Faster then Fast
......มันเริ่มต้นด้วยการกระแทกด้วยแรงกระตุกอย่างกระทันหันต่อร่างกาย ส่งผลให้เกิดการหดตัวอย่างเฉียบพลันต่อกล้ามเนื้อ ด้วยปฏิกริยาแรกเริ่มต่อสิ่งที่ร่างกายรู้สึกว่าเป็นหายนะที่กำลังใกล้เข้ามา ระบบประสาทรับรู้อื่นๆ ที่เหลือติดตามมาอย่างรวดเร็ว นำไปสู่การระวังตัว และกระตุ้นให้ทำงานอย่างหนัก
ประตูของต่อม อะดรีนาลีนถูกเหวี่ยงเปิดออก ความกระปรี้กระเปร่าที่มาพร้อมกับสมาธิไหลหลั่งสู่ระบบหมุนเวียนของร่างกาย การหายใจเริ่มรุนแรง ส่งออกซิเจนเข้าไปยังกระแสเลือด ทุกรูขุมขนเปิดกว้าง ส่งผลให้เซลเม็ดเลือดที่ตอนนี้ทำงานหนักเริ่มฉีดพล่านอย่างแตกตื่น ดวงตาเบิกกว้าง กล้ามเนื้อเขม็งตึง และความรู้สึกเหมือนวิญญาณจะหลุดจากร่างเริ่มเข้าครอบงำ ในขณะที่สภาพแวดล้อมรอบด้านเริ่มละลายกลายเป็นภาพเบลอที่วิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เรากำลังวิ่งนำหน้าทุกสิ่ง เราควบคุมได้ โลกเป็นของเราแล้ว แต่ส่วนหนึ่งของความคิดกลับโต้กลับ และร้องตะโกนส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ มันผิดปกติ มันอันตราย..!!
"แต่มันรู้สึกดีชะมัด..." นั่นคือคำตอบสุดท้ายจากสมอง ควันจากยางเซมิสลิค ที่ถูกปั่นด้วยพลังเครื่องยนต์กว่า600แรงม้า กระจายคลุ้งขึ้นในอากาศ พร้อมๆกับตัวรถสปอร์ตสีดำสนิทที่พุ่งออกไปข้างหน้าราวกับลูกประสุน
เข็มวัดรอบกวาดขึ้นไปสุดที่9000รอบต่อนาทีและตกลงมาที่3500รอบอย่างรวดเร็วตามจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ที่ฉับไวของคนขับ หลังจากอัตราทดได้ถูกเปลี่ยนขึ้นเป็นเกียร์4 ตัวเลขดิจิทัลบน หน้าจอเครื่องมือบอกความเร็วอิเล็กทรอนิกส์ ก็บอกให้คนขับรู้ว่า เขากำลังทะลุกำแพงความเร็วในระดับ 200กิโลเมตรต่อชั่วโมงเขาเหลือบมองกระจกข้างเล็กน้อย "ยัง....มันยังไม่จบ" เสียงรำพึงอยู่ในใจ........
ฮอนด้าเอส2000 สีน้ำเงินสด ยังวิ่งเกือบจะคู่กับสกายไลน์อาร์32สีดำสนิทด้วยความเร็วไม่ต่ำกว่า200กิโลเมตรต่อชั่วโมง อีกไม่เกิน 1 กิโลเมตรจะถึงจุดที่ชี้ขาดว่าใครจะเป็นผู้ครอบครองถนนในค่ำคืนนี้ ระหว่างเอส2000และอาร์32
คนขับเอส2000 เริ่มร้อนใจเนื่องจากรถของเขายังตามอาร์32อยู่ถึงครึ่งคันรถ เขาตระหนักดีถึงกฏของ street racer "ชนะก็คือชนะ ไม่ว่าคุณจะทิ้งห่างคู่ต่อสู้ 1กิโลเมตรหรือแค่ช่วงล้อเดียวก็ตาม" ระยะทางเหลืออีก 800เมตรและลดลงอย่างต่อเนื่อง เร็วเท่าความคิด เขาตัดสินใจกดปุ่มสีแดงข้างคันเกียร์และโยกตำแหน่งเกียร์ไปที่เลข5
ออกซิเจน.....%กับไนโตรเจน....% ถูกปลดปล่อยออกจากถังพักที่วางอยู่ด้านหลังเบาะคนขับของเอส2000 วิ่งเข้าสู่วาล์วไฟฟ้า ก่อนที่จะพุ่งตรงผ่านหัวฉีดลงสู่ท่อร่วมไอดีและถูกจุดระเบิดในกระบอกสูบ ก่อให้เกิดลูกไฟขนาดย่อมหลังปลายท่อไอเสียไทเทเนียมขนาด3นิ้ว พร้อมๆกับตัวรถที่พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วราวกับได้รับแรงฉุดจากเทพเจ้า
เอส2000ขยับขึ้นนำอาร์32เกือบ1 คันรถ ในขณะที่ระยะทางเหลือเพียง1ใน4ไมล์เท่านั้น ภายในห้องโดยสารของเอส2000 คนขับดวงตาเบิกกว้างพร้อมกับอาการกระตุกเป็นพักๆ ของกล้ามเนื้อ เขามองกระจกหลังและยิ้มในใจ "และแล้วคืนนี้ก็เป็นของเรา"
ความคิดดับลงหลังจากได้ยินเสียงคำรามแปลกของเครื่องยนต์ใกล้เข้ามา มันเป็นเสียงที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน เสียงนั้นหนักแน่นและแผดก้องอย่างดุดัน แต่ที่สำคัญเขารู้ด้วยประสบการณ์จากการคลุกคลีกับรถยนต์ว่า เครื่องยนต์นั้นยังใช้รอบไปแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น
อาร์32สีดำสนิทวิ่งนำรถของเขาเข้าเส้นชัยเพียงครึ่งล้อรถ เขายังจำได้ว่าก่อนที่จะถึงเส้น กระจกที่ติดฟิมล์ดำมืดของรถคันนั้นลดลงครึ่งหนึ่ง เขาเห็นใบหน้าคนขับไม่ชัด แต่จำได้ถึงรอยยิ้มที่ถูกส่งให้เขาได้อย่างติดตา มันเป็นยิ้มสบายๆของผู้ชนะ ซึ่งรู้ตัวอยู่แล้ว เสียงแผดก้องอย่างดุดันของอาร์32ยังดังก้องอยู่ในหู
มันคืออาหารหนึ่งมื้อสำหรับผู้หิวโหย เป็นเครื่องเยียวยาสำหรับผู้หงุดหงิดกระวนกระวาย เป็นทางออกสำหรับคนที่ชื่นชอบชีวิตสุดขั้ว มันช่วยกระตุ้นให้ผู้ขับรถตื่นตัว หลอกหลอนให้ทั้งชายและหญิงต้องติดอยู่ในชีวิตที่เดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว...ทิ้งความเจ็บปวดไว้ให้หลายคน และโห่ร้องยินดีต่อการแข่งครั้งต่อไป.....
