ขณะที่ราคาน้ำมันโลกปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับเรื่องการรักษ์สิ่งแวดล้อมยังเป็นบทสนทนาประจำวันของคนทั่วโลก นอกจากความร่วมมือใช้บริการขนส่งมวลชนสาธารณะแล้ว พาหนะคู่ใจของมนุษย์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 19 อย่าง จักรยาน ก็ได้กลับเข้ามามีบทบาทในชีวิตและกลายเป็นกระแสเทรนด์โลกอีกครั้ง แม้บ้านเราจะไม่เข้าร่วมรับเทรนด์นี้สักเท่าไหร่ แต่ผู้คนในหลายเมืองทั่วโลกยังคงใช้เจ้าสองล้อเป็นพาหนะหลักปั่นไปตามท้องถนนจนเป็นเรื่องปกติ
Amsterdam, The Netherlands
แน่นอนว่าเมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์อย่างอัมสเตอร์ดัม ต้องเข้าวินเป็นอันดับแรกเมื่อพูดถึงนครแห่งจักรยานของโลก เกือบร้อยละ 40 ของประชากรที่นี่นิยมขี่จักรยานไปทำงานทุกวัน ถนนใหญ่แทบทุกสายในอัมสเตอร์ดัมมีเลนสำหรับจักรยานและราวจอดไว้บริการ ล่าสุดรัฐบาลกำลังก่อสร้างที่จอดจักรยานขนาดมหึมาใกล้สถานีรถไฟหลักของเมือง
WAIT!: ในกรุงอัมสเตอร์ดัมมีจักรยานราว 700,000 คัน ทว่าแต่ละปีมีจักรยานถูกขโมยราว 80,000 คัน และอีก 25,000 คันตกเป็นซากอยู่ในลำคลอง
Copenhagen, Denmark
โคเปนเฮเกน เมืองหลวงของเดนมาร์กเป็นอีกเมืองหนึ่งที่นิยมใช้จักรยานมากที่สุดในโลก ราวร้อยละ 36 ของพลเมืองที่นี่ปั่นสองล้อไปทำงานหรือไปเรียนในตอนเช้า โดยรัฐบาลมีบริการให้ยืมจักรยานไปใช้แบบฟรีๆ เพียงจ่ายเงินมัดจำเล็กน้อย นอกจากเลนจักรยานที่มีให้เห็นอยู่บนถนนทุกสายแล้ว บางแยกยังมีสัญญาณไฟจราจรสำหรับจักรยานโดยเฉพาะอีกต่างหาก
WAIT!: โคเปนเฮเกนพยายามผลักดันให้ตัวเองเป็นเมืองแห่งจักรยานอันดับหนึ่งของโลกด้วยการสร้างเทรนด์ที่ชื่อว่า Copenhagenize ซึ่งหมายถึงเมืองที่มีวัฒนธรรมจักรยานอย่างจริงจัง
Bogota, Colombia
แม้ว่าการสร้างวัฒนธรรมจักรยานในเมืองหลวงของสาธารณรัฐโคลอมเบียจะไม่จริงจังเท่ายุโรปหรืออเมริกา ทว่าโบโกตา เมืองในอเมริกาใต้เมืองนี้กลับได้เปรียบเมืองอื่น เมื่อการสำรวจพบว่ามีพลเมืองเพียงร้อยละ 13 ที่มีรถยนต์ส่วนตัว จักรยานจึงกลายเป็นพาหนะจำเป็นของคนส่วนใหญ่ไปโดยปริยาย ที่น่าสนใจก็คือในแต่ละสัปดาห์จะมีหนึ่งวันที่ทางการสั่งปิดถนนสายต่างๆ รวมระยะทางกว่า 70 ไมล์ เพื่อให้ผู้คนได้ขี่จักรยาน เล่นสเก็ต วิ่ง และทำกิจกรรมต่างๆ แขกไปใครมาล้วนชื่นชอบวิธีคิดแบบนี้
WAIT!: พลเมืองทางตอนใต้ของโบโกตานิยมใช้จักรยานมากที่สุด ด้วยเหตุที่เป็นย่านที่มีรายได้น้อยที่สุด
Curitiba, Brazil
