นมแคลเซียมสูง...จะจ่ายแพงๆซื้อไปเพื่ออะไร !!
"นมแคลเซียมสูง" กำลังเป็นที่นิยมมาก
โดยเฉพาะในวัยผู้สูงอายุและมีราคาแพงกว่า "นมแบบปกติ"
จึงเป็นที่มาของคำถามว่าเราจำเป็นต้องจ่ายแพงเพื่อซื้อ "นมแคลเซียมสูง"
จริงหรือ? พบ"ความจริง"ของการตลาด"นมแคลเซียมสูง" ได้ที่นี่
นมวัวเป็นแหล่งแคลเซียมที่สำคัญ เพราะในนมสด 1 แก้ว (200 มิลลิลิตร)
จะมีแคลเซียม 240 มิลลิกรัม ซึ่งนับว่าเป็นสัดส่วนที่สูง
จึงมีคำถามที่ควรหาคำตอบว่า
...เหตุใดยังต้องมีนมแคลเซียมสูงออกมาวางขายอีก ?!?
ในปัจจุบันจะสังเกตได้ว่า
บรรจุภัณฑ์ของนมแคลเซียมสูงมีลักษณะดึงดูดผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย
ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าการสื่อสารประชาสัมพันธ์ได้ผลดี
แม้แต่นมถั่วเหลือง ที่ถูกโจมตีว่าแคลเซียมต่ำ
ก็หันมาเติมแคลเซียมเพื่อลดจุดอ่อนของผลิตภัณฑ์
เพื่อเพิ่มความสามารถการแข่งขันในตลาด ตอนนี้จึงกลายเป็นว่าเอะอะอะไร
ก็ต้อง "แคลเซียมสูง" ไว้ก่อน แต่จะมีสักกี่คนที่เข้าใจจริงๆ ว่า
การที่นมมีแคลเซียมสูงนั้น ไม่สำคัญเท่ากับการที่
"ร่างกายดูดซึมนำไปใช้ประโยชน์"
จากการสำรวจซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่ง
เราได้เลือกหยิบนมพร้อมดื่มและนมถั่วเหลืองพร้อมดื่ม แบ่งเป็นนมโค 3
ยี่ห้อ ได้แก่ แอนลีน นูต้าแม็กซ์ ฟาร์มโชคชัย และโฟรโมสต์ แคลซีแม็กซ์,
นมถั่วเหลือง 4 ยี่ห้อ ได้แก่ แลคตาซอย ดีน่า ไวตามิลค์ และวีซอย
ซึ่งล้วนอ้างว่ามี "แคลเซียมสูง" มาทดสอบหาปริมาณแคลเซียม
จากการทดสอบ พบว่า...
- นมโค ยี่ห้อ แอนลีนและโฟรโมสต์ แคลซีแม็กซ์
มีปริมาณแคลเซียมสูงกว่านมธรรมดาจริง ขณะที่ยี่ห้อนูต้าแม็กซ์
ฟาร์มโชคชัย มีปริมาณแคลเซียมน้อยกว่านมโคธรรมดา
- ส่วนถั่วเหลืองนั้น มีทั้งแบบที่มีแคลเซียม "ต่ำกว่า" "สูงกว่า" และ
"ใกล้เคียง" กับนมโคธรรมดา ทั้งนี้ ยี่ห้อวีซอย สูตรน้ำตาลน้อย
มีแคลเซียมมากที่สุด ที่ 173 มก./100 มล.
ส่วนแลคตาซอยมีแคลเซียมน้อยที่สุด ที่ 66 มก./100 มล.
