Bike Forum > my bike diary / my life diary

กพ 56

<< < (2/6) > >>

O'Pern:
6 กพ 56
   นอนดึก ตื่นสายหน่อย ขี่จักรยานได้นิดเดียว เดินได้อีกหน่อยหนึ่ง แล้วก็ต้องเข้าตารางชีวิตคนทำงานประจำ ไปส่งลูก แล้วก็เข้าที่ทำงาน
   หลายเดือนมานี้มีไอ้แพดเป็นเพื่อนแก้เหงา เลยออนไลน์ได้บ่อย ตอบกระทู้จักรยานได้เยอะกว่าเดิม แต่ทว่ามันพิมพ์ไม่ถนัดเอาเสียเลย อันไหนที่ต้องตอบยาวๆ ผมจะเอาไว้กลับมาตอบที่บ้านแทน กลายเป็นว่าเน้นอ่านเสียมากกว่า
   เช็คเมลล์แล้วไม่ได้รับจดหมายจากอัน (มือกราฟฟิค) เลย จะโทรตามก็เกรงใจ เขาทำงานประจำอยู่

O'Pern:
7 กพ 56
   ขี่จักรยานตอนเช้านิดหน่อย ชีวิตออกแนวเบื่อๆ หน่อย หัวสมองไม่ค่อยแล่น ในเวปจักรยานมีคนคุยประเด็นว่าขี่จักรยานแล้วฟังเพลงอะไร คนส่วนใหญ่ก็จะบอกชื่อหรือแนวเพลง บ้างก็สวดมนต์ก็มี ส่วนผมตอบไปว่า ไม่ฟัง ไม่ร้องเพลงอะไร ผมจะขี่อย่างเงียบๆ พอขี่ไปสักพัก ถ้าเจอเส้นทางที่เหมาะๆ อย่างทางตรงเรียบ ยาว รถยนต์วิ่งน้อย การขี่จักรยานก็ไม่ต่างอะไรกับการทำสมาธิ จิตเราจะนิ่ง สงบ ณ จุดหนึ่งของห้วงภวังค์ ผมเคยขี่กลางแดดตอนบ่ายร้อนๆ ท่ามกลางรถยนต์วิ่งมากมาย ผมกลับไม่ได้ยินเสียงอะไรรอบข้างกายเลย ได้ยินแค่เสียงหัวใจตัวเอง เสียงลมหายใจฟืดฟาดๆ
   นึกแปลกใจตัวเอง เฮ้ย นี่มันเกิดอะไรขึ้น มันคืออะไรกันแน่ จะเรียกสิ่งนี้ว่าอะไร บอกไม่ถูกจริงๆ

O'Pern:
8 กพ 56
   หลับๆ ตื่นๆ ตลอดคืน หมาข้างบ้านเห่าหอนอีกแล้ว นอนไม่สบายเลย ไม่ชอบแบบนี้จริงๆ นึกถึงคอนโดขึ้นมาเลย ที่นั่นนอนได้อย่างเงียบสงบดีจริงๆ (มีเสียงรบกวนบ้าง แต่เบาและไม่น่ารำคาญเท่าไหร่)
   ขี่จักรยานไปเกือบ 1 ชม ตื่นเร็วเลยมีเวลาเยอะ ตอนเช้าพอมีลมเย็นๆ หลงเหลืออยู่บ้าง น่าจะเป็นแค่ไอความเย็นที่ค่อยๆ น้อยลงไปทุกที เพราะกรุงะเทพฯเราเข้าฤดูร้อนอย่างเป็นทางการแล้ว
   เข้าเทศกาลตรุษจีน วันนี้เรียกวันจ่าย คือจะไปจับจ่ายใช้สอยซื้อข้าวของเครื่องไหว้กัน ทุกตลาดคนแน่นหมด ตลาดเล็กก็แน่นน้อย ตลาดใหญ่ๆ แม่งแน่นทั้งวัน ตลาดไฮไลท์อย่างเยาวราชไม่ต้องพูดถึง แน่นข้ามวัน
   กลายเป็นว่าวันนี้แทบไม่เป็นอันทำงานทำการ ไปส่งของที่ปากคลองตลาดนี่จากเดิมแค่ 45 นาทีก็กลับมาแล้ว แต่วั้นนี้ใช้ถึง 3 ชม โอ้ พระพุทธเจ้า วันนี้มันต้องเป็นวันที่มีมากกว่า 24 ชม แน่ๆ ยาวไกลแน่ๆ เคยมีตรุษจีนอยู่ปีหนึ่ง ผมเลิกงานตีสอง เป็นแบบนี้อยู่ 3 คืนติดๆ กัน สุดๆ แล้ว ยกของกันแทบต้องหายาม้ามากินเลย
   เย็นไปรับมิว กลับมาบ้าน กินข้าวบ้าน ใช้ชีวิตเรียบง่าย พอมีเวลาเล็กน้อยก็จัดการเจ้าพวกลูกปลา ซึ่งตอนนี้มันเริ่มจะแน่นบ่อใหญ่แล้ว อยากสร้างบ่อเพิ่มนะ แต่ยังหาที่ทางไม่ได้ ยังคงเหลือพวกลูกปลาตัวเล็กๆ อีก 2 บ่อที่รอวันโต

