย ผมเดาล้วนๆ นะ ไม่มีทฤษฎีอะไรเลย อ่านมาจากหลายๆ สื่อแล้วสร้างสรรค์สูตรลดน้ำหนักของตัวเองออกมา ปกติก็ไม่ค่อยเชื่อสิ่งที่อ่านเท่าไหร่นัก ก็เลยจับมาอย่างละนิดละหน่อย
   หลักใหญ่ๆ ก็อย่างที่บอกแหละครับคือ “กินให้น้อยกว่าที่เราใช้แรง” ทำได้แค่นี้ ไม่ต้องมีสูตรอะไรให้วุ่นวาย รับรองผอม
   แต่ถ้าอายุมากขึ้น ก็ต้องเพิ่มคำว่า “ควบคุมอาหาร หวาน มัน เค็ม เน้นผัก ผลไม้”
   มาถึงวันนี้ วันที่น้ำหนักค่อยๆ ลดลงมาเรื่อยๆ อย่างช้าๆ มาจากการออกกำลังกายล้วนๆ คุมอาหารหน่อย น้ำหนักไม่เคยลงมาแบบนี้กว่าสิบปีมาแล้ว เห็นตัวเลขแล้วค่อยมีกำลังใจหน่อย แต่มองพุงตัวเองแล้วยังห่างไกลกับคำว่า Six Packs
   มิวเรียนหนัก ผมก็วิ่งหนัก เหนื่อยกันคนละแบบ แต่ต้องใช้แรงใจเหมือนกัน ผมวิ่งไปก็คิดถึงเป้าหมายไปด้วย และก็สอนให้มิวเขานึกถึงจุดหมายเช่นกัน ถ้าเราเหนื่อยยากลำบาก เรานึกถึงเป้าหมาย เราจะมีกำลังใจมากขึ้น จะฮึดสู้มากกว่าเดิม
   เป้าของผมคือฟิตร่างกายเพื่อสุขภาพที่เป็นเลิศ ส่วนเป้าของมิวก็คือการเป็นนักบิน เราจะฟันฝ่าไปด้วยกัน แต่เป้าระยะสั้นของมิวตอนนี้คือสอบเข้าโรงเรียนสวนกุหลาบให้ได้ ส่วนเป้าระยะสั้นของผมก็คือลดน้ำหนักลงมาให้ได้
   เช้านี้ Cool Down ร่างกายได้ดี นั่งกินข้าวแบบสบายๆ มีผัดผักบุ้งไฟแดง ไข่เจียวใส่มะเขือเทศ ข้าวกล้อง หยิบเอามะยงชิด ส้มเขียวหวาน ติดมือออกไปกินตอนอยู่ทีทำงานด้วย
   เช้านี้ฝนตกเว้ยย ดีใจๆ  คลายร้อนได้ดี แต่มันทิ้งช่วงมานาน ตกเทหนักมาหน่อยเดียว หลายจุดในเมืองน้ำท่วม และเกิดอุบัติเหตุรถชนท้ายกันเยอะแยะหลายจุด (ฟังจาก จส 100) ผมอยู่ร้านขายของก็ต้องหลบฝนเหมือนกัน รถออกไปส่งของไม่ได้เลย เสียเวลาไปชั่วโมงกว่า
   ไม่รู้ว่าทางเหนือเขื่อน หรือแถวบ่อขยะที่ไฟไหม้ย่านบางปูจะโดนฝนบ้างหรือเปล่านะ ลุ้นอยู่นี่แหละ ย่านในเมืองเขาไม่ต้องการฝนกันมากนักหรอก ตกมาเป็นชั่วโมงรถก็ติดหนักอีกแล้ว
   แม่ไปตรวจสุขภาพมา รู้สึกเจ็บฝ่าเท้า หมอเลยเอ็กซ์เรย์ดู บอกว่ามีกระดูกงอกเล็กน้อย และมีอาการเป็นโรคเกาต์ สั่งยามาให้กิน บอกอย่าเดินมาก และให้ลดน้ำหนักลงหน่อย
   ตอนบ่ายว่าง กะจะเข้าไปคอนโดนั่งเล่น ชอบไปคอนโดตอนฝนตกครับ ลมเย็นดีมากๆ แถมฝนสาดระเบียง เราก็ขัดถูไปด้วย นี่ถ้าคนอีกฟากของแม่น้ำมองมาเห็น คงจะนึกว่าลิงเดินไปเดินมาในกรงแน่ๆ
   ฝันสลายสิ ไม่ได้เอากุญแจคีย์การ์ดมา มันอยู่ที่รถ 180SX วันนี้ผมเอารถพ่อมาใช้ ปัดโธ่ …
   งอนๆ ๆ  ขับรถกลับบ้านแม่งเลย หิวนะ ผ่านร้านก๋วยเตี๋ยวก็ไม่จอดแวะกิน กลัวอ้วน ฮ่าๆ กลับมาบ้านดันกินถั่วอบต่อ ถั่วลิสง ถั่วปากอ้า เมล็ดทานตะวัน เมล็ดแตงโม ตบท้ายด้วยน้ำเต้าหู้ 1 ถ้วย มื้อนี้เล่นอาหารนกเลยกู หึหึ
   พอฝนหาย ท้องฟ้าครึ้มๆ ก็กลายเป็นแดดแรงจัดเหมือนเดิม อ้าว ตะกี้ยังเย็นสบายอยู่เลยนี่
   เข้าเวปสุขภาพอ่านเรื่องอาหารเช้ากับการออกกำลังกายแล้วตกใจ กลายเป็นว่าที่ผมวิ่งมาเกือบจะ 3 เดือนนี่เป็นวิธีที่ผิดนะ ต้องกินอาหารเช้าก่อนออกกำลังกายด้วย เขาบอกว่าอาหารมื้อสุดท้ายที่เรากินเข้าไปตอนเย็นมั้นเผาผลาญไปหมดแล้ว คาร์โบฯกับโปรตีนจึงไม่เหลือสำหรับเป็นพลังงานในตอนเช้า ถ้าเราออกแรงช่วงนี้ร่างกายจะไปดึงพลังงานจากกล้ามเนื้อมาใช้แทน ถ้าไม่ได้กินมื้อเช้าก็ให้ออกกำลังแค่โซนแอโรบิคพอ เพราะโซนนี้ใช้อ๊อกซิเจนและไขมันเป็นหลัก
    โหห จริงหรือนี่ ไอ้ที่ผมวิ่งเร็วๆ นี่มันจะเป็นการทำลายกล้ามเนื้อหรือวะนี่ ไม่น่าเชื่อว่ะ
   สันดานเดิมของผมคือรับข้อมูลอะไรแล้วมักจะไม่ค่อยเชื่อครับ ต้องไล่หาอ่านไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอระดับมืออาชีพเขาเล่า นั้นแหละถึงจะพอเชื่อได้บ้าง
   ก็รถยนต์และจักรยานผมยังหัดเล่นเองจนค้นพบเทคนิคต่างๆ มากมาย เขียนมาเป็นตำราได้เลย พอโตขึ้นก็อ่านมากขึ้น พบว่าหลายเทคนิคมันไปตรงกับพวกมืออาชีพเขาเขียนเอาไว้นานแล้ว นั่นแหละถึงเชื่อมั่นว่ามันถูกต้อง
   ผมให้ความสำคัญกับเรื่องของ “Balance” เป็นอันดับ 1 ทั้งรถยนต์และจักรยานครับ จะเรียกว่าความสมดุลก็ไม่ผิด เรียกว่าความเป็นกลางก็ย่อมได้ แล้วแต่จะตีความเอาเอง
   ไอ้สมดุลนี้คนส่วนใหญ่คิดไปว่าต้องทำให้ได้ 50/50 ถึงจะดี ตอนแรกผมก็คิดแบบนั้น แต่ขับหรือขี่ไปสักพักจะพบว่ามันคนละเรื่อง ถ้าเป็นรถยนต์ผมกลับอยากได้ 60/40 มากกว่า แต่ถ้าเป็นจักรยาน ผมอยากได้ 30/70 ด้วยซ้ำไป (กะแบบคร่าวๆ นะ)
   คนส่วนมากจะซีเรียสกับน้ำหนักระหว่างหน้า/หลัง แต่มีกี่คนที่สนใจจะบาลานซ์ซ้าย/ขวา ซึ่งมันสำคัญไม่แพ้กัน กรณีเล่นกันถึงขีดสุดนะ
   เดินไปเดินมาในบ้าน หิวก็กินน้ำเต้าหู้ทำเอง วันนี้กินไปเกือบ 1 ลิตรแล้ว สด หอม อร่อยมากๆ เติมโปรตีนให้กล้ามเนื้อสักหน่อย
พรุ่งนี้วันอาทิตย์จะไปไหนดียังไม่รู้เลย อยากไปขี่จักรยานที่สุวรรณภูมิแต่กลัวกลิ่นขยะจะมาถึง แต่ก็จะเจออีกปัญหาคือไม่มีรถใส่จักรยานไป ไม่อยากยืมรถพ่อไง พ่อเอารถไว้เก็บของด้วย เขาเปลี่ยนรถก็ต้องย้ายของหลายชิ้น เกรงใจ รถผมเองคัน 180SX ก็ใส่จักรยานไม่ได้ ต่อให้จักรยานพับก็ยังลงไม่ได้เลย มีรถพับที่ลงได้ 2 คันคือ Neobike 14 และ Strida ไอ้ Neobike 14 คอหักมาหลายปีแล้ว ผมยังไม่ได้ซ่อมเลย หาร้านเชื่อมสวยๆ ไม่เจอ
Title: Re: มีค 57
Post by: O'Pern on March 28, 2014, 04:31:13 pm
23 มีค 57
   วันนี้มีงานเปิดทางจักรยานสีเขียวที่สุวรรณภูมิ อยากไปนะ ถ้ามันไม่มีเหตุไฟไหม้กองขยะแถวบางปู กลิ่นและควันมันมาถึงที่สนามบินนี่ด้วยสิ ควันพิษทั้งนั้นเลย แต่ก็มีลุ้นนะเพราะตอนเช้าๆ มักไม่ค่อยมีลม ไม่เหมือนช่วงบ่ายๆ เย็นๆ
   สองจิตสองใจตั้งแต่เมื่อคืนว่าจะไปวิ่งหรือไปขี่จักรยานดี จนจะเข้านอนก็ยังสรุปไม่ได้ ไม่อยากฝืนความรู้สึก เลยจัดเตรียมทั้งชุดวิ่ง และชุดจักรยานวางไว้คอยท่า
   พอตื่นเช้ามา นึกว่าจะตัดสินใจได้ ไอ้อาการโลเลก็ยังไม่หายไป ใจน่ะอยากไปขี่จักรยานมากกว่า ด้วยหลายเหตุผล
1 อยากพักหัวเข่าบ้าง
2 วิ่งมาแล้ว 6 วัน อยากใช้กล้ามเนื้อส่วนอื่นให้ออกกำลังกายบ้าง
3 วันนี้เป็นวันเปิดเลนจักรยานสีเขียวที่สุวรรณภูมิ คนน่าจะเยอะ คึกคักดี นานๆ จะได้ไปร่วมงานสังคมกับเขาบ้าง
แต่ก็มีข้อจำกัดเหมือนกันนะ
1 ไม่มีรถใส่จักรยานไป ไม่กล้ายืมพ่อ รถตัวเองก็ใส่ไม่ได้
2 สุวรรณภูมิไกลจากบ้านผมเยอะมาก ขี่ไปน่ะไหว แต่ขี้เกียจขี่กลับ
3 กลางดึกฝนเพิ่งตก แล้ววันนี้จะตกอีกไม
4 ไฟไหม้กองขยะยังไม่ดับ แม้ควันจะไม่มา แต่กลิ่นมาถึงแล้ว สารพิษล้วนๆ เลย
   ตื่น 0430 แต่ก็ไม่ยอมลุก ไม่ได้ขี้เกียจ แต่ไม่รู้ว่าจะใส่ชุดวิ่งหรือชุดจักรยานดี นอนคิดไปคิดมา บรรยากาศเหมือนตอนก่อนนอนเมื่อคืนเลยว่ะ คิดยังไม่ตก
   สุดท้ายก็ออกวิ่งแถวบ้านเหมือนเดิมครับ แต่วันนี้วิ่งแบบช้ามากนะ ความเร็วแค่ 6 กม/ชม เท่านั้นเอง วิ่งไป 1 ชม และเดิน Cool Down อีก 15 นาที
