21 มค 53
เช้านี้ออกปั่นเบาๆ ราว 30 นาที วันนี้รู้สึกร้อนอย่างเห็นได้ชัด ไอคลื่นความเย็นเริ่มมลายหายไป ลมที่เคยพัดเย็นสบายก็ลดน้อยลงมาก กลายเป็นไอความร้อนแทน
ผมเจ็บหั้วเข่าครับ เกิดจากการยกของ อาทิตย์ก่อนหลังเจ็บ การยกของก็เลยต้องใช้ย่อตัวลุกขึ้นยืนตรงๆ ก็รู้ดีนะ ก็ทำอยู่ แต่คงจะย่อบ่อยไปหน่อย กลายเป็นมาเจ็บเข่าเพิ่ม ส่วนหลังนั้นค่อยยังชั่วขึ้นเยอะแล้ว
ไม่รู้เกี่ยวกับดวงชะตาไหมนะ ปีนี้เขาว่าปีวอกเป็นปีชง ผมเกิดปีวอกเสียด้วย ธรรมดาไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ แต่เข้าปีนี้แค่ไม่ถึงเดือน ผมทั้งเจ็บหลัง เจ็บเข่า ยังไม่รู้ว่าจะมีเรื่องร้ายๆ อะไรตามมาอีกหรือไม่ เพราะวันก่อนขณะขี่รถ JZ88 ล้อก็แฉลบแผ่นกระเบื้องบนฟุตบาทเกือบล้ม ล้อหน้าไถลเสียการทรงตัว ทั้งๆ ที่เรื่องพวกนี้ไม่เคยเกิดกับผมมาก่อนเลย
จะอย่างไรก็แล้วแต่ครับ จะชงหรือไม่ชง เราก็ต้องระมัดระวังตัวทุกขณะอยู่แล้ว ทั้งสุขภาพร่างกาย และสภาพจิตใจ จะมารอโชคชะตาบันดาลอย่างเดียวเห็นจะยาก ต้องเพิ่มความอุตสาหะของเราเข้าไปด้วย
คอนโดที่ผมอยู่เขามีเวปบอร์ดเอาไว้คุยกันด้วยนะ ผมก็ไปแจมกับเขาบ้าง แต่ไม่ได้โพสอะไรเยอะนัก ไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่ จนกระทั่งมาเจอกระทู้เกี่ยวกับจักรยานนี่แหละ มีคนเขาบอกว่าอยากได้ที่จอดจักรยาน ผมเลยเข้าไปช่วยเสริม อันที่จริงแล้วผมรู้สึกเฉยๆ กับที่จอด เพราะหากเป็นคนเล่นรถจริงๆ เขาจะใช้จอดในห้องแทน นอกจากจะเป็นรถเกรดใช้งานนั่นแหละ ถึงจะกล้าจอดในที่จอด แถมยังต้องล็อคอย่างดิบดี รถถูกๆ ใช่ว่าจะไม่หาย ไม่ว่าประเทศใดในโลก จะให้เจริญสุดยอดอย่างญี่ปุ่น เกาหลี หรือฝรั่งอย่าง นอร์เวย์ สวีเดน เนเธอร์แลนด์ หากจอดรถโดยไม่ล็อค หายเกลี้ยงครับ ผมยืนยัน
หากผมใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดหลังนี้ ผมมองไปที่รถแบบ Mini เพราะผมไม่ค่อยได้พับมันเท่าไหร่ ห้องพักผมกว้างพอที่จะวางรถแบบ Mini ได้ และในกรณีที่ผม
ต้องการใช้รถพับเพื่อไปข้างนอก ผมก็ยังมีเจ้า KHS F20-W อีกคัน ในกรณีสุดๆ ผมยังเหลือเจ้า JZ88 อีกคัน