O'Pern:
9 กพ 56
   วันนี้มิวเรียนพิเศษที่โรงเรียนเสริมวิชาเป็นวันสุดท้าย ปกติก็จะสมัครต่อเรียนภาคฤดูร้อน แต่ปีนี้ผมให้เขาไปเรียนเรือใบที่สัตหีบแทน ตัวผมเล่นวินเซิร์ฟเป็นตอนมัธยม เป็นแบบหัดเอง มั่วๆ เอง ซึ่งผมว่ามันดีนะ แข็งแรงสุดๆ แมนมากๆ แล้ว อยู่คนเดียวกลางทะเล แก้ปัญหาเองทุกอย่างทั้งหมดอีกด้วย มันยิ้งกว่าจักรยานทางไกลเสียอีก เพราะว่ามันต้องลุยคนเดียวจริงๆ
   มีอยู่วันหนึ่งเชือกดึงใบผมขาดกลางทะเล ก็พับใบเก็บม้วนเข้ากับเสาอย่างดี เก็บบูมเข้าที่ เอาทุกอย่างวางบนบอร์ดแล้วก็นอนคว่ำพายด้วยมือทั้งสองข้างเข้าฝั่ง ผมพายอยู่สัก 1 ชม มันก็ยังเข้าฝั่งไม่ได้ ลมมันพัดเราออกจากฝั่งตลอดเวลา เหนื่อย เมื่อย กลัว หิวน้ำ หิวข้าว ฯลฯ ตอนนั้นผมอายุสัก 16-17 เองมั้ง
   โชคดีเจอฝรั่งขี่เจทสกีผ่านมา ดีใจรีบกระโดดยืนบนบอร์ดวินเซิร์ฟแล้วโบกมือขอความช่วยเหลือ ยิ้มหน้าบานเลย เตรียมเชือกเรือเอาไว้ผูกให้เจทสกีลาก
   ฝรั่งหันมามอง ส่งยิ้ม  แล้วโบกมือตอบแบบ บ้าย บาย
   หึหึ ไอ้ห่าเอ้ยยย คงคิดว่ากูทักเล่นมั้งนี่
   ไม่มีใครช่วย เราก็ต้องช่วยชีวิตตัวเราเอง นอนคว่ำ นอนหงาย พายด้วยมือทั้งสองของเราจนเข้าฝั่งได้ จากเดิมเล่นที่อ่าวจอมเทียน ผมไปขึ้นฝั่งเอาแถวหาดทรายแก้ว เลยจอมเทียนไปเยอะมาก เดินลากบอร์ดแบกใบบนหาดทรายกลับมาเองคนเดียว ใช้เวลาไป 4 ชม ขำขำ ทางครอบครัวเป็นห่วงกันใหญ่ แต่ทำไงได้ ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้
   เช้านี้เจองานหนักหน่อย ขับรถกระบะไม่มีหลังคาไปซื้อของที่แมคโคร เจ้าของร้านกำหนดจุดจอดรถมาให้เสร็จสรรพ กะว่าไม่ต้องลากรถเข็นมาไกล แต่มันต้องแลกกับการที่ผมต้องยกของกลางแดด แถมเป็นพื้นต่างระดับอีกด้วย กลายเป็นเหนื่อยกว่าเดิม
   ยกไปครึ่งทางก็ต้องไปยืนพักในร่มเงาตึก ไปคนเดียวครับ ยกแบบประคองตัว กลัวหลังเจ็บจริงๆ เลย ก้มๆ เงยๆ แบบนี้ไม่น่าเป็นผลดี
   ขับกลับมาร้านก็เอาสินค้าลงจัดเรียงเก็บเข้าที่ เหงื่อโทรมเลย ครีมกันแดดที่ทามามันไหลหยดติ่งๆ ออกมาเป็นน้ำเหงื่อสีขาว
   บ่ายพามิวไปเรียนพิเศษคุมอง ผมทำธุระที่ธนาคารสองแห่งแล้วก็ไปนั่งรอที่จุดนัดพบ มิวเลิกเรียนมาก็จะให้โหลดเกมใหม่มาเล่น อันไหนชอบก็เก็บไว้ อันไหนไม่ชอบก็ลบทิ้งไปซะ