   สายๆ ขี่จักรยานออกไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ตลาด ร้านประจำแหละ ที่เคยเล่าว่าหมดเร็วมาก อย่างวันนี้วันอาทิตย์นะ ไม่ถึงเที่ยงดีก็เก็บร้านแล้ว สั่งวุ้นเส้นต้มยำแห้งใส่ถั่วงอกและผักบุ้งด้วย เขาให้มาอย่างละ 1 กำใหญ่ๆ โอเคดี ร้านแบบนี้เวิร์คมาก ชอบจริงๆ คิดเท่าไหร่ก็คิดไป (แต่เขาก็คิดเท่าเดิมแหละ เพราะมีอีกหลายคนเขาสั่งแบบไม่ใส่ผัก)
   
   วันนี้วิ่งแค่ชั่วโมงเดียว กลับมาบ้านไม่โทรม เปิดเวปหาเรื่องสุขภาพอ่าน เจอคอลัมน์แนะนำการกินตามกรุ๊ปเลือด เอ๊ะ น่าสนใจ ผมเพิ่งไปตรวจสุขภาพมาเมื่อต้นปี หมดบอกกรุ๊ปโอ เขาว่าดังนี้
   กรุ๊ป O : ปัญหาของคนเลือดกรุ๊ปนี้คือ กระเพาะมีความเป็นกรดสูง สามารถย่อยอาหารจำพวกเนื้อได้ดีกว่าเลือดกรุ๊ปอื่น แต่ระบบการเผาผลาญไม่ค่อยดี ระดับฮอร์โมนไทรอยด์ไม่ค่อยคงที่ จึงทำให้อ้วนง่าย ตามติดมาด้วยปัญหาเลือดแข็งตัวช้า
 อาหารที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือด O
  เนื้อสัตว์ : กินเนื้อได้แทบทุกชนิด ยกเว้น หมู ห่าน แฮมและเบคอน หรืออาหารทะเลพวก ปลาทูก็ช่วยให้ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนให้คงที่ได้
  ผัก : ผักกาดคอส (ในซีซาร์สลัด) ปวยเล้ง บร็อคโคลี หอมหัวใหญ่ และสาหร่ายทะเล ไม่ควรทานกะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ เพราะจะไปก่อกวนการทำงานของไทรอยด์ ไม่ควรทานมะเขือยาวและมันฝรั่งมากเกิน เพราะทำให้เป็นโรคข้ออักเสบได้
  ผลไม้ : ผลไม้ที่มีสีแดงเข้มหรือสีม่วงซึ่งมีความเป็นด่างสูง เช่น ลูกพรุน ลูกพลัม จะช่วยสร้างสมดุลให้ระดับกรดในกระเพาะอาหารได้ หลีกเลี่ยงส้มและเกรปฟรุต เพราะทำให้กระเพาะระคายเคือง
  เครื่องดื่ม : เธอควรเลิกดื่มกาแฟตอนเช้า ๆ ได้แล้ว เพราะจะยิ่งไปเพิ่มปริมาณกรดในกระเพาะอาหาร
  เคล็ดลับการไดเอท : ระหว่างไดเอทควรหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกถั่ว ธัญพืช และขนมปัง ซึ่งจะทำให้น้ำหนักขึ้นง่ายกว่าปกติ
  การออกกำลังกาย : เล่นกีฬาที่ออกแรงมาก ๆ เช่น วิ่ง ขี่จักรยาน เต้นแอโรบิก ว่ายน้ำ จะช่วยเธอเผาผลาญแคลอรีได้ดี
   อ้าว จัดไปให้ครบทุกกรุ๊ปเลยก็แล้วกันนะ แต่ผมก๊อปเขามานะ ผิดถูกอย่างไร ขออภัย ผมไม่ได้คิดเองครับ
   กรุ๊ป A  : คนเลือดกรุ๊ปนี้ส่วนใหญ่จะมีกรดในกระเพาะต่ำ ทำให้ระบบการย่อยไม่ค่อยดี ระบบภูมิคุ้มกันไม่ดี มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ และมะเร็ง กรุ๊ปเอจึงถูกจัดเป็นพวกมังสวิรัติ
 อาหารที่เหมาะกับกรุ๊ป A
  เนื้อสัตว์ : ห่าง ๆ จากเนื้อสัตว์ทุกชนิดไว้เป็นดี แต่ปลาทะเลบางชนิด เช่น ปลาทู ปลาแซลมอน ปลากระพงก็พอกินได้ แต่ถ้ากิน ถั่วลิสง เมล็ดฟักทอง และเต้าหู้ เพื่อทดแทนโปรตีนจากสัตว์จะดีกว่า
  ผัก : เสริมสร้างภูมิต้านทานด้วยบร็อคโคลี แครอท กระเทียม หัวหอม ฟักทอง และผักโขม
  ผลไม้ : กินได้เกือบทุกชนิด ยกเว้นมะม่วง มะละกอ กล้วย ส้ม เพราะทำให้ระคายเคืองกระเพาะและเป็นตัวการขัดขวางการดูดซึมของวิตามินต่างๆ
  เครื่องดื่ม : สามารถดื่มกาแฟหรือไวน์แดงได้ (วันละหนึ่งแก้ว) เพื่อช่วยเพิ่มกรดในกระเพาะอาหาร แต่ไม่ควรดื่มนม เบียร์ และโซดา
  เคล็ดลับการไดเอ็ท : หากกินอาหารตามกรุ๊ปเลือดสม่ำเสมอ น้ำหนักลดลงเองโดยอัตโนมัติและยังเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกายได้อีกด้วย
  การออกกำลังกาย : ไม่ออกแรงหักโหมเกินไป เช่น โยคะและไทชิ ส่วนอาการเครียดที่เธอเป็นบ่อย ๆ สามารถแก้ไขได้ด้วยการนั่งสมาธิเป็นประจำ
กรุ๊ป B : คนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้ ส่วนใหญ่มีปัญหากับไวรัสและภูมิคุ้มกันบกพร่อง ระบบประสาทไม่ค่อยดี มักปวดตามข้อ มีโอกาสเกิดโรคแผลในสมอง (sclerosis)หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง
 อาหารที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือด B
  เนื้อสัตว์ : เนื้อแพะ แกะ กระต่าย แม้จะหายากแต่ก็ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันได้มาก ควรหลีกเลี่ยงไก่และไข่ เพราะมีเลคติคไปเกาะกับเซลล์เลือด ปลาทะเลน้ำลึกที่ดีคือ ปลาแซลมอนและปลาหิมะ
  ผัก : กินผักใบเขียวมาก ๆ จะช่วยไม่ให้เป็นโรคที่เกี่ยวกับภูมิแพ้ หลีกเลี่ยงมะเขือเทศ เพราะมีเลคติคซึ่งไปก่อกวนระบบการย่อยและขัดขวางระบบเผาผลาญแคลอรีและระดับน้ำตาลในเลือด
  ผลไม้ : สับปะรดมีเอนไซม์ช่วยให้ย่อยอาหารได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ควรกินมะพร้าว มะเฟือง และทับทิม
  เครื่องดื่ม : ชาสมุนไพรที่ดีคือ ชาเขียว ขิง เปปเปอร์มิ้นต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโสม จะช่วยบำรุงระบบประสาท
  เคล็ดลับการไดเอท : มันฝรั่ง ข้าวโอ๊ต และสับปะรด เพราะมีไฟเบอร์สูงและช่วยระบบหมุนเวียนของน้ำตาลในเลือด แต่ไม่ควรกินข้าวสาลี ข้าวโพด ถั่ว และงา เพราะเป็นต้นเหตุให้ระบบเผาผลาญแคลอรีทำงานช้าและน้ำหนักขึ้นได้ง่าย
  การออกกำลังกาย : ไม่หักโหมมากแต่ก็ไม่เบาจนเกินไป เช่น เทนนิส ศิลปะป้องกันตัวและปีนเขา
กรุ๊ป O : ปัญหาของคนเลือดกรุ๊ปนี้คือ กระเพาะมีความเป็นกรดสูง สามารถย่อยอาหารจำพวกเนื้อได้ดีกว่าเลือดกรุ๊ปอื่น แต่ระบบการเผาผลาญไม่ค่อยดี ระดับฮอร์โมนไทรอยด์ไม่ค่อยคงที่ จึงทำให้อ้วนง่าย ตามติดมาด้วยปัญหาเลือดแข็งตัวช้า
 อาหารที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือด O
  เนื้อสัตว์ : กินเนื้อได้แทบทุกชนิด ยกเว้น หมู ห่าน แฮมและเบคอน หรืออาหารทะเลพวก ปลาทูก็ช่วยให้ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนให้คงที่ได้
  ผัก : ผักกาดคอส (ในซีซาร์สลัด) ปวยเล้ง บร็อคโคลี หอมหัวใหญ่ และสาหร่ายทะเล ไม่ควรทานกะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ เพราะจะไปก่อกวนการทำงานของไทรอยด์ ไม่ควรทานมะเขือยาวและมันฝรั่งมากเกิน เพราะทำให้เป็นโรคข้ออักเสบได้
  ผลไม้ : ผลไม้ที่มีสีแดงเข้มหรือสีม่วงซึ่งมีความเป็นด่างสูง เช่น ลูกพรุน ลูกพลัม จะช่วยสร้างสมดุลให้ระดับกรดในกระเพาะอาหารได้ หลีกเลี่ยงส้มและเกรปฟรุต เพราะทำให้กระเพาะระคายเคือง
  เครื่องดื่ม : เธอควรเลิกดื่มกาแฟตอนเช้า ๆ ได้แล้ว เพราะจะยิ่งไปเพิ่มปริมาณกรดในกระเพาะอาหาร
  เคล็ดลับการไดเอท : ระหว่างไดเอทควรหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกถั่ว ธัญพืช และขนมปัง ซึ่งจะทำให้น้ำหนักขึ้นง่ายกว่าปกติ
  การออกกำลังกาย : เล่นกีฬาที่ออกแรงมาก ๆ เช่น วิ่ง ขี่จักรยาน เต้นแอโรบิก ว่ายน้ำ จะช่วยเธอเผาผลาญแคลอรีได้ดี
กรุ๊ป AB : กรุ๊ปนี้เป็นการผสมผสานระหว่างกรุ๊ปเลือด A กับ B ดังนั้นวิธีการกินที่เหมาะสมกับคนกรุ๊ปนี้เป็นการผสมผสานการกินมังสวิรัติหน่อย ๆ กับการกินแบบกรุ๊ปบี นิด ๆ คนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้มีจุดอ่อนเรื่องสุขภาพอยู่ที่ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอและกรดในกระเพาะต่ำ
 อาหารที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือด AB