แต่ Mini ที่ผมมองคือรถแบบ Fixed Gear ซึ่งผมยังไม่เคยเห็น รถ Mini ในท้องตลาดที่ผมว่าดูดีสุดในขณะนี้คือรถของ Chevy ผมชอบเฟรมของเขามาก ออกแบบได้เก่าสะใจดี เฟรมท่อนบนขนานกับพื้น คุ้นๆ ว่าราคาไม่ถึงหมื่น แต่รถเขาเป็นแบบ 8 หรือ 9 Speed นี่แหละ ครั้นจะให้ถอดชุดเกียร์ออกก็ใช่ที่ แหม ก็ของมันยังดีอยู่เลย ยังใหม่อยู่มาก จะให้หารถมือ 2 ก็ทำใจไม่ได้กับราคา และยังต้องมาบูรณะกันอีกยกชุด รวมถึงการอัปเกรดมันให้เป็นรถแบบ Fixed Gear ผมว่าต้องลงอีกหลายพันแน่ๆ
เอาเข้าจริงคงได้ Mini ธรรมดานี่แหละครับ ฮ่าๆ จะเป็น Chevy หรือ Java ก็่ค่อยว่ากัน รถของ Java ก็เข้าท่าดูดีเลยล่ะ ให้เบรกแบบดิสค์มาเสียด้วย ติดที่เฟรมมันดูไม่เก่าเก๋าเหมือนของ Chevy (แต่คนอีกมากบอกว่าเฟรมของ java สวยกว่า)
มี pm มาจากเวปจักรยานอีกแล้ว คนนี้มาแรง ใช้ Dahon P8 แต่อยากตัดท่อคอให้เตี้ยลง 1 นิ้ว ผมเลยต้องรีบตอบไปว่า ช้าก่อนๆๆ อย่าไปตัดมัน เพราะตัดแล้วก็ต้องต่อ ไม่ใช่เหมือนแฮนด์ที่ตัดแล้วตัดเลย แถมตัดไปแล้วตอนพับมือเบรกมันจะไปชนกับ Chain Stay จะกลายเป็นพับไม่ได้เอาน่ะสิ กลัวจะยิ่งทำยิ่งเละ สุดท้ายต้องหาซื้อท่อคอของเดิมมาใส่กลับ
คุยแล้วนึกถึงพวกทำรถยนต์ที่มีไอเดียหลากหลาย แต่ทำโดยช่างลูกทุ่งที่มี
สโลแกนว่า ยาวตัด สั้นต่อ ไม่พอซื้อใหม่ เขาทำกันอย่างนี้จริงๆ ครับ เล่นกันจนเจ้าของรถจนไปเลยก็มี แถมรถยังวิ่งไม่ดีอีกด้วย
สรุปง่ายๆ คือเสียเงินเปล่า
ตกเย็นพาลูกไปทำฟันที่ตึกชาญอิสสระ สุรวงศ์ ต้องรีบขับรถไปอย่างเร็ว กลัวรถจะติด เพราะเขาปิดซ่อมสะพานลอยข้ามแยกละแวกนั้น อัดอย่างเร็วจี๋ ใช้เวลาจากบ้านไปถึงร้านหมอฟันแค่ 30 นาที
ผมเองก็นัดหมอฟันทำวันนี้เช่นกันครับ แล้ววันนี้ก็โชคดี ฟันไม่มีปัญหาอะไร หมอแค่ตรวจแล้วขูดหินปูน แล้วก็นัดอีก 6 เดือนข้างหน้า ส่วนลูกเขามีฟันแท้ขึ้นมา 6 ซี่ หมอเลยเคลือบพลาสติคให้ และนัดอีก 6 เดือนเช่นกัน
ร้านหมอฟันที่ผมทำนี้เก่าแก่มากครับ ชื่อร้าน สมภพ-อัมพุช คลีนิค ผมทำกับหมอตั้งแต่ผมอายุสิบกว่าขวบ ทำตั้งแต่หมอยังสาวสวย จนตอนนี้หมอมีลูกเรียนจบทำงานกันหมดแล้ว ผมเองก็มีลูก และให้ลูกมาทำฟันที่เดียวกับผมนี่แหละ ชอบเพราะเขาทำฟันได้ดีมากๆ ดูแลฟันเราอย่างสมบูรณ์แบบ
ร้านนี้ทำฟันให้เชื้อพระวงค์ด้วยครับ หากเจ้าฟ้าชายท่านมา หรือพระองค์ที หรือพระองค์อื่น ก็จะปิดร้านบริการท่านพระองค์เดียว
แต่ถ้าเป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หมอจะถวายการรักษาถึงในวังครับ