O'Pern:
10 กพ 56
   ตื่นตีห้า แต่ไม่รู้จะทำอะไรดี คือไม่เคยว่างแบบนี้ไง ตั้งตัวไม่ติด วันปกติก็ขี่จักรยานได้นิดหน่อยก็ต้องรีบกลับเข้ามาใช้ชีวิตตามตาราง พอวันนี้ได้หยุดทำงง เอ จะไปไหนดีน้า ไปชายทะเล ไปขี่ในบางกระเจ้า หรือจะเอาใส่รถ Trooper แล้วไปขี่ไกลๆ ดี
   สรุปแล้วไม่ลงตัว เวลาก็กระชั้นเข้ามาเรื่อยๆ แปลกใจตัวเองสิ เพราะไม่เคยเป็นแบบนี้ มันเกิดจากการที่เมื่อคืนก่อนนอนไม่ได้วางแผนไว้ก่อน มาคิดเอาล่วงหน้าสดๆ แถมขี่คนเดียวอีกด้วย เลยไปไม่เป็น
   นี่ถ้ามีกลุ่มก็ไม่ต้องคิดมากนะ ออกไปขี่กับกลุ่มก็จบ แต่ผมไม่มีกลุ่มอะไรกับเขาเลย ขี่ไม่เก่งครับ กลัวไปเป็นตัวถ่วงพวกเขา อย่างทริปหัวหินอยากขี่เข้ากลุ่มก็ไม่กล้าไป จนต้องอาศัยวันว่างๆ ไปจัดเองคนเดียวแบบตอนปีที่แล้ว แล้วก็ไปไม่ถึงจริงๆ ครับ ไปได้แค่ชะอำ เห็นไหม
   ฟ้าเริ่มสว่าง มีเมฆฝนมากเลย อากาศอบอ้าวเหมือนฝนจะตก เลยยิ่งคิดมากไปใหญ่ เอาไงดีๆ ๆ ๆ ทีวันอื่นมีธุระเสือกอยากขี่ พอวันนี้ว่างสุดๆ มึงเสือกสรุปชีวิตไม่ได้ หึหึ
   คิดไปก็เดินออกกำลังกายไป วันนี้เดินเร็วถอยหลัง และเป็นวันแรกที่ผมลองวิ่งถอยหลัง อันตรายครับ หากสะดุดเท้าตัวเองนี่ตีลังกาหัวฟาดพื้นแน่ๆ มันไม่เหมือนเราล้มด้านหน้าที่จะเอามือยันพื้นได้ วิ่งถอยหลังก็ล้มเอาหลังลง อาเมน
   ฟ้าเริ่มสว่างแล้ว วันนี้ฝนตกชัวร์ ผมไม่ได้กลัวฝนหรอกนะ แต่ถ้ารู้ว่าต้องเจอฝน ก็จะเตรียมตัวอีกแบบหนึ่ง อย่างน้อยก็จะได้หุ้มเบาะ Brooks ด้วยพลาสติคชั้นหนึ่งก่อน แล้วคลุมด้วยผ้าคลุมของเขาเอง แบบกันเหนียว คือเราไม่รู้ว่าผ้าคลุมของเขากันน้ำได้มากน้อยแค่ไหนไง
   เล่าแล้วก็นึกถึงผ้าคลุมของกระเป๋าวางบนแร็คของ KHS แม่งไม่ได้เรื่องเล้ยย เป็นผ้าคลุมที่ห่วยมากๆ นอกจากจะหุ้มไม่เข้ารูปกระเป๋าแล้ว ยังกันน้ำไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ฝนตกแค่เป็นละออง กระเป๋าก็เปียกไปหมดแล้ว
   อ้าว กลายเป็นว่าออกกำลังกายเพลิน สมองปลอดโปร่งคิดเรื่องธุรกิจหนังสือได้อีกหลายแนว โอ้ แบบนี้เข้าขั้นฟุ้งซ่านแล้วลูกพี่
เก็บกดครับ คิดอะไรได้ก็จดๆ เอาไว้ พอมีโอกาสก็จะปล่อยของแบบยกล็อต
สายหน่อยลูกไปเรียนพิเศษที่ซุปเค สาทร ภรรยาไปส่ง ผมออกกำลังกายต่ออีกสักพัก เดินเล่นให้อาหารปลา หิวจัด หมดมุข เลยขี่จักรยานไปตลาด พอใกล้ถึงฝนตกเทลงมา ตกใจมาก รีบหันหลังกลับ พอถึงบ้านกลายเป็นฝนปรอยๆ ปัดโธ่
โชคดีแม่บ้านยกเอาผลไม้มาให้ เช้านี้เลยกินมะม่วง แอ๊ปเปิ้ล อัลมอนด์ กลางวันภรรยาโทรมาชวนไปสวนจตุจักร แต่มิวไม่ไป ขออยู่บ้านเล่นเกม