  เนื้อสัตว์ : เนื้อแกะ แพะ กระต่าย ไก่งวง ส่วนอาหารทะเล เช่น ปลาเทราต์ ปลาซาร์ดีน ปลาเก๋า ปลาทูน่า
  ผัก : ผักสด เช่น บร็อคโคลี แตงกวา กระเทียม ดอกกะหล่ำ และผักใบเขียวต่างๆ
  ผลไม้ : หลีกเลี่ยงผลไม้เมืองร้อน เช่น มะม่วง กล้วย ฝรั่ง และมะพร้าว เพราะย่อยยาก ผลไม้ตระกูลส้มจะทำให้กระเพาะระคายเคืองถ้าเป็นมะนาวจะช่วยย่อยและล้างระบบลำไส้ได้ แนะนำว่าควรจะเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการดื่มน้ำอุ่นที่บีบมะนาวสักครึ่งซีก
  เครื่องดื่ม : การดื่มไวน์แดงวันละแก้วจะช่วยสร้างภูมิต้านทานโรคหัวใจและโรคมะเร็ง ชาคาโมมายล์และชาเขียวช่วยฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกัน
  เคล็ดลับการไดเอท : กินผักใบเขียว มันฝรั่ง และข้าวโอ๊ต เพราะมีไฟเบอร์สูงและช่วยระบบหมุนเวียนของน้ำตาลในเลือด
  การออกกำลังกาย : มักจะเครียดบ่อย ๆ เหมือนกรุ๊ปเอ วิธีแก้คือการออกกำลังกายเบา ๆ ด้วยการเดินช้า ๆ เล่นไทชิ หรือเล่นโยคะ
   อ่านแล้วคิด วิเคราะห์ คำนึงถึงเหตุผลเป็นหลัก ไม่ใช่ว่าอ่านเจออะไรแล้วเชื่อแม่งไปเสียหมด สิ่งไหนดี สิ่งไหนดูมีเหตุผล จะลองทำก็ไม่ผิดอะไร ลองแล้วเวิร์คก็ดีใจด้วย นำมาประยุกต์ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวคุณเอง มันก็จะเป็นสูตรเฉพาะส่วนตัว
   สำหรับผม กรุ๊ปโอ ผมว่าค่อนข้างตรงหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องการออกกำลังกายหนักๆ และการกินถั่ว ฮ่าๆ เห็นทีจะต้องพักถั่วกันยาวล่ะคราวนี้ แล้วกูจะหันไปกินอะไรดีล่ะ ทุกวันนี้ก็ต้มน้ำเต้าหู้กินเองแล้ว เขาแนะนำให้วิ่ง จักรยาน ว่ายน้ำ โอเคว่ะ ใช่เลย ผมชอบ 3 กีฬานี้จริงๆ มันคือสุดยอดของกีฬาแบบแอโรบิค
   เดินไปเดินมาซดน้ำเต้าหู้หมดไปเกือบลิตรแล้ว ถั่วที่บ้านยังเหลืออีกพอควรเลย ไว้หมดล็อตนี้ผมจะลองเลิกถั่วดู อยากรู้น้ำหนักจะลดเร็วจริงไหม
   กลางวันกินซาลาเปาไส้หมูแดง บิกินแต่ไส้ เหลือแป้งทิ้งไว้ ไม่เอา อ้วน กินขนมเปี๊ยะชิ้นเท่าฝ่ามือไปอีกชิ้น กลางวันกินแค่นี้แหละ ถ้าหิวก็มีถั่วลิสงต้มคอยท่าอยู่อีกหน่อย
เย็นแม่เข้ามาบ้าน ซื้อขนมเบื้องญวนร้านแม่ละเมียดแถวถนนดินสอมาฝาก อืม จัดไปครับ ไม่อยากให้เสียน้ำใจ เอาไว้พรุ่งนี้เช้ามาวิ่งรีดไขมันออกก็แล้วกันนะ
Title: Re: มีค 57
Post by: O'Pern on March 28, 2014, 04:38:58 pm
24 มีค 57
   วิ่งเพื่อชีวิต ไม่กลัวเหนื่อย ไม่กลัวร้อน กลัวอย่างเดียวคือข้อเข่าพัง นี่อยากรู้จริงๆ นะว่าวิ่งหนักแค่ไหน นานแค่ไหนข้อเข่าถึงจะพัง ลองเสิร์ชหาข้อมูลของคนเข่าพัง พบว่าส่วนใหญ่มาจากเล่นฟุตบอล แบดมินตั้น เลยสันนิษฐานว่า เกิดจากการวิ่งๆ หยุดๆ และเปลี่ยนทิศทางกะทันหัน ทำให้ข้อได้รับแรงกดเค้นมาก บ่อยเข้า นานเข้า ต่อเนื่อง มันก็เลยเสีย
   เดาล้วนๆ นะ
   เฮ้ย ฝนตกๆ กำลังจะกลับบ้านเลยเปลี่ยนใจแวะเข้าไปคอนโด ผมชอบอยู่คอนโดตอนฝนตกเป็นที่สุด ไม่ได้เข้าไปคอนโดนานมาก กลัวอะไรก็ไม่กลัวเท่าแอร์พังเพราะไม่ค่อยได้ใช้ กลัวตอนมาใช้จริงแล้วมันไม่เย็นนี่สิ งานเข้าเลย
   บรรยากาศดี ลมแรง ร่ม ล้างระเบียงแม่งซะเลย ถอดเสื้อเหลือแต่กางเกงขาสั้นแล้วก็ลุยเลย ขัดแม่งสองระเบียงเลย ฝนทำท่าจะตกอีกรอบ แต่จู่ๆ ก็หายไปเสียสนิท กลายเป็นแดดแรงจัดแทน อ้าว เฮ้ยย ยังล้างไม่เสร็จ
   นึกว่าจะได้ขัดล้างแบบสบายๆ กลายเป็นเหงื่อท่วมตัว ล้างสองระเบียงเสร็จก็ไปล้างห้องน้ำต่อมันซะเลย เปิดน้ำฝักบัวแบบ Rain Shower อาบแบบสบายใจ
   พอเปิดมาทีแรกน้ำแม่งไม่ออกเลยนะ คงจะแห้งจากท่อไปนาน ไม่เคยเปิดน้ำฝักบัวหลายเดือนเลย พอน้ำมาถึงก็ออกไม่ครบรูเสียอีก Rain Shower สวยๆ กลายเป็นตลกไป แก้ด้วยการเอานิ้วไปสะกิดปลายท่อยางแต่ละปุ่มๆ ทั้งแผง คงจะเกิดตระกรันมั้ง
   เปิดแอร์ทั้งสองตัวทิ้งไว้ด้วย ให้เครื่องมันทำงานเต็มที่จนคอมแอร์ตัด ยังเย็นปกติดี ชุ่มฉ่ำดี แต่หิวว่ะ ไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า อ้อ มีกินกีวีไป 3 ผล
   บ่ายแก่ๆ เกือบเย็นเข้ามาบ้าน หิวจัดสุดยอด กินไม่เลือกเลย เจอน้ำเต้าหู้ซดรวดเดียวเกือบลิตร ตามด้วยอัลมอนด์อบอีก 1 กำมือ เดินไปเดินมา ยังไม่หายหิว กินขนมเปี๋ยะโบราณเจ้าเก่าย่านท่าดินแดงไปอีก 1 ชิ้น ไอ้นี่อ้วนแน่ๆ มีแต่แป้งหุ้มถั่วเขียวบด
   กินไปเยอะแล้วรู้สึกผิด แต่ตอนก่อนกินนี่ยั้งคิดไม่ทัน นี่คงจะเกิดเพราะผมปล่อยให้ร่างกายหิวจัดมาก พรุ่งนี้เช้าต้องวิ่งอย่างหนักเพื่อไล่คาร์โบฯชุดนี้ให้ออกไปโดยเร็ว
   ข่าวใหญ่วันนี้พวกเสื้อแดงรุมกระทืบพระที่หน้า ปปช แถวสนามบินน้ำ โอ้ สุดยอดความภูมิใจของชาวเสื้อแดงจริงๆ
Title: Re: มีค 57
Post by: O'Pern on March 28, 2014, 06:14:18 pm
25 มีค 57 International Bangkok Motor Show
   วิ่งจัดเต็มอีกครั้ง ซัดไป 1 ชม วิ่งแบบสลับช่วงความเร็ว รู้สึกเรียกเหงื่อได้เพียบจริงๆ ข้อเสียอย่างเดียวคือกลัวข้อหัวเข่าพังเร็ว
   อาหารเช้าทรงคุณค่า ผักคะน้าผัดหมูกรอบ เลือกคัดกินแต่ผัก กินหมูกรอบไปแค่ 2-3 ชิ้นก็คัดตรงหนังและไขมันออกไป แต่ผักคะน้านี่กินไปเยอะมาก มีไข่ดาวอีกฟองเป็นแหล่งโปรตีน
   วันนี้แต่งหล่อหน่อย ไปงาน Motor Show เมื่อปลายปีไปงาน Motor Expo ใส่สูทแล้วแน่น มาตอนนี้ใส่แล้วเสือกหลวมเกิน อ้าว เป็นงั้นไป เลยเลือกเสื้อด้านในสีอ่อนหน่อย แล้วใส่สูทีน้ำเงินเข้มทับ เตรียมกล้องไป 1 อัน มีที่ห้อยตรงเข็มขัด ใช้งานง่าย เก็บสะดวกดี
   ไปส่งมิวเหมือนเดิม แล้วค่อยย้อนไปขึ้นทางด่วน จุดหมายอิมแพค เมืองทองธานี ระยะทางไกลครับ แต่ขับรถง่าย สะดวก มีทางด่วนลงถึงอิมแพคเลย วันนี้วันของผู้สื่อข่าวอีกด้วย จอดรถใต้ตึกได้ฟรีสบายๆ (ปกติจอดตรงนี้ชั่วโมงละ 30 บาท)
   ผมไปถึงงานก่อน 0900 งานเริ่ม 9.59 เป็นแบบนี้ทุกปี จำได้ขึ้นใจแล้ว งานนี้ผมลุยเดี่ยวอีกเช่นเคย โพสลงในเฟซบุ๊คถามแล้วว่าใครจะมางานบ้าง จะได้เจอกัน มีแต่คนกดไลค์ ไม่เห็นมีใครตอบว่าจะมาเลย ฮ่าๆ เตรียมใจไว้แล้วว่าคงไม่ได้เจอคนใครมากนัก
   เข้าอาคารก็เจอ Starbucks ก่อนเลย ไอ้นี่ทำผมสงสัยมานาน ทำไมกาแฟแก้วละร้อยกว่าบาทถึงขายดีโคตรๆ คนต่อคิวกันกว่า 20 คนแน่ะ คือผมไม่พิศวาสกาแฟไง คือกินได้ แต่ไม่ค่อยซื้อกินหรอก เติมน้ำตาล เติมนม มันอ้วน ปกติก็ไม่กินอยู่แล้ว ให้ฟรีก็ยังไม่กิน ถ้ากินชงเองตามงานเลี้ยงก็กินแบบเล่นๆ คือกาแฟดำ ไม่ใส่นม ไม่ใส่น้ำตาล
   ไปถึงงานก็ต้องลงทะเบียนก่อนเลยครับ เขาจะแยกเป็นแถวๆ ว่าใครมาจากสื่อไหน สื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออินเทอร์เนท นิตยสาร ฯลฯ ถ้าเป็นสื่อจากต่างประเทศนี่ผมว่าน่าจะได้รับบัตรเชิญนะ แบบจะได้ดูดีหน่อย ดูโปร แต่สำหรับสื่อไทยนี่กันเองมากเลย ใช้แค่ลงชื่อแสดงตัวก็ใช้ได้แล้ว ลงทะเบียนแล้วก็จะได้สูจิบัตร ตารางการเปิดตัวของรถในงานวันนี้ ของชำร่วยปีนี้คือเสื้อยืดสีขาว สกรีนม่วงๆ โคตรเห่ยเลย แต่จับแล้วเนื้อผ้านุ่มดี ถ้าใส่สบายก็คุยกันได้หน่อย 