- ปริมาณแคลเซียมส่วนใหญ่มีความใกล้เคียงกับฉลากโภชนาการที่ระบุไว้ข้างกล่อง
ยกเว้น ยี่ห้อนูต้าแม็กซ์ ฟาร์มโชคชัย ทั้ง 2 สูตร
ที่มีปริมาณแคลเซียมที่แท้จริงน้อยกว่าปริมาณที่ระบุในฉลากค่อนข้างมาก
ส่วนนมถั่วเหลืองที่มีแคลเซียมน้อยกว่าที่ฉลากระบุ คือ ดีน่า
สูตรผสมน้ำแครอท และวีซอย สูตรไม่มีน้ำตาล
แคลเซียมสูง...ไม่สำคัญเท่าการดูดซึม
จากการสอบถาม ผศ.ดร.สมศรี เจริญเกียรติกุล รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย
สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ทราบว่า
การดื่มนมหรือนมถั่วเหลืองแคลเซียมสูงไม่มีดีไปกว่าการดื่มนมธรรมดา
เพราะแม้นมจะมีปริมาณแคลเซียมสูงกว่าจริง
แต่ร่างกายของเราจะไม่สามารถดูดซึมแคลเซียมไปใช้ได้ทั้งหมด
สืบเนื่องจากกระบวนการดูดซึมแคลเซียมของร่างกาย
ซึ่งหากบริโภคแคลเซียมปริมาณมากในครั้งเดียว ร่างกายจะดูดซึมน้อย
แต่หากทยอยบริโภคทีละนิด ร่างกายจะดูดซึมได้มากขึ้น
นอกจากนี้ กระบวนการดูดซึมแคลเซียมยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ด้วย เช่น
การดื่มนมขณะท้องว่าง
ซึ่งร่างกายจะดูดนำไปใช้ได้น้อยกว่าตอนที่ท้องไม่ว่าง
รวมทั้งแคลเซียมไม่ได้มีแค่ในนมเท่านั้น อาหารประเภทอื่นๆ
ก็มีแคลเซียมเช่นกัน เช่น เต้าหู้แข็ง ถั่ว งา ปลาเล็กปลาน้อย ปลากรอบ
ปลาป่น กะปิด กุ้งแห้ง ผักคะน้า และผักกวางตุ้ง
ความจริงเกี่ยวกับ "แคลเซียม" และความคลุมเครือในโฆษณา
- การระบุแคลเซียม-10 ที่มีขนาดเล็กกว่าแคลเซียมธรรมดา 10 เท่า
ซึ่งเรามักเข้าใจว่าจะสามารถดูดซึมเข้าร่างกายได้ดีกว่านั้น
ความจริงแล้วการดูดซึมของร่างกายจะเป็นไปตามกระบวนการที่ระบุไว้ข้างต้น
นอกจากนี้ ความจริงแล้วขนาดของแคลเซียมมีเพียงขนาดเดียวเท่านั้น!!
- การที่ระบุว่า การบริโภคนมแคลเซียมสูงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ
แต่ต้องบริโภค "วิตามิน เค" ให้สูงตามไปด้วย โดยอ้างว่าวิตามิน เค
อาจมีส่วนช่วยในการป้องกันการสลายตัวของแคลเซียมนั้น
ความจริงแล้วร่างกายเราสามารถผลิตวิตามิน เค ได้เอง
โดยไม่จำเป็นต้องบริโภคจากภายนอก
- การที่ระบุว่า นมแคลเซียม 1 กล่องมีปริมาณแคลเซียมสูงกว่าปกติ 4
เท่านั้น เป็นความจริง แต่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ
เพราะประเด็นสำคัญคือเรื่องการดูดซึมเข้าร่างกาย
- การที่ระบุว่า มีการผสม "โอลิโก ฟรุกโตส" ในนมแคลเซียมสูง
โดยอ้างว่า"โอลิโก ฟรุกโตส"อาจช่วยเรื่องการดูดซึมแคลเซียมนั้น
ความจริงจากการวิจัยพบว่าเรื่องนี้ยังไม่มีความชัดเจน
และจำเป็นต้องได้รับการวิจัยต่อไปอีกมาก
-------------------------------------------
ที่มา นิตยสาร ′ฉลาดซื้อ′ ฉบับที่ 90 โดย กองบรรณาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
ขอบคุณ : มติชนออนไลน์
Fw mail