เมืองกูรีตีบา รัฐปารานา ในประเทศบราซิล ได้พยายามผลักดันให้ประชาชนหันมาใช้จักรยานเป็นเวลานานกว่า 40 ปีแล้ว ผลที่ได้คือเลนจักรยานบนถนนทั่วเมืองเป็นระยะทางรวมกว่า 93 ไมล์ รวมทั้งผู้ว่าการรัฐยังมีนโยบายซื้อจักรยานแจกจ่ายแก่คนยากจนด้วย
WAIT!: สาเหตุสำคัญที่รัฐบาลพยายามผลักดันวัฒนธรรมจักรยานให้แก่เมืองกูรีตีบา เนื่องจากปัญหาจราจรติดขัดที่แก้ไม่หาย ว่ากันว่าในแต่ละวันมีรถยนต์วิ่งบนถนนมากถึง 1 ล้านคัน !!! ฟังดูแล้วนึกถึงกรุงเทพฯ ชะมัด
Montreal, Canada
เมื่อสองปีก่อน มอนทรีออลเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของแคนาดาทุ่มงบประมาณกว่า 134 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อสร้างเลนจักรยาน ราวจอด รวมทั้งระบบคมนาคมที่เอื้ออำนวยต่อการใช้จักรยานเป็นพาหนะหลัก นอกจากนั้นเมื่อปีก่อน รัฐบาลยังได้คิดค้นระบบ BIXI (ผสมคำระหว่าง BIcycle และ taXI) ซึ่งเป็นการให้เช่ารถจักรยานกว่า 2,400 คันตามย่านสำคัญกลางใจเมือง แถมยังใช้เครดิตการ์ดรูดได้อีกต่างหาก
WAIT!: นิตยสาร Time ได้ยกย่องให้ BIXI เป็นหนึ่งใน 50 สุดยอดความคิดสร้างสรรค์แห่งปีค.ศ.2008
Portland, Oregon, USA
เลนจักรยานกว่า 260 ไมล์รอบเมืองพอร์ตแลนด์ที่เชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายสู่เมืองใกล้เคียงโดยรอบ ช่วยให้พลเมืองสามารถใช้จักรยานในพื้นที่ที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีการจำหน่ายจักรยานสงเคราะห์ในราคาถูก ซึ่งมาพร้อมกับหมวกกันน็อก กุญแจล็อค ที่สูบลมยาง แผนที่ และเสื้อกันฝน (ไอเดียเลิศจริงๆ)
WAIT!: พอร์ตแลนด์เพิ่งจัดตั้งแคมเปญ Portland Bicycle Plan for 2030 เพื่อต้องการรณรงค์ให้ประชาชนในเมืองหันมาขี่จักรยานเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 25 (จากร้อยละ 9 ในปัจจุบัน) ภายในอีก 20 ปีข้างหน้า
Basel, Switzerland
บนถนนแทบทุกสายในเมืองท่องเที่ยวแสนสวยแห่งนี้เต็มไปด้วยเลนและสัญญาณไฟสำหรับจักรยาน รวมทั้งมีเลนเลี้ยวซ้ายเพื่อจักรยานโดยเฉพาะ นอกจากนี้บาเซลยังสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวเช่าจักรยานขี่ชมเมืองด้วยการจัดทำแผนที่เส้นทางสำหรับขี่จักรยานชมสถานที่ต่างๆ รอบเมืองแจกให้ฟรี ใครไปเมืองนี้เวลานี้ไม่ได้ขี่จักรยานชมเมือง ถือว่า ไปไม่ถึง
WAIT!: แม้การขี่จักรยานจะได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในเมืองบาเซล แต่ควรระมัดระวังล้อรถจักรยานติดในรางรถราง (Tram) อาจพลิกล้มลงได้ (เกิดขึ้นบ่อยครั้ง)
Barcelona, Spain