   ลงทะเบียนเสร็จก็มีซุ้มค็อกเทล อาหารว่างสำหรับคนยังไม่กินมื้อเช้ามา เห็นแล้วหิวเลย แม้จะกินมาแล้วก็ตาม แต่อยู่ในช่วงลดหุ่นไง จึงเลือกของที่อ้วนน้อยสุด นั่นคือซาลาเปาหมูแดง บิกินแต่ไส้ เหลือแป้งเอาไว้ กินไป 2 ชิ้น
   เดินไปห้องของสื่อมวลชนต่อ ในห้องนี้มีอาวุธให้เราใช้ทำงานได้อย่างสบายๆ คอมพิวเตอร์แบบโนทบุ๊คเปิดไว้คอยเกือบ 20 เครื่อง มีตู้ล็อคเกอร์ มีอาหารว่างหลายอย่าง เครื่องดื่มในตู้เย็นทุกอย่างฟรีหมด แต่ต้องแสดงบัตรคล้องคอของผู้สื่อข่าวเท่านั้นนะ VIP ก็ยังเข้าไม่ได้
   เอาข้าวของที่ได้รับแจกมาทั้งหมดใส่ตู้ไว้ สแกนบัตรจอดรถก่อนใครเลย สำคัญมาก ถ้าสแกนก็จอดฟรีทั้งวัน ถ้าลืมก็งานเข้า ตัวใครตัวมัน เพราะเขาคิดชั่วโมงละ 30 บาท หยิบน้ำเปล่ามาขวดเดียวใส่กระเป๋าแล้วก็เดินออกมา งานเริ่ม 9.59 แต่บัตรสื่อมวลชนเข้าได้ตั้งแต่ 0900 แล้ว หลายคนไม่รู้ก็เลยนั่งกินนอนกินรออยู่ห้องจัดเลี้ยงด้านล่าง สำหรับผมแล้ว เวลานี้คือนาทีทอง เพราะถ่ายรูป เก็บรายละเอียดได้ง่าย สะดวก คนน้อยมากๆ
   ในงานนี้มีรถที่ผมเล็งไว้ว่าอยากได้รายละเอียดมันหลายคัน เริ่มจาก Mazda 3 และ BMW Series 4 ส่วนค่าย Ford ผมสนใจตัว Eco Sport ถ้าเป็น Mercedes Benz ก็เป็นตัว GLA ที่เปิดตัวครั้งแรกในเอเชีย
   ตรงปรี่ไปจัด Mazda 3 ก่อนเลย ชอบตัว Hatch Back นะ นี่ถ้าเขาทำตัว 3 ประตูออกมาด้วยนะ รับรองว่าจะขายดีมาก รถคันนี้โดดเด่นมากครับ ดูสวยงาม ลงตัว งานนี้ค่าย Lancia ของอิตาลีร่วมช่วยงานออกแบบด้วย
   ปลายปีในงาน Motor Expo ผมยกให้รถ Hyundai Veloster เป็นรถที่นั่งแล้วฟิลลิ่งดีสุด พอมาเจอ 3 นี่ทำให้ผมต้องเดินไปเดินมาที่ Hyundai หลายรอบ สรุปว่าตัว 3 นี้เจ๋งกว่า Veloster ครับ แต่เฉือนกันแค่เล็กน้อยนะ ถ้าเป็นเด็กวัยรุ่นอาจจะชอบ Veloster มากกว่า มันคับๆ พอดีๆ ตัว แต่สำหรับ 3 แล้วมันพอดีแบบหลวมๆ หน่อยโดยรวมแล้วหากนำมาขับทุกวัน ผมว่า 3 น่าจะเหมาะแก่คนทั่วไปมากกว่า
   ไฮไลท์ของคันนี้คือหน้าจอเล็กๆ คล้ายๆ แบบ HUD – Head Up Display แบบ 3D ที่เปิดโชว์อยู่ด้านบนของแผงคอนโซลตรงกลางหน้าผู้ขับเลย ไอ้แผ่นนี้เป็นพลาสติคเล็กๆ นะ มันจะเปิดปิดเองตอนติดเครื่อง อย่ามือบอนไปพับมันเก็บเอง มันจะหักเอาได้ง่ายๆ จุดนี้ละเอียดอ่อนและสำคัญมาก หากผู้ขับใช้รถเองคนเดียวก็ไม่มีปัญหา กลั้วตอนไปล้างรถที่คาร์แคร์นี่แหละ ไอ้นี่คือแหล่งทำลายรถโดยตรงเลย (สำหรับร้านที่ไม่ค่อยอัปเดทเรื่องรถยนต์)
   ไอ้จอนี้มีเฉพาะตัวท็อปนะครับ และจะมีหลังคาแบบ Moon Roof มาให้ด้วย ไอ้นี่บางคนชอบ บางคนไม่ชอบ แต่ถ้ามีก็เปิดไล่ลมร้อนตอนจะออกตัวจากที่จอดรถกลางแดดได้ดี
   เครื่องยนต์ sky active ประหยัดน้ำมันกว่าเดิมมากๆ ตัวนี้เครื่อง 2.0 แต่ประหยัดกว่าเครื่อง 1.6 ของตัวเก่าเสียอีก โอ้ พระพุทธ อ่านสเปคแล้วอยากลองจริงๆ รถสวย นั่งสบายมากให้อารมณ์ซิ่งจริงๆ เลย รองรับน้ำมัน E85 อีกด้วย
   ไปเจอเอาตัวเทพตั้งแต่เปิดงาน พอมาลองนั่งคันอื่นแล้วแม่งดูเด็กๆ ไปเลย ทั้ง Eco Sport ที่ตอนแรกชอบมาก พอจับพวงมาลัยเท่านั้นแหละ เลิกเลย วัสดุไม่ดี คอนโซลกลางอวกาศเหมือนพวกทำจากบ้านหม้อ แต่ที่เหลือโอเคดีหมดนะ ชอบปุ่มเปิดฝาท้ายมากที่สุด ซ่อนในไฟท้ายเลย เปิดแบบสวิงข้าง แต่ข้อด้อยมีอีกอันก็คือ แผงการ์ดไฟหน้ามันไม่เวิร์คเอาเสียเลย ความตั้งใจจะเป็นชุดแต่งน่ะโอเค รับได้ แต่ติดแล้วเศษใบไม้มันจะมาอุดตัน และเอาออกยากมาก สุดท้ายก็จะน่าเกลียดเป็นที่สุด พนันได้เลย
   Mercedes Benz GLA ที่เขาแสนจะภูมิใจ ผมลองนั่งแค่แป๊บเดียว ลุกออกมาเลย มันไม่ใช่จริงๆ เจอ Mazda 3 มาก่อนแล้วมันฝังใจ แม้ราคาจะห่างกันเป็นล้าน แต่ผมว่า 3 แม่งโดนกว่าเยอะ
   Mercedes Benz C Class ที่เขาแสนจะภูมิใจ ผมดูแล้วรถแม่งโคตรตลกเลย ไม่สมส่วนเมือมองจากด้านข้าง โดยเฉพาะด้านมุมท้าย (ไม่สวย ไม่สง่า) ด้านในห้องโดยสารที่ก็อป S Class มาหลายจุดเลยนะ ภายในโอเค เหมือนย่อ S Class มาหลายจุดเลย ท่าทางจะสบาย มีกระจังหน้าแบบเปิดปิดช่องลมได้ด้วย ตลกดี ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะปิดทำไม ถ้ามีประโยชน์จริง ทำไมตัว AMG ถึงเป็นกระจังแบบโปร่งเหมือนเดิม
ถ้าชอบก็โอเคนะ ดูดี ดูหรูมาก แต่ก็ต้องยอมรับข้อด้อยเล็กๆ ในห้องโดยสารของ Mercedes Benz ทุกรุ่นคือ ที่เก็บของด้านหน้านั้นเล็กจริงๆ
   ที่น่าผิดหวังสำหรับผมคนเดียวก็คือไม่มีรถเปิดประทุนใหม่ๆ มาเลย ในงานก็มีแค่ BMW Z4 และ Mercedes Benz E Class Cabriolet มันเก่ามากแล้ว หลายปีแล้ว แต่เข้าไปนั่งแล้วรู้สึกดีนะ อ้อๆ ลืมไป มี BMW 4Series ที่เปิดประทุนได้อยู่คันหนึ่งทีเป็นรถใหม่ล่าสุด
   ค่าย BMW ก็มี 3Series GT ที่น่าสนใจมากๆ ยืดฐานล้อให้ยาวกว่าปกติ ทางตรงทรงตัวดีขึ้น แต่ก็แลกกับวงเลี้ยวที่กว้างมากขึ้นกว่าเดิม ภายในสวยงามมา วัสดุดี ดูดีมากๆ ครับ
   ที่ลุ้นอยู่นานแต่คงลุ้นไม่ขึ้นคือรถ MG รถไม่สวย ไม่มีจุดเด่น รูปทรงงั้นๆ ถ้าราคากลางๆ นะ ผมว่าเกิดยากครับ เจอรถญี่ปุ่นเจ้าตลาดกินเรียบ แต่ก็ขอเอาใจช่วยรถค่ายน้องใหม่รายนี้อยู่นะ ล็อตแรกมีแค่รถ Sedan และ แบบ Fast Back ให้เลือกครับ
   หารถ Super Car ผมเจอแต่ Porsche / Aston Martin / Chevolet Camaro นับว่าเป็นรถ Super Car หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ แต่มันดูหรูๆ เท่ๆ ก็เลยรวมเข้าไว้ด้วยกัน แต่น่าเสียดาย รถล็อค ให้แค่ดูภายนอก โคตรตลกเลยว่ะ จำได้แม่นว่าหลายปีก่อน Ferrari มาร่วมงาน ยังเปิดรถให้นักข่าวชมอย่างใกล้ชิด ผมได้ทดลองนั่ง นับว่าเป็นบุญมากจริงๆ มาปีนี้ งงเลย เลยได้แต่ดูภายนอก ซึ่งก็ไม่มีใครสนใจมากนัก เพราะหากมองภายนอกเฉยๆ นี่ ไปหาชมจากอินเทอร์เนทจะสวยกว่า
   เออ มีสองค่ายมาแปลก คืออยากโชว์ แต่ไม่อยากให้เข้าใกล้รถ เฮ้ยย งงดิ แม่งทำรั้วกระจกกั้นไว้ตลอดรอบนอกบูธอีกด้วย นั่นคือ Rolls Royce และ Aston Martin อืมม มึงก็จอดมันไว้อย่างนั้นเถอะนะ
   ตอนเดินค่าย BMW ก็ดู Mini ที่อยู่ใกล้ๆ กันไปด้วย เจอ Country Man ประกอบในประเทศ ราคาเหลือ 2.1 ล้าน เฮ้ย ผมว่าไอ้นี่น่าจะพอไปได้ดีนะ ราคาลงมาหลายแสนเลย มี New Mini รหัส F56 ตัวใหม่ล่าสุด แต่หน้าตามันก็ทรงเดิมๆ นะ เด่นที่มีไฟหน้าวงแหวนเป็นขอบ ดูแปลกตาดี กระจกข้างกลมโตกว่าเดิม ดูดีขึ้น
   เจอเซลล์มาบริการ เขาชื่อ “เน็ท” ก็มาพูดคุยเหมือนเซลล์ปกติ แต่ผมไม่อยากให้เขาเสียเวลา ก็เลยบอกว่าผมเป็นนักข่าว มาดูรถเฉยๆ มาหาข้อมูลรถทุกรุ่นไปทำข่าว แต่เนทก็ยังคงให้บริการตอบไขข้อข้องใจอย่างเต็มที่
   ผมช่างสังเกตมั้ง เลยถามเขาไปหลายจุด เขาเองก็ตอบไม่ได้ เพราะรถมันเพิ่งมา เขายังไม่ได้ลองขับ ผมถามเขาว่าระบบช่วงล่างนุ่มลงกว่าเดิมหรือยัง เพราะ Mini ตัวแรกนี่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งกระด้าง อารมณ์โกคาร์ทจริงๆ ครับ ขับแล้วใครไม่บ่นให้มาด่าเลย