22 มค 53
เช้านี้เริ่มร้อนอย่างเห็นได้ชัด ฤดูหนาวคงจะหมดสิ้นไปแล้ว อยากให้ผมคิดผิดจัง ผมว่าใครๆ ก็ชอบฤดูหนาวนะ ยกเว้นคนยากจนบนดอย
ออกปั่นจักรยานไป 1 ชม หัวเข่าที่เจ็บเริ่มดีขึ้น หลังก็ดีขึ้น ทำไมมันต้องมาเจ็บอะไรพร้อมๆ กันด้วยก็ไม่รู้ หรือว่าเป็นปีชง
ผมอ่านดวงชะตา เขาว่าคนเกิดปีวอก ต้องไปไหว้พระธาตุพนม จังหวัดนครพนม หลายปีก่อนคนเกิดปีขาลเป็นปีชง พ่อและแม่ผมเกิดปีขาล เขาว่าต้องไปไหว้พระธาตุช่อแฮ จังหวัดแพร่ งานนั้นผมเป็นคนขับรถให้ ซัดคนเดียวจนถึงแพร่ ขับรถพ่อไปครับ รถมันขับสบาย นั่งสบาย ขับสนุก เครื่องแรง เลยสะใจ
เอ๊ะ ปีนี้ปีของผมเป็นปีชง น่าจะอ้างหาเรื่องขี่จักรยานเที่ยวเล่นนะครับนี่ ปั่นจักรยานไปไห้วพระธาตุพนมน่าจะเท่สุดยอดไปเลย
ไอเดียมันแว่บเข้ามาเล่นๆ แต่คิดแล้วน่าทำจริงครับ อายุเริ่มมากขึ้นก็เริ่มจะอ้างอิงดวงชะตาบ้าง ฮวงจุ้ยบ้าง ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนนี้ไม่เห็นจะสนใจอะไรสักนิด
ยิ่งตอนมีห้องคอนโด หรือทำงานพวกออกแบบบ้านนี่ยิ่งต้องสนใจครับ เพราะแม้เราจะไม่ถือ แต่ลูกค้าเขาถือ เขาไม่ชอบเสียอย่าง มันก็ปิดงานไม่ได้ เพราะงานที่สมบูรณ์คืองานที่ลูกค้าพอใจ
แต่ผมไม่ได้เคร่งอะไรนักนะครับ เอาแค่เฉพาะที่มันอิงกับหลักวิทยาศาสตร์ได้ เช่นหัวเตียงไม่ควรมีชั้นวางของ ประตูไม่ตรงแนวเดียวกับเตียงนอน อะไรทำนองนี้แหละ
ว่างๆ ก็ลองศึกษาศาสตร์เรื่องพวกนี้ของญี่ปุ่นเขาด้วย ส่วนใหญ่เขาจะอยู่ในห้องชุดเหมือนพวกคอนโดกัน ก็พบว่าเขามีแนวคิดที่ละเอียดอ่อนมาก เริ่มกันตั้งแต่ประตูและโถงทางเดินเข้าห้องกันเลย ลักษณะของห้องก็เหมือนกับคอนโดเรานี่แหละครับ
กลางวันไปทำธุระที่ธนาคารกสิกรไทย เห็นเขามีโฆษณาทำบัตร ATM แบบพร้อมรับประกันภัยของกสิกรไทย คือนอกจากจะใช้งานแบบ ATM ตามปกติแล้ว ยังเหมือนได้มีประภัยอุบัติเหตุแถมมาให้อีกด้วย (อันที่จริงไม่ได้เรียกแถมหรอกนะ เพราะต้องเสี่ยค่ารายปี ปีละ 500 บาท เสมือนเป็นการซื้อประกัน)
ผมมีประกันภัยส่วนตัวอยู่แล้ว แต่ไม่เคยได้ใช้บริการอะไรกับเขาหรอก ก็ถือว่าดีที่เราไม่เจ็บอะไร แต่กับของกสิกรนี้ผมสนใจ เพราะมันเบิกจ่ายได้สะดวกมาก ดูในรายละเอียดก็พบว่ามีโรงพยาบาลที่ทางบ้านผมใช้บริการประจำเข้าร่วมโครงการด้วย