การคิดค้นเส้นทางคมนาคมที่ชื่อว่า Green Ring นับว่าเป็นความชาญฉลาดของเมืองบาร์เซโลนา ด้วยเลนจักรยานที่ล้อมรอบตัวเมือง พร้อมที่จอดจักรยานกว่า 3,250 แห่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังสร้างบริการที่ชื่อ Bicing ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนสมัครสมาชิกในราคาถูก เพื่อเช่าจักรยานที่มีให้บริการมากกว่า 3,000 คันจากสถานีราว 400 แห่งทั่วเมือง และนำไปจอดคืนในสถานีใดก็ได้
WAIT!: เพื่อป้องกันการลักขโมยจากมิจฉาชีพ จักรยานทุกคันในบริการ Bicing ได้รับการออกแบบให้โดดเด่นจดจำง่าย แต่ก็ยังไม่วายเกิดปัญหาการถูกมือดีงัดแงะส่วนประกอบต่างๆ ออกไปอยู่บ่อยครั้ง
Beijing, China
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในประเทศที่พัฒนาเร็วที่สุดในโลก แม้ว่าจำนวนรถยนต์จะมากขึ้นเรื่อยๆ แต่จำนวนผู้คนที่หันมาขี่จักรยานก็เพิ่มขึ้นไม่แพ้กัน (นับตั้งแต่การรณรงค์เพื่อเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2008 ) เพราะปักกิ่งต้องการหลีกเลี่ยงการจราจรที่แออัดสุดๆ ประกอบกับเทศบาลกรุงปักกิ่งกำลังแก้ไขปัญหามลพิษ (จากรถยนต์) ตอนนี้ทางการกำลังวางแผนสร้างเลนสำหรับจักรยานอย่างจริงจังที่กินรัศมีถึง 50 กิโลเมตรเพื่อรองรับความต้องการของอาตี๋อาหมวยนักปั่น
WAIT!: เทศกาลกรุงปักกิ่งวางเป้าหมายว่า ภายในปีค.ศ.2015 จะจัดตั้งศูนย์เช่าจักรยานให้ได้ 1,000 แห่ง และมีจักรยานให้เช่า 5 หมื่นคัน
Chiang Mai, Thailand
ที่จังหวัดเชียงใหม่บ้านเฮาก็มีการตอบรับวัฒนธรรมจักรยานกับเขาเหมือนกัน แม้จะไม่ได้ใช้เป็นพาหนะอย่างจริงจังเหมือนประเทศอื่นๆ แต่ก็มีการจัดตั้งชมรมจักรยานวันอาทิตย์เชียงใหม่ ซึ่งรณรงค์การใช้จักรยานมานานกว่า 10 ปีแล้ว และกำลังร่วมมือกับเทศบาลนครเชียงใหม่ในการผลักดันสร้างเลนจักรยานบนถนนสายสำคัญๆ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้จักรยานในเชียงใหม่ อีกทั้งยังเป็นทางเลือกใหม่สำหรับนักท่องเที่ยว
WAIT!: ชมรมจักรยานวันอาทิตย์เชียงใหม่ ได้สร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจในแต่ละเดือน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจได้เข้าร่วมชมรม ซึ่งหากจำนวนคนที่ใช้จักรยานมีมากขึ้นเท่าไหร่ ก็เท่ากับเป็นการรวมตัวเรียกร้องให้สร้างเลนจักรยานได้เร็วยิ่งขึ้นเท่านั้น
ช่วยๆ กันหน่อยนะเจ้า (เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมของชมรมได้ที่
www.cmcycling.org)
Source - golivepaper.com