   ตัว F56 น่าจะปรับปรุงเรื่องเหล่านี้มาแล้วนะ คุยกับเนทแล้วถูกคอ เลยนั่งคุยกันในบูธของ BMW อยู่นานเลย เนทเพิ่งมาทำงานขายเป็นครั้งแรก เพิ่งเรียนจบ เมื่อก่อนก็ร้องเพลง เดินแบบ ตั้งใจจะเก็บเงินไปเรียนต่อ
   เฮ้ย แม่งเจ๋งว่ะ ผมชอบเด็กแบบนี้ คิดได้แบบนี้ รับรองอนาคตไกล
   เดินไปค่าย Mercedes Benz เจอตัว G Class ที่เป็นทรงจี๊ป เก่าๆ เหลี่ยมๆ เลย ผมดูแล้วถูกใจมาก คิดว่าน่าจะสัก 3 ล้าน แต่ที่ไหนได้ แม่งขาย 7 ล้านหว่า หึหึ มีแค่ 2 คัน แถมขายไปแล้วด้วย
   ที่ Range Rover ก็มี Defender ตัวเก่าโบราณมาขาย ชอบมากเช่นกัน ไอ้นี่ขายสัก 3-4 ล้านนี่แหละ แต่ภายในห่วยเหี้ยๆ เลย โดยเฉพาะกล่องตรงกลางคอนโซล ทำแบบนี้อย่าทำเสียดีกว่า ต้องลองไปดูครับ รับรองจะเชื่อผมว่าเหี้ยจริง ลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมเป๊ะ ตัดเย็บห่วยๆ วัสดุแย่ๆ โอ้ พระพุทธ ทำออกมาทำไมแบบนี้
   เศร้าว่ะ ดูงานไม่ค่อยสนุกเลย รถใหม่ๆ ก็ไม่โดดเด่น เดินไปทางมอเตอร์ไซค์ก็ไม่เห็นคึกคักอะไรมากนัก ผมชอบรถโบราณ และมอเตอร์ไซค์หน้าตาแปลกๆ แต่ในงานมีแต่พวก Big Bike ตามกระแสเยอะแยะไปหมด ไอ้พวกนี้ผมขี่ไม่ได้หรอก รถมันคันใหญ่มาก ยิ่ง Suzuki Hayabusa นี่คนสูง 175 มานั่งยังดูตัวเล็กเกินไปเลย
   พริตตี้หลายค่ายยังคงแจ้งเกิดด้วยการโชว์นม บางคนดัน โกย เสริม จนนมมันล้นทะลักเกือบจะถึงคาง ดูโคตรทุเรศเลย คงจะภูมิใจด้วยการแอ่น เอียง เอน ร่างกายโชว์เต้า คนถ่ายก็เหลือเกิน ผมโคตรอายที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เลยปลีกตัวเดินหนีไป
   มันน่าจะเรียกว่าวันตบแฟลชแห่งชาติได้เลยนะนั่น แม่งมาจากไหนก็ไม่รู้ วันนักข่าวแท้ๆ แต่มีคนนอกเข้ามาเพียบ จูงลูกเล็กเด็กแดง คนแก่นั่งรถเข็นก็มี โหวงเฮ้งแบบนี้ยังไงก็ไม่ใช่นักข่าว ขนาดเขาจัดให้แขก VIP เข้างานก่อนใครเมื่อวานนี้ไปแล้วนะนั่น ยังมีล้นมาถึงวันนี้อีกเยอะเลย
   น่าแปลกมากคือได้เจอเพื่อนเก่าไม่กี่คนเอง รู้สึเหงาๆ ไปมาก ดูรถที่จอดเรียงรายแล้วหัวใจมันไม่คึกคักเหมือนเมื่อก่อนเลย เอ๊ะ หรือเราไม่ชอบเรื่องรถยนต์แล้วหรือนี่ ไม่ใช่แน่ๆ ผมยังชอบรถยนต์อยู่ ชอบมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพียงแต่ใจมันไม่ถึงเหมือนตอนหนุ่มๆ ที่นึกคิดจะทำนิตยสาร ก็ทำแม่งเลย ทั้งๆ ที่ไม่มีทีมงานอะไรกับเขาเลย ทำมันเองคนเดียวเกือบทุกอย่าง สุดท้ายก็เหนื่อย หมดแรง และล้มลง อย่างที่เห็น
   หมดเวลาของเราแล้วมั้ง เราก็คงเป็นอีกคนที่ล้มเหลวและไปไม่ถึงฝัน มีคนอย่างเราอีกมากมาย แต่โลกไม่เคยสนใจคนเหล่านี้หรอก เขาสนใจแต่คนที่ประสพความสำเร็จ
   เดินจนหิว เจอของกิน แต่ไม่กล้ากิน กลัวอ้วน ฮ่าๆ ในงานมีแต่ของกินสวยหรู ดูดี ทุกบูธจะมีอาหารว่างเลี้ยง กินกันจนอิ่มได้เลยล่ะ แต่มาเจอผมตอนนี้ กำลังลดพุงพอดี เลยกินแต่น้ำเปล่าอย่างเดียว
   เดินจนครบรอบทั่วงาน สรุปของผมเองคืองานจืดๆ ไปหน่อย ดาวเด่นคือ Mazda 3 / C Class / Eco Sport / BMW 320 GT และจุกจิกอีกนิดหน่อย นอกนั้นก็ไม่เท่าไหร่ อาจมีใหม่บ้าง แต่ก็ไม่สด
   อ้อ มีมุมจักรยานด้วย มีพี่อู๊ดเครา คนนี้เจอแทบทุกงาน งานของ a day นี่เจอประจำมา 2 ครั้งแล้ว ไม่น่าเชื่อจะมางาน Motor Show ด้วย คือพี่อู๊ดขายของถูกไง แล้วจะคุ้มกับค่าบูธหรือนี่ พี่ทูร Toon Motors ก็มี เอาจักรยาน Ferrari มาขาย มีรถค่าย Java และพวก Bike Fitting อีกนิดหน่อย
   ไม่เจอเพื่อนด้วยน่ะครับ ก็เลยเหงาๆ หน่อย เดินจนถึง 0500 ออกมาด้านนอกเห็นของกินขายเพียบเลย ตัดใจไม่กิน ขับรถกลับบ้านเลย
   ชอบ Impact ตรงมีทางด่วนอยู่ด้านในนี่แหละครับ แพงหน่อยก็ยอม มันสะดวกมากๆ ขึ้นตรงนี้ซัดยาว 35 กม รวดเดียวลงหน้าบ้านเลย จะติดตรงสะพานแขวนหน่อยเพราะซ่อมสะพาน ไอ้สะพานนี้ซ่อมบ่อยจริงๆ มันออกแบบให้สวิงตัวได้ไง เสือกทำซะสูง ก็เลยสวิงเยอะ บิดตัวมาก ผลก็คือบิดแล้วยางมะตอยแตก ฮ่วย งานเข้า ซ่อมแม่งตลอด
   ก้าวเข้าบ้านได้ก็วิ่งหาตู้เย็นเลย น้ำเต้าหู้เพื่อนรัก ขอซดหน่อยนะ หิวโฮกๆ เลย ได้ข่าวสารรถยนต์มาน้อยกว่าปีก่อนเยอะเลย คือหลายค่ายมีแต่รถเก่าๆ ไง ก็เลยไม่ได้ขอ Press Kit เขามา เช่นพวก Mitsubishi / Nissan / Honda อะไรทำนองนี้
   ค่ายรถทีทำโบรชัวร์สวยสุดก็คือ Mini นะ ถ้ามีโวตก็ให้ชนะได้เลย ชนะทุกปีอีกด้วย อ้อ ไม่นับของพวก Super Car นะ พวกนั้นเขาไม่แจกโบร์ชัวซี้ซั้ว ขนาดจะโชว์รถยังต้องกั้นรั้วกระจก กูล่ะโคตรงงกับมึงเลย
   ถ้าวันปกติผมเข้าใจ รับได้ เพราะคนมันหลากหลายไง แต่นี่วันนักข่าว กั้นไว้ก็ไม่มีคนเข้าน่ะสิลูกพี่ เอ๊ะ หรือเขาต้องการแบบนั้น คือให้ดูจากไกลๆ นี่พี่ชอบแบบนั้นจริงๆ หรอ
Title: Re: มีค 57
Post by: O'Pern on March 28, 2014, 06:16:15 pm
26 มีค 57
   วิ่งไปอีก 1 ชม วอร์มเบาๆ 20 นาที วิ่งแบบสลับช่วงความเร็วอีก 30 นาที แล้วกลับมาวิ่งเบาๆ อีก 10 นาที ตามด้วยเดินจนหายเหนื่อย จบภารกิจเช้านี้ไปแบบเหงื่อท่วมตัวเหมือนดังเช่นทุกวัน
   เช้านี้อาหารดีโคตรๆ มีปลาทะเลผัดขิง แต่ผัดแบบแห้งๆ ใส่พริกชี้ฟ้าแดง หอมอร่อยมากๆ มีแครอทลวก และไข่ต้ม เป็นเครื่องเคียง กินกับข้าวกล้องเหมือนเดิม
   มิวตื่นเองแต่เช้าในรอบหลายวัน แต่ตื่นมาเพื่อดูหนังซีรี่ย์ที่ตัวเองเพิ่งซื้อมาเมื่อวันอาทิตย์ ผมบอกให้เขาซื้อหลังจากสอบเสร็จ แต่ก็ไม่เชื่อ ไปแอบซื้อมาก่อน แล้วไงล่ะ พอซื้อมาแล้วก็อยากดู
   นั่งดูหนังจนไม่ยอมไปอาบน้ำ ต้องไปเรียกเหมือนปกติ แทนที่จะออกจากบ้านได้เร็วหน่อยก็เลยสายเท่าเดิม
   ส่งมิวที่สถานีรถไฟฟ้า ตั้งแต่ปิดเทอมมานี้มิวเรียนอยู่ที่สยามนานมาก นานจนผมต้องบอกว่าอย่าไปเรียนเยอะมากนัก อยากให้มีเวลาพักผ่อนบ้าง เล่นกีฬา เล่นดนตรีบ้าง นี่เอาแต่ไปเรียนท่าเดียว วันหยุดก็ไม่ยอมพัก บอกว่าเรียนสนุกดี เราก็ไม่อยากขัดไง แต่เห็นว่าเรียนเยอะมาก อยู่สยามตั้งแต่ 0800 เช้า – 0800 ค่ำ ก็บ่อย เรียนบ้าบออะไรตั้ง 12 ชม เรียนจนสนิทกับครู ดันไปเจอครูที่สอนอยู่โรงเรียนสวนกุหลาบเข้าให้อีกด้วย และไปเรียนที่โรงเรียน O Plus ที่เจ้าของก็เป็นศิษย์เก่าสวนกุหลาบอีก
   เขาอยากเรียนผมก็ไม่อยากขัด เพราะผมยังคงอยู่ในยุคที่อยากเรียนแต่ไม่ได้เรียน อืม เรียนปกตินี่แหละ ไม่ได้ไปเรียนอะไรเว่อร์ๆ แพงๆ ก็น่าเสียดายนะ ช่างมัน ผ่านมาแล้ว ไม่อยากเล่า
   มองตัวเลขบนตาชั่งที่มันค่อยๆ น้อยลงทีละนิดก็ภูมิใจ และมีพลัง แต่พุงยังมีไขมันอยู่นิดๆ ต้องใช้เวลาอีกนานพอควรในการทำให้หุ่นเหมือนพวกนักมวย
   เอาส้มเขียวหวานไปกินที่ทำงานด้วย กินตอนสายๆ แก้หิวได้ดี ระหว่างทางก่อนถึงบ้านผ่านตลาดวันนี้ลองแวะกินก๋วยเตี๋ยวดูหน่อย ปกติจะไม่กินไง มาหาของกินที่บ้านซึ่งก็มักจะกินเยอะเวอร์เพราะหิวจัด ตอนนี้พวกถั่วหลายอย่างเริ่มหมดไปแล้ว กะจะว่าลองงดตระกูลถั่วดูสักพัก
   แดดร้อนแรงจัด ลืมไปเลยว่าสองเดือนก่อนเคยหนาวแบบ 13C ตอนนี้มันใกล้จะ 43 C แล้วมั้ง