เราไม่ได้จ่ายเงินอะไรเลย แค่ยื่นแสดงบัตร และเซ็นชื่อรับทราบเท่านั้นเอง อืมม แบบนี้ผมว่าสะดวกดีนะ ยิ่งถ้าขี่จักรยานผาดโผนเล่น BMX เหมือนตอนหนุ่มๆ ผมว่าต้องได้ใช้บริการกันแทบทุกวันเป็นแน่ จำได้ว่าเจ็บตัวบ่อยเหลือเกิน ที่คลาสสิคและโดนกันทุกคนคือบันไดตีหน้าแข้ง โถ คุณ แค่เล่าย้อนหลัง ผมยังนึกเสียวหน้าแข้งตัวเองเลย
วันนี้มี pm จากพี่เจี๊ยบมาถึงผม พีมักจะส่งเรื่องราวต่างๆ มาให้ผมอ่าน ผมมักไม่ค่อยได้ตอบกลับ นอกจากเสียว่าจะเป็นความเห็นที่ผมขัดแย้ง เนื้อหาเป็นบทความคัดลอกจากนิตยสาร ลองอ่านกันดูครับ ผมว่าน่าสนใจ เลยก๊อปมาให้อ่านกันซ้ำ
วันนี้อ่าน Secret
คุณดู๋ สัญญา คุณากร เล่าว่า
" ใช่ เพราะทุกอย่างสอนเราเสมอ แต่ก่อนผมปั่นจักรยานไปทำงานที่เจเอสแลซึ่งอยู่ที่ลาดพร้าว 107 บ้านผมอยู่สุขุมวิท 49 ปั่นไป 16.5 กิโลเมตร สมัยนั้นปั่นจักรยานด้วยความรู้สึกดี เพราะไม่ต้องใช้น้ำมัน ประหยัดพื้นที่ พอย้ายบ้านมาอยู่แจ้งวัฒนะ ก็ปั่นจากแจ้งวัฒนะไปเจเอสแอลอีก คราวนี้ 27.5 กิโลเมตร ขากลับ โอ้โฮ...มืดแล้วยังไม่ถึงบ้าน แต่ก็มีความสุข
ที่บอกว่าทุกอย่างสอนเราคือ จักรยานสอนว่าถ้าคุณเป็นคนที่ตัวเล็กที่สุดในสังคม คุณจะอยู่รอดด้วยอะไร ถนนเปรียบเหมือนสังคมๆ หนึ่ง ทุกคนไม่รู้จักกัน คนกล้ามใหญ่คือพวกรถเมล์ โฟร์วีล บิ๊กฟุต พวกคนบรรดาศักดิ์คือพวกรถแพงๆ รถเบนซ์ รถอะไร ที่มันยาวๆ ใหญ่ๆ ส่วนคนที่ช่ำชองคือพวกแท็กซี่ พวกวัยรุ่นคือสามล้อ และมอเตอร์ไซค์ แต่จักรยานคือพวกที่ไม่มีอะไรเลย ใครมาคุณก็ต้องหลบ ใครแถเข้ามาคุณก็ต้องกลัวเขา ความเร็วก็สู้มอเตอร์ไซค์ไม่ได้ รถเมล์ก็ทำเป็นมองเห็นบ้างไม่เห็นบ้าง เห็นเราปั่นมา แต่เขาจะเข้าป้ายเขาก็ปาดหน้าไป เราก็ต้องหลบขึ้นฟุตปาธ
บางทีจักรยานสอนให้รู้ว่า ชีวิตคนที่เป็นตาสีตาสา คนที่ไม่มีอะไรไม่ใช่คนใหญ่คนโตนี่ ต้องยอมจริงๆ เลย ขับมาตรงๆ ดีๆ แต่เขาอยากจะทำอย่างนั้นก้ต้องยอม ต้องอดทน ต้องเข้าใจ ดมควันก็ต้องทน ถนนตรงไหนไม่ดีรถใหญ่เขาไม่รู้สึก แต่จักรยานรู้สึกหมด ฝาท่อตรงไหนเปิดถ้าตกลงไปแย่เลย เพราะฉะนั้นเวลาปั่นต้องมีสติตลอด ต้องระแวดระวังมองหน้ามองหลัง เป็นการสอนการใช้ชีวิต ถ้าผมเป็นคนไม่มีอะไรในสังคม ผมก้ต้องใช้ชีวิตแบบระมัดระวัง เจียมเนื้อเจียมตัว อดทน นี่จักรยานสอนเรา"
ผมเห็นด้วยกับความคิดของเขาครับ