ขาไปภรรยาขอขับรถ บอกชอบคันนี้มันแรงดี แต่น่าจะเป็น MT นะ คันนี้ยังดีที่มันแรง แม้จะเป็น AT ก็เลยพอไหว เอารถพ่อไปน่ะครับ เครื่องยนต์ 2.7 Inline 5 Turbo ผมก็ชอบขับคันนี้ มันแรงและประหยัดดีมากๆ เป็นเครื่องยนต์ดีเซล ขับช้าๆ ก็จะได้ประหยัด กดหนักๆ แรงบิดถล่มทลาย อัตราเร่งกระชากออกตัวเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ V8 5000 cc (คงเทียบได้แค่ระยะหนึ่งนะ ไม่ได้แรงเท่าเขาตลอดทางหรอก)
จอดรถกันที่ อตก แต่พอเดินเข้ามาภายในพบว่ามีรถยนต์จอดในสวนจตุจักรกันพอควร เอ๊ะ เมื่อก่อนเขาบอกให้จอดถึงแค่ตอนเที่ยงแล้วก็จะไล่ออกหมด ไฉนตอนนี้ให้จอดได้แล้ว แปลกใจจริง เกิดเราไปจอดบังหน้าร้านใคร เจ้าของเขาจะหมั่นไส้เราไหม รถเราจะปลอดภัยไหม คือคนมันจอดไม่เยอะไง ไม่ได้จอดกันเป็นแผงเหมือนสมัยแรก กลายเป็นจอดแบบหย่อมๆ ตรงโน้นคัน ตรงนี้คัน
ภรรยาติดใจต้านอาหารเวียดนามชื่อดินเผา ร้านหาง่ายมาก เพราะอยู่ด้านในสวนจตุจักรที่ติดกับริมรั้วถนนใหญ่ตรงหัวมุมทางโค้งพหลโยธินพอดี คนแน่นครับ แต่อาหารก็เสิร์ฟเร็วมาก รสชาติดี ราคาไม่ถูกเท่าไหร่ อาหารแนะนำคือไก่ย่างกอแระ (ไก่ย่างสมุนไพร) ภรรยาชอบข้าวเกรียบปากหม้อญวน ส่วนผมได้หมด เน้นผักเข้าว่า
เดินเล่นเป็นเพื่อนเขา อันที่จริงผมก็อยากเดินหาซื้อของส่วนตัวเหมือนกัน แต่มาคิดอีกทีมันก็คือแค่ของที่เราอยากได้ ไม่ถึงขั้นจำเป็น เก็บเงินเอาไว้ใช้ของที่มันจำเป็นจริงๆ จะดีกว่านะ เลยเดินตามภรรยาอย่างเดียว ช่วยเขาถือของ
ภรรยาทำงานหนักครับ ก็เลยชอบช็อปปิ้ง แต่ไม่ได้เล่นของแพงๆ นะ ซื้อของจุกจิกตามตลาดใหญ่ๆ นี่แหละ ไม่ได้ใช้พวกแบรนด์เนม แต่พวกผู้หญิงนี่แปลกอย่างหนึ่งนะ เห็นแล้วโคตรสงสัยเลยว่าทำไมพวกเขาถึงชอบแต่งตัวตามกัน
สิบกว่าปีก่อนเป็นพวกเสื้อสายเดี่ยว เอวลอย ตอนนี้ฮิตกางเกงขาสั้นแม่งมองไปทางไหนก็เจอแต่ขาสั้นเต็มไปหมด
เจอเสื้อผ้าน่ารักท่าทางใส่สบายเลยซื้อมาฝากลูก ผมเห็นเสื้อยืดเท่ๆ หลายตัว เมมไว้ในหัว กะว่าหากลดพุงได้ตามเป้าจะมาซื้อ อยากใส่เสื้อเบอร์ M ครับ ตอนนี้เป็น L อยู่
บ่ายแก่ๆ ก็กลับบ้าน ขากลับผมเป็นคนขับ ภรรยานอนหลับตลอดทาง ผมขับแบบนุ่มนวล เปิด Cruize Control ที่ 100 ขับแช่ซ้ายตลอดทางจนถึงบ้าน ถนนรถน้อย ขับสบายมาก แต่ก็เล่นเอาง่วงเหมือนกัน
กลับมาบ้านมิวยังเล่นเกมอยู่เลย ยิ่งโตยิ่งเริ่มเยอะ แต่ก็ยังไม่อยากเข้มงวดอะไรมากนัก เพราะเขาเองก็เรียนพิเศษเยอะเช่นกัน
หัวค่ำขี่จักรยานเล่นในบ้านนิดหน่อย คิดพลอทเรื่องสั้นจักรยานออกอีกตอนหนึ่ง
เออ นี่ผมไม่ได้อัปเดทเรื่อง UBX มานานมากแล้วนะนี่

Navigation

[0] Message Index

[#] Next page

[*] Previous page

Go to full version