   บ่ายเข้ามาบ้าน มีช่างมาล้างแอร์ในห้องนอน ช่างล้างแอร์มีหลากหลายแนว บ้างก็คิด 400 บาท แพงกว่านี้ก็มี ถูกกว่านี้ก็พอหาได้ แต่กลโกงของช่างพวกนี้คือการเติมน้ำยาแอร์ครับ เพราะค่าแรงล้างแอร์มันได้กำไรไม่พอ มันเลยอยากได้เพิ่มอีก
   ให้เฝ้าดูตอนเขามายุ่งกับคอมแอร์ครับ ช่างชั่วๆ จะแอบปล่อยน้ำยาแอร์ทิ้งออกไป แล้วพอล้างเสร็จก็มาเสียบสายวัดแรงดันน้ำยาแอร์ ซึ่งเขาวัดโดยใช้แรงดันเหมือนลมยางจักรยานนี่แหละ ทีนี้พอแอบปล่อยน้ำยาทิ้งไป ตอนมาวัดใหม่แรงดันมันก็ตก (บางคนแอบปล่อยตอนล้าง บางคนแอบปล่อยตอนมาเสียบหัววัดนี่แหละ) ช่างบางคนโชว์แมน เรียกให้เรามาดู บอกเห็นไหมๆ ตัวเลขแรงดันมันน้อยกว่าค่าปกติ ต้องเติมเข้าไปอีก 5 ปอนด์นะ พอเรารับรู้ เขาก็จัดการอัดเข้าไปให้ได้ค่าตามสเปค เรียบร้อย เสร็จโจร
   ซวยเน๊อะ แถมช่างส่วนใหญ่จะมาแนวนี้เสียด้วยสิ ช่างดีๆ มีจรรยาบรรณหายากโคตรเลย เราจะเฝ้าดูตลอดเวลาก็กระไรอยู่ บางทีเราก็ต้องทำงานอื่นไปด้วย แต่ถ้าเฝ้าไม่ได้ก็ลองเรียกมาล้างบ่อยหน่อย ถ้ามาอีกภายในไม่กี่เดือนแล้วน้ำยาขาดอีกแล้ว นั่นคือโดนหลอกชัวร์ แต่มันก็จะปล่อยมุขใหม่มาอีก คือบอกว่าท่อเราคงรั่ว หาเรื่องชวนเปลี่ยนท่ออีก ไอ้นี่เริ่มแดกเยอะ ออกแนวปอกลอก
   
   ข่าวเด่นวันนี้คือวงโยธวาทิตของโรงเรียนสตรีวิทยา 2 โพสของเงิน 3.1 ล้าน บอกจะไปแข่งระดับโลก แถมมีเวลาแค่ 2 วัน เลยไปโพสขอเงินกับ “ตัน”
   งานนี้เหมือนโดนเด็กหักคอ ไม่ให้ก็โดนโลกด่าว่างก หรือจะให้ก็ยังไม่รู้ชัดเจนว่าเขาจะเอาไปทำอะไรอย่างไรบ้าง แต่สุดท้ายก็ให้ไป แต่ความดราม่ามันยังเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น เพราะมีคนไปสืบค้นมาพบว่า การไปแข่งวงโยฯครั้งนี้ โรงเรียน สว 2 ขอเขาไปร่วมแข่งเอง แถมแข่งคลาสนั้นไม่มีคู่แข่งชาติอื่นลงด้วย
   ครูที่โรงเรียนรู้เรื่องเข้าก็ต่อว่าให้เอาเงินไปคืนคุณตันเขา ไม่ควรไปขอเงินเขา คนในเฟซบุ๊คก็ด่ากันใหญ่ทำนองว่าเป็นขอทาน บ้างก็สงสารตันที่โดนเด็กหักคอ ส่วนคนขอก็แทนที่จะรับฟังความคิดเห็น กลับด่าสวนกลับคนที่เห็นต่าง แถมก่อนหน้านี้บอกว่าจะพาทั้งทีมไปทัวร์ยุโรปอีกด้วย ก็คงเป็นเงินก้อนนี้แหละ ตอนแรกขอ 13 ล้าน ตอนนี้เหลือ 3.1 ล้านแล้ว
โอ้โห สุดยอดดราม่าจริงๆ
ทำเอาข่าวภูเขาถล่มที่รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา แทบไม่มีคนสนใจเลย เมืองนี้ผมเคยไปอยู่ช่วงหนึ่ง ติดกับแคนาดา อากาศหนาวเย็นมาก หิมะตก มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย มีน้ำตกขนาดใหญ่ น่าเสียดายจริงๆ จำได้แม่นว่าล้างรถแล้วยังใหม่เอี่ยมอยู่ได้เกือบเดือน เพราะทั้งเมืองไม่มีฝุ่นควันเลย สุดยอดมากๆ นั่งกินข้าวอยู่หน้าห้องก็มีกระรอกเดินไปเดินมา
เย็นพ่อกลับมาบ้าน เอามะม่วงกวนมาฝาก หยิบกินทันที จัดไป 6-7 ชิ้น อุ้ย ลืมตัว ฮ่าๆ
Title: Re: มีค 57
Post by: O'Pern on March 28, 2014, 06:19:52 pm
27 มีค 57
   วิ่งอีกแล้ว บอกแล้วไง ไม่ผอม ไม่เลิก วิ่งมาสองเดือนกว่ากำลังจะเข้าเดือนที่ 3 แล้ว และไม่มีท่าทีว่าจะหยุด
   น้ำหนักที่ลดลงคือกำลังใจครับ แต่บางวันมันก็ไม่ลงนะ เคยค้างอยู่ 3-4 วัน เล่นเอาท้อเหมือนกัน แต่แก้ด้วยกลยุทธใหม่ๆ ครับ เล่นระหว่างวันก็ต้องกายบริหารไปด้วย ให้กล้ามเนื้อมันปลดปล่อยพลังทิ้งออกไป และกักเก็บพลังเข้าไปใหม่จากอาหารที่เรากิน แต่ต้องอย่าทำแบบหักโหม มันจะส่งผลตรงข้าม อันนี้ละเอียดอ่อนมาก
   จัดไปอีก 1 ชม ขำขำ สู้เข้าไป อย่าได้ถอย ถ้าเบื่อ ถ้าเหนื่อย ก็นึกถึงคนที่เขารอรับบริจาคอวัยวะของเรา เราทำร่ายกายให้ดีสุด อวัยวะร่างกายเราจะได้คุณภาพสูงสุด เขานำไปใช้ต่อ จะได้มีแต่ของคุณภาพ ไม่ใช่เป็นตับ ไต ของพวกคนขี้โรคหรือพวกอ้วนไขมันเยอะ
   ช่วงนี้น้ำหนักเริ่มลงช้าอีกแล้ว อันที่จริงก็ลงช้ามาตลอดแหละ ต้องใช้ความพยายามอย่างสูง แต่วิ่งอย่างเดียวคงไม่พอแล้วล่ะ ต้องลองหาวิธีอื่นมาช่วยเสริม ที่พอจะทำได้เองง่ายๆ ก็วิดพื้น ซิทอัพ นี่แหละครับ ผมไม่ชอบเข้าฟิตเนส ไม่ชอบบรรยากาศข้างใน
   ไปส่งมิวที่รถไฟฟ้า เลยไปร้านขายของ เช้านี้มีมะม่วงน้ำดอกไม้ไปกิน 1 กล่อง อยู่จนบ่ายแก่ๆ ไปทำธุระใน Home Pro ซื้อกล่องเก็บของเท่ๆ มา 2 ใบ ใจจริงอยากได้ 3 แต่เขาบอกของหมด เลยรีบซื้อมาเพราะลดราคาอยู่ เอามาจัดเรียงดีๆ ก็ดูสวยเหมือนกัน เปิดหยิบของได้สะดวกเสียด้วย
   วันนี้ใช้รถ Nissan 180SX ครับ ไม่ได้ขับตอนกลางวันมาเป็นเดือนเลย ช่วยหลังจะใช้แค่ขับไปรับมิวตอนเย็น กลับค่ำๆ บ้างในบางวัน ก็โอเคดี แต่วันนี้เอามาลุยตะลอนทั้งวัน หึหึ แดดร้อนจัด รถคันนี้ไม่มีฟิล์มไง ร้อนโคตรๆ เลย กระจกกรองแสงแล้วนะ แต่ยังเอาไม่อยู่
   รถมันเริ่มรวนอีกแล้ว สองปีก่อนเคยเป็นแบบนี้ครั้งหนึ่ง ผมนึกว่าเกียร์เสีย อาการคือกดคันเร่งแล้วรถตอบสนองช้ามาก เครื่องยนต์ 2000 Turbo แต่วิ่งเหมือนรถแค่ 500 cc ไม่มีเรี่ยวแรงอะไรเล้ยย เร่งแซงซาเล้งยังต้องสวดมนต์ขอให้พ้นๆ
   ช่างบอกเกิดจากคอยล์เสีย เปลี่ยนแค่คอยล์จบเลย แต่ตอนนั้นใช้ของมือสอง มาตอนนี้พังอีกแล้ว สันนิษฐานว่าน่าจะมาจากคอยล์เหมือนเดิมนะ คงไม่มีอาการใหม่มาเสริม
   กลับมาถึงบ้านเกือบเย็น กินถั่วแดงต้มไปครึ่งชาม ดีนะตอนออกจากที่ทำงานผมติดกล้วยน้ำว้ามา 1 ผล เลยกินตอนอยู่ในรถไปเรียบร้อย เข้ามาบ้านเจอพ่อกำลังนั่งกินข้าวเหนียวมะม่วง โหห ของโปรด อยากกิน แต่ตัดใจครับ เรามีภารกิจสร้างกล้ามท้องรออยู่
   ศึกครั้งนี้ยังอีกยาวไกลครับ
   0600 เริ่มหิวอีกครั้ง ต้องกินอัลมอนด์ไปอีก 1 กำมือ ตามด้วยน้ำเต้าหู้ถ้วยใหญ่ อาบน้ำ ขึ้นห้องนอน อ่านหนังสือ ออกกำลังกายยืดเส้นสาย
   หัวค่ำมีคนในเวปจักรยานชื่อ “โต” โทรมาสอบถามเรื่องจักรยาน พูดคุยกันไปนานหน่อย เพราะเขาเพิ่งจะสนใจ และต้องการเลือกรถเพิ่ม ตอนนี้มี KHS T2 อยู่แล้ว แต่อยากได้อีกคัน ก็แนะนำเขาไปหลายด้าน ให้เขาไปสรุปรูปแบบการใช้งานของตัวเองมาก่อน จากนั้นค่อยเลือกรถ รถคันละหลายๆ หมื่นอาจไม่เหมาะกับการใช้งานของเราก็เป็นได้ ในขณะที่รถเกรดกลางๆ ก็ตอบสนองความต้องการของเราได้ครบถ้วนอยู่แล้ว จะไปจ่ายแพงกว่าทำไม ยกเว้นว่าคุณอยากได้มัน นั่นคือจบ
Title: Re: มีค 57
Post by: O'Pern on March 28, 2014, 06:22:31 pm
28 มีค 57
   ซัดไปอีก 1 ชม น้ำหนักตีกลับขึ้นมา 300 กรัม ทั้งๆ ที่ไม่เห็นกินอะไรอ้วนๆ เลยแม้แต่น้อย ขนาดพ่อชวนกินข้าวเหนียวมะม่วงยังไม่กล้าเลย ไม่ได้กินแม้แต่คำเดียว
   โอ้ ทำไมถึงลดยากลดเย็นเช่นนี้ ทำให้ยิ่งรู้ซึ้งเลยว่า หากไม่พยายามตอนนี้ รอวันหน้าจะยิ่งยากกว่านี้อีก
   วิ่งไปก็คิดไปว่าจะเอายังไงต่อดีวะ ซัดมาใกล้จะ 3 เดือนแล้วนะนี่ ไม่เคยโหดขนาดนี้มาก่อน แรกๆ มีเจ็บขา เจ็บเข่า หลังๆ มานี้ไม่บ่นแล้ว มันหายเจ็บแล้ว น่าจะอยู่ตัวแล้วนะ ร่างกายผมดูแกร่งขึ้นนิหน่อย ไขมันที่ต้นขาหายไปเยอะ ไม่ค่อยมีเนื้อห้อยแกว่งๆ แล้ว แต่กล้ามท้องยังคลุมเครือ ฮ่าๆ คือต้องรีดไขมันอีกเยอะ
   เช้านี้กินแกงจืดเต้าหู้ ไข่เจียวใส่หอมใหญ่ ปลาสลิดทอด กระเทียมสด ข้าวกล้อง มือเช้าเป็นมื้อเดียวที่กินแบบเป็นเรื่องเป็นราว ที่เหลือตามยถากรรม ยิ่งถ้าต้องออกไปส่งของด้วยนี่ยิ่งแล้ว กินข้างถนนตลอด
   เช้านี้ไปส่งมิวเหมือนเดิม แต่มันเป็นวันสุดท้ายก่อนเขาสอบจริงในวันพรุ่งนี้ มิวบอกจะขอจัดเต็ม แต่ผมไม่อยากให้เขาเรียนเยอะมากไปนัก อยากให้กลับเร็วๆ มาพักผ่อน นอนนานๆ ให้เต็มอิ่ม
   ร้านขายของผมงานเยอะมาก ต้องเข้าออกโกดังหลายรอบ มีสินค้ามาลงบ่อย บางรายคนงานมาน้อยผมก็ช่วยเขายกแบกด้วย ช่วยจัดเรียงสินค้าไปด้วย ไม่เป็นไรหรอก ผมคิดบวกว่าได้ออกกำลังกาย
   เริ่มหิว กินกล้วยน้ำว้าไปรองท้อง 1 ผล อยู่ได้แค่แป๊บเดียวหิวอีกแล้ว มีลูกหยีเลยกินไปนิดหน่อย กลับมาบ้านเอาตอนบ่าย แอบหยิบกล้วยมาด้วย 1 ผล ขับรถแล้วหิน ก็จัดไปได้เลย
   วงโยฯ สตรีวิทยา 2 แม่งต้องเป็นมหากาพย์แน่ๆ ยิ่งสาว ยิ่งลึก ยิ่งเจอข้อมูลเน่าๆ ทั้งคนที่จะไปแข่งมีการเปิดรับพรีออเดอร์ซื้อของแบรนเนม ซื้อตั๋วเครื่องบินราคาแพงกว่าปกติเพราะไปลงเยอรมันก่อนแล้วค่อยวกกลับมาเนเธอร์แลนด์ทีหลัง คนก็สงสัยกันว่าทำแบบนั้นทำไม ฯลฯ โอ๊ย เพียบ เล่าไม่ไหว ไปหาเสิร์ชอ่านดูครับ
   ถึงบ้านก็หิวจัดอีกแล้ว ซดน้ำเต้าหู้ไปเกือบครึ่งลิตร ใส่เม็ดแมงลักไปด้วย จะได้ฟูๆ ในท้อง ฮ่าๆ
   จัดเตรียมเอกสารให้มิวเตรียมสอบวันพรุ่งนี้ ของจริงแล้วนะลูก เริ่มเรียนพิเศษตอน ป4 พอ ป5 ก็ค่อยๆ เพิ่ม มาจัดเต็มเอาตอน ป6 โชคดีมิวเป็นเด็กที่ชอบเรียนพิเศษ เขาบอกสนุกดี มีความสุขดี เลยไม่บ่นอะไร ในทางกลับกันผมยังต้องบอกให้เขาลดการเรียนลงหน่อย อยากให้มาเล่นกีฬา และดนตรีบ้าง
   ชอบเรียนพิเศษ แต่ผลการเรียนของเขาก็ไม่ได้เก่งเลิศกว่าใครเป็นพิเศษนะ สอบได้อยู่ในเกณฑ์กลางๆ เรียกว่าพอไปได้ แต่ถ้าจะตามหาฝันก็ต้องเก่งกว่านี้
   หากพรของพ่อแม่ศักดิ์สิทธิ์จริง พ่อขอให้มิวสอบเข้าโรงเรียนสวนกุหลาบให้ได้นะลูก ชีวิตลูกจะมีสอบใหญ่ๆ แค่ 2 ครั้งเท่านั้นในชีวิตนี้ และนี่คือครั้งแรก ส่วนครั้งที่สองก็คือการสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร ตอน ม4 (ถ้าลูกยังคงฝันแบบเดิมอยู่นะ)
   จงทำสอบในวันพรุ่งนี้ให้ได้เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการสอบอีก 3 ปีข้างหน้า
Title: Re: มีค 57 23 กินตามกรุ๊ปเลือด 25 Motor Show
Post by: O'Pern on April 01, 2014, 02:59:52 pm
29 มีค 57
   วิ่งต่อไป แต่ในใจมันตื่นเต้นแทนลูกเสียอีก ดูเด็กๆ เขาไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไรเลย มันเหมือนเป็นงานสอบของผู้ใหญ่ เพราะต้องหาข้อมูลว่าจะสอบที่ใดบ้าง แล้วก็ไปซื้อใบสมัคร ไปยื่นใบสมัครตามวันเวลาที่นัด พาไปสอบ ถ้าสอบติดก็โชคดีไป แต่ถ้าไม่ติดก็งานเข้า ต้องหาโรงเรียนอื่นเพื่อให้ลูกมีที่เรียนในอีก 2 เดือนข้างหน้า
   ซัดไป 1 ชม กลับมากินอาหารเช้าทรงคุณค่า อาบน้ำ แต่งตัว ออกจากบ้านเร็วกว่าปกติหน่อย จัดเตรียมดอกกุหลาบไปไหว้ศาลพ่อปู่สวนกุหลาบ หลวงพ่อสวนกุหลาบ และพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ที่ประดิษฐานอยู่ในโรงเรียน อยากไปเร็วๆ เพราะคนต้องมาไหว้กันเยอะแน่ๆ
   เดินไปถึงโรงเรียนก็เป็นไปตามคาดครับ คนเพียบ ม1 ทั่วประเทศสอบพร้อมกันในวันนี้ เพื่อไม่ให้พวกเด็กเก่งๆ ตระเวนสอบหลายแห่งแล้วก็ทิ้งโรงเรียนที่เกรดต่ำกว่าไป
   ยิ่งใกล้เวลา ยิ่งตื่นเต้น สอบ 5 วิชา คณิตศาสตร์ ภาษาไทย สังคม วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ วิชาละ 200 คะแนน รวมเป็น 1000 คะแนน หากได้คะแนนรวมเท่ากัน โรงเรียนจะพิจารณาจากคะแนนของวิชาคณิตศาสตร์ ไทย สังคม วิทยฯ อังกฤษ เป็นลำดับ
ผมว่ามิวอ่อนภาษาอังกฤษมากสุดนะ แต่แปลกตรงที่ตอนเรียนประถมเขาทำได้คะแนนดีหลายครั้ง
นั่งเป็นเพื่อนมิวรอส่งเขาเข้าห้องสอบ นั่งรวดเดียวเกือบ 3.30 ชม ต้องให้เขาเข้าห้องน้ำก่อนสอบ เข้าสอบ 0900-12.25 (มีพักเบรกตอน 11.00 แค่ 10 นาที ไม่รู้ครูจะให้เด็กลงมาเข้าห้องน้ำหรือเปล่า)
เด็กทยอยเข้าแถมหมดแล้ว เหลือผู้ปกครองนั่งกันหน้าสลอน ใครอยู่ใกล้ๆ กันก็มีคุยกันบ้าง บรรยากาศแบบขมุกขมัว แม่งเอ๊ย ลุ้นโคตรๆ เลยกู นั่งอยู่สักพักก็เดินกลับไปร้านขายของต่อ ไปช่วยงานที่โน่นดีกว่า นั่งอยู่นี่ก็มีแต่ลุ้นไปเรื่อยๆ
พอเดินถึงรถก็เจอตำรวจกำลังล็อคล้อเสร็จพอดี รีบวิ่งเข้าไปขอ แต่ก็รู้ๆ อยู่ เขาเขียนใบสั่งแล้ว ล็อคล้อแล้ว ก็เลยต้องเดินไปทางปากคลองตลาด ไป สน พระราชวัง เสียค่าปรับ
จ่ายค่าปรับเสร็จตำรวจก็วิทยุบอกให้เจ้าหน้าที่ปลดล็อคล้อได้ ผมขับรถกลับไปที่ทำงาน ไปช่วยงานที่ร้านขายของต่อ
  1130 เดินไปรับมิวที่โรงเรียน ไปก่อนเวลาเล็กน้อย นั่งชมโรงเรียนเก่าของเราแล้วมีความสุขดี มองไปมุมไหนก็คุ้นตาไปหมด โดยเฉพาะห้องสอบของมิวนี่มันคือตึกที่ผมเรียนอยู่ประจำเลย
ห่างหายไปเป็นสิบๆ ปี มีสระว่ายน้ำขนาดกลางๆ มาอยู่ข้างห้องเรียนแล้ว ด้านหน้าห้องเรียนก็จัดเป็นมุมนั่งเล่นทำด้วยไม้คล้ายพวกร้านกาแฟสมัยใหม่ ดูใช้ได้เลยครับ นั่งอยู่ตรงนีก็เจอ “พี่นก” แม่ของเพื่อนมิวที่พาลูกมาสอบ มาโดยไม่ได้นัดหมายกันนะ กลายเป็นว่าวันนี้มีเพื่อนมิวมาสอบถึง 6 คนแน่ะ
คนอื่นสอบกันเล่นๆ เพราะต่างมีที่เรียนกันแล้ว มีแค่มิวกับทัดสองคนที่มาสอบอย่างจริงจัง ถ้าไม่ติดนี่มีงานเข้าครั้งใหญ่
สักพักใหญ่เด็กๆ ทยอยกันออกมา ยิ้มหน้าระรื่นออกมากันเกือบทุกคน แต่ได้หรือไม่ได้นั้นอีกเรื่องนะ ส่วนธุระของวันนี้มันผ่านพ้นไปแล้วล่ะ ผมพามิวเดินกลับไปร้านขายของ แวะซื้อต้มเลือดหมูร้านประจำที่เขาชอบมาก แถมมิวใช้ให้ผมช่วยไปซื้อชาดำเย็นใส่มะนาวให้เขาอีกด้วย
บ่ายไปเรียนคุมองต่อที่เดอะมอลล์ท่าพระ ตอนมิวมาห้างนี่แหละที่ผมจะได้ยืนอ่านหนังสือในร้านอย่างเป็นทางการ อ่านไปก็คิดถึงหนังสือที่เราคิดอยากทำออกมาขายไปด้วยเหมือนกัน ถ้าทำออกมาแล้วมันจะขายได้ไหมนะ จะเจ๊งอีกไหมนะ เริ่มกลัวแล้วไง คนมันเคยเจ็บ
อายุมากขึ้น ไฟมันไม่แรงเหมือนตอนหนุ่มสาว แต่ที่มีมากขึ้นคือความใจเย็น รอบคอบ ถ้าดูอีกมุมอาจคิดว่าใจมันฝ่อไปแล้วก็เป็นได้นะ ทุกวันนี้ผมก็ยังงงงงกับตัวเองอยู่เหมือนกัน บางวันเหมือนจะไฟแรง แต่บางวันแม่งเอ๊ยย อยู่แบบหายใจทิ้งไปวันวัน    หิวจัด ไปหาของกินในฟู๊ดเซนเตอร์ แล้วก็เจอปัญหาเดิมๆ คือ หาที่นั่งไม่ได้ คนกินเสร็จแล้วไม่ยอมลุกไง นั่งคุยกัน นั่งเล่นเกม นั่งกดมือถือ บางโต๊ะว่างอยู่ พอเดินไปใกล้ๆ เขาใช้กระเป๋ามาวางจองไว้ เดินรอบๆ วนๆ อยู่พักหนึ่งถึงได้นั่งกิน เฮ้อออ
เข้าซูปเปอร์อีกแล้ว วันนี้ให้รางวัลตัวเองหน่อย ข้อหาลดน้ำหนักลงมาได้ในเกณฑ์น่าพอใจแล้ว จึงซื้อถั่วมาหลายถุงเลย เพราะเขาลดราคา อ้าว ลูกพี่ ไหนว่าจะลองงดถั่วไง
กลับเข้ามาบ้านตอนเย็น แอบแกะถั่วที่ไม่ค่อยได้กินเอามาชิม เฮ๊ยย อร่อยว่ะ แล้วก็ซัดไปเกือบหมดถุง หึหึ เอาอีกแล้วๆ ๆ
มิวกลับมารีบเปิดหนังดูอย่างสบายอารมณ์ จัดไปครับ จัดให้เต็ม ดูให้หายอยากไปเลย ท่านได้สิทธินั้นเดี๋ยวนี้
Title: Re: มีค 57 23 กินตามกรุ๊ปเลือด 25 Motor Show
Post by: O'Pern on April 01, 2014, 03:06:26 pm
30 มีค 57
   นอนหลับสบายละ มิวสอบเสร็จแล้ว จะได้ไม่ได้ก็เหลือแค่รอลุ้น ตื่น 0430 ออกไปวิ่งแต่เช้ากว่าเดิมอีก ทำโทษตัวเอง เมื่อวานเย็นกินถั่วไปหลายขนาน เล่นถั่วสารพัดชนิดทั้ง เฮเซล แมคคาเดเมีย พีแคน พิสตาชิโอ มะม่วงหิมพานต์ ถั่วลิสง แถมมีลูกเกดปนอีก
   วิ่งไป 1.15 ชม สบายตัวดีนะ ไม่มีเจ็บข้อ เจ็บหน้าแข้ง ปวด เมื่อยใดๆ อีกแล้ว แถมถ้าวอร์มอัพแบบช้าๆ จะสามารถวิ่งได้ทนนานมาก เคยซัดแบบ 3 ชม ไม่พัก ขายังโอเคดีอยู่ แต่วิ่งต่อเนื่องนานแบบนั้นมันเหนื่อยเพราะตากแดดเสียมากกว่าครับ เหงื่อไหลแบบแตกพรากๆ มองแขนตัวเองเห็นเม็ดเหงื่อค่อยๆ ผุดขึ้นมาเป็นเม็ดแล้วไหลทิ้ง โหห สุดมากจริงๆ
   เดิน Cool Down ให้ตัวคลายความร้อนออก ให้เหงื่อระบายทิ้งไป สักพักค่อยไปอาบน้ำ สระผม เตรียมตัวให้พร้อม วันนี้ไม่รู้ที่บ้านเขาจะไปไหนกันบ้าง จะได้ช่วยขับรถให้ มิวสอบเสร็จเรียบร้อยแล้วนี่นา
   มิวลงมาจากบ้าน บอกว่าอยากไปเรียนพิเศษ
   เฮ้ยย สอบเสร็จแล้วนี่นา ต้องไปเรียนอีกหรอ มิวบอกเขาชอบเรียนมาก สนุกดี เลยสมัครเองไปเรียบร้อยแล้ว แถมสมัครไปอีกหลายคอร์สเลย
   อึ้งแดกเลยครับ ไม่อยากเที่ยวเล่นแบบเด็กๆ คนอื่นบ้างหรือนี่
   งงเลย ลูกบอกอยากเรียนพิเศษ แถมชอบมาก ถามว่าชอบเพราะอะไร เขาบอกว่าครูสอนสนุกดี ดันไปเจอเอาครูที่สอนอยู่สวนกุหลาบเข้าให้อีกด้วย ก็เลยคุยกันใหญ่ ครูก็อวยพรขอให้สอบติด จะได้ไปเจอกันในนั้นอีก
   เอ้า จัดไปครับ “ถ้าลูกอยากได้ ต้องได้เรียน” นี่คือกฎของผม อยากเรียนอะไร แพงขนาดไหน ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็จะหาเงินมาส่งให้
   บอกแล้วไง อะไรที่ผมขาดไป มันจะต้องไม่เกิดขึ้นกับเขา
   ภรรยาอาสาไปส่งลูก ผมก็เลยอาสาขับรถให้พ่อแม่แทน เช้านี้แม่อยากไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง จัดไปครับ กินก๋วยเตี๋ยวต้มยำร้านเดิม ขากลับซื้อของกลับมาเพียบ ผมเอาสลัดแขกกลับมา 1 ชุด เอาไว้กินกลางวัน ก่อนเข้าบ้านจอดแวะให้พ่อแม่ไปเลือกตั้ง
   กลางวันผมไปเลือกตั้งที่โรงเรียนสวนกุหลาบ เฮ้ย ไม่น่าเชื่อ คูหาเลือกตั้งมันคือห้องสอบของมิวเมื่อวานนี้ ห้องเดียวกันเลย วันนี้ที่โรงเรียนมีสอบของ ม4 สำหรับเด็กในสาขาวิชาภาษาจีนและฝรั่งเศส คนเลยไม่เยอะมากเท่าไหร่ จอดรถหน้าโรงเรียนได้เลย ไม่โดนใบสั่ง
   พาพ่อแม่ไปดิโอล์สยามต่อ ซื้อของกินเล็กๆ น้อยๆ เอาไปฝากญาติผู้ใหญ่ ขากลับออกมาเจอค่าจอดไป 55 บาท ชั่วโมงละ 25 แต่เสือกมีค่าแรกเข้าอีก 30
   โหห สุดยอดไปเลย นี่เข้าไปแค่ไม่ถึง 30 นาทีเลยน่ะ เสียดายเงินว่ะ แต่ไม่เป็นไร คงไม่ขับรถมาอีกแล้วล่ะนะ
   กลับมาบ้านก็หิวเลย จัดสลัดแขกไป 1 ชุด ตามด้วยถั่วอีกถุง (ว่าจะเลิก แต่เมื่อวานลืมตัวซื้อมาอีกล็อตเพราะเห็นมันเซล ฮ่าๆ ) อิ่มเสร็จก็ง่วง เปิดแอร์นั่งทำงาน อ่านข่าว อ่านเวป
   เดินไปเดินมา หิว หึหึ เจอขนมปังกระเทียมอบกรอบที่ซื้อมาจากดิโอล์สยาม เลยลองซะ อืมม รสชาติกลางๆ ครับ กรอบดี แต่ไม่หอมขนมปัง ไม่หอมเนยกระเทียม สรุปได้ว่ามันเป็นของที่ไม่สดใหม่ เก็บไว้หลายวันแล้ว โมโหว่ะ แดกแม่งให้หมดเลย !!!
   กินแตงโมตามเข้าไปอีกเกือบสิบชิ้น พอละ หลังจากนี้ไม่กินอะไรอีกแล้วจนถึงพรุ่งนี้เช้า
Title: Re: มีค 57 23 กินตามกรุ๊ปเลือด 25 Motor Show
Post by: O'Pern on April 01, 2014, 03:11:19 pm
31 มีค 57
   ไถ่โทษ เมื่อวานกินเยอะช่วงเย็น ออกวิ่งเหมือนเดิม วิ่งแม่งไปเรื่อยๆ วันไหนเบื่อก็คิดถึงคนที่เขาเดินไม่ได้ คนที่เขาอยากวิ่งแต่วิ่งไม่ไหว เช้านี้จัดไปอีก 50 นาที ได้ไม่เต็มชั่วโมง เมื่อคืนนอนน้อย มิวดูทีวีหนังสืบสวนฆาตกรรมก่อนนอนแล้วบอกฝันร้าย ปลุกผมมานั่งคุยสองรอบกลางดึก
   แม้มิวจะผ่านพ้นวันสอบไปแล้ว แต่ถ้ายังไม่ประกาศผล ผมก็ยังไม่มีวันสบายใจไปได้ ทางโรงเรียนจะประกาศผลสอบวันที่ 2 เมษายน แต่เราทำอะไรไม่ได้แล้ว นอกจากนั่งลุ้น ได้แต่หวังว่ามิวน่าจะทำข้อสอบได้ ไม่ต้องเก่งก็ได้ ขอแค่ให้เข้าเรียนได้ก็ดีใจตายแล้ว
   อีก 2 วันครับ ขอให้มิวสอบเข้าได้ด้วยถิดนะ
   เช้านี้กินอาหารคลาสสิค กระเพราไก่ ไข่ดาว แต่กระเพรานี่ใส่เห็ดด้วย มีแครอทลวก กระเทียมสดแกล้ม กินกับข้าวกล้องเหมือนเดิม เสร็จแล้วก็ไปส่งมิวเหมือนเดิม สอบเสร็จแล้วแต่ยังคงชอบเรียนพิเศษอยู่ แจ๋วจริงๆ เล้ยยย ถ้ามีถ้วยรางวัลจากสถาบันใดมองให้ มิวคงไม่พลาดตำแหน่งนั้นแน่
   นึกว่าสอบเสร็จแล้วจะหยุดเรียนนะนี่ ผมวางแผนไว้หลายอย่างเลย กลายเป็นต้องเปลี่ยนแผน
   น้ำหนักผมวิ่งขึ้นลงอยู่ประมาณนี้มานานสักพัก เริ่มวิ่งแล้วมันไม่ลงแล้ว วิ่งไป คิดไป ผมว่าต้นเหตุน่าจะมาจากถั่วที่กินนี่แหละ แต่อีกใจก็แย้ง เอ็งกินถั่วมาตลอดนะ ไม่ได้เพิ่งมากินเอาช่วงนี้
   นั่งหาข้อสรุปเอาเองว่าคงต้องเปลี่ยนรูปแบบการออกกำลังกาย วิ่งน่ะดีอยู่แล้ว แต่ต้องเข้มงวดกับอาหารมากขึ้น ต้องกายบริหารอย่างอื่นเติมด้วย ไม่งั้นอย่าหวังจะมีกล้ามท้อง
   ต้องคิดหารูปแบบการออกกำลังกายใหม่ๆ ผมไม่ชอบเข้าฟิตเนส อยู่บ้านก็วิดพื้น ซิทอัพ ทำท่า Plank บ้าง (ทำเหมือนวิดพื้น แต่แค่ค้างไว้) คิดหาท่าใหม่ๆ มาออกกำลังกายก็สนุกดีนะ โดยรวมแล้วเหนื่อยดีครับ
   นึกสนุก แวะไปคอนโดดีกว่า ไปว่ายน้ำดูบ้าง แต่กว่าสระจะร่มก็ตอน 0300 ก่อนหน้านั้นก็ล้างระเบียง ทำความสะอาดห้องไปเรื่อยๆ รอเวลา
   ไปว่ายได้แค่ 30 นาทีเท่านั้นเอง ว่ายแล้วรู้สึกเวียนหัว หรือเราหายใจไม่ทันนะ ว่ายไปได้ไม่เท่าไหร่เอง แตะขอบสระก็พักหน่อยหนึ่งแล้วว่ายต่อ ไม่ได้โหมเร่งอะไรเลย ทำไมเวียนหัวจัง หรือเพราะเราไม่ได้กินอะไรมา กินแค่กล้วยมาตอนใกล้เที่ยงแค่นั้นเอง และนี่ก็หลายชั่วโมงมาแล้ว
   ทนว่ายไปสักพัก รู้สึกไม่ค่อยสนุกแล้ว ยิ่งเวียนหัว ยิ่งมึน มองท้องฟ้าเหมือนโลกหมุน ขึ้นห้องพักดีกว่า
   แดดร้อนนะ แต่ที่คอนโดกลับลมแรงมาก นั่งสบายเลย ไม่ต้องเปิดแอร์ ผมชอบห้องตำแหน่งนี้ที่สุดแล้ว อยู่สบายดีจริงๆ เป็นห้องหัวมุม มีระเบียงเปิดสองด้าน ลมเลยผ่านสะดวก ข้อเสียก็มีนะ คือส่วนใหญ่ลมจะแรงจัด พัดจนจอคอมฯโยกกระพือๆ ทำงานไม่ได้เลย โคมไฟก็แกว่งไปมา ข้าวของที่วางไม่เรียบร้อยเช่นพวกกระดาษรับรองปลิวออกหน้าต่างหายไปเลย ขนาดถุงเท้าวางไว้กับพื้น ยังปลิวหายเลย
   ลมแรงมาก พักเดียวชุดว่ายน้ำก็แห้งสนิทแล้ว พับจัดเก็บเข้าที่แล้วถึงค่อยกลับบ้าน หิวโฮกๆ เลย ถึงบ้านก็ซดน้ำเต้าหู้รวดเดียวเกือบ 1 ลิตร อิ่มเลย แต่อีกพักเดียวเท่านั้นแหละ แม่บ้านจัดโต๊ะอาหารเย็น ผมเห็นเส้นหมีผัดผักกระเฉด เลยขอร่วมวงด้วย ไม่ได้กินเพราะหิวนะ แต่กินเพราะอยากกินผัก อยากได้สารอาหาร
   กินเสร็จอาบน้ำ ออกกำลังกายในห้องนอน เน้นท่าบริหารกล้ามท้อง ไม่น่าเชื่อ อีกแป๊บเดียว อยากกินขนมเฉยเลย เฮ้ย มาอารมณ์ไหนวะ หยิบกินขนมปังกระเทียมไป 1 ชิ้น ถั่วทอด 1 ชิ้น อืมม จะอ้วนไหมวะนี่