ที่นิยมกันอย่างกว้างขวางที่สุดก็คือแบบ V แม้จะมีรถรุ่นใหม่ๆ เขาให้เบรกแบบ Disc มาบ้าง แต่พวกอนุรักษ์เก่าแก่จริงๆ ก็ยังเห็นมีใช้เบรกแบบ Cantilever กันอยู่เลย (ที่บอกว่ายังเห็นใช้กันอยู่ คือเขาติดตั้งมากับรถใหม่ปี 09 นี่แหละครับ)
ตามทฤษฏีแล้ว การหยุดแบบจับที่ขอบล้อจะทำงานได้ดีกว่าครับ แต่มันก็มีข้อเสียคือหากเปียกน้ำแล้วจะเบรกไม่อยู่เอาเสียเลย ไม่ว่าจะลุยน้ำ หรือปั่นกลางฝน กลายเป็นยิ่งอันตรายเข้าไปใหญ่ บางคนหาทางออกด้วยการใช้ผ้าเบรกแบบ Up Grade มาช่วยแทน
แต่เบรกแบบ Disc จะทำงานได้ดีมากขณะล้อเปียกน้ำ และจะมาเด่นที่สุดก็ตอนปั่นลงเขายาวๆ เพราะเบรกแบบ Disc ไม่ทำให้ขอบล้อร้อนเหมือนเบรกแบบ V หรือ Cantilever ที่ส่งผลให้เกิดความร้อนสะสมจนยางระเบิดได้
- แต่ Disc ก็ยังมีขีดจำกัดเรื่องการถ่ายเทความร้อนสู่อากาศ หากใช้งานต่อเนื่องนานๆ ก็จะเกิดอาการเฝดได้เช่นเดียวกับรถยนต์ (Brake Fade)
ถึงตอนเฝดนี่แหละที่ Disc จะยิ่งอันตรายกว่าแบบ V เพราะหากอาการเฝดมาเมื่อไหร่ จะกดแล้วเหมือนไม่มีเบรกอยู่เลย !!!
อย่างเพิ่งตกใจกลัวไป ความเร็วจักรยานมันไม่เหมือนกับรถยนต์ มันไม่เฝดกันง่ายๆ หรอก มืออาชีพเชาลงเขาอินทนนท์กันชั่วโมงกว่า ใช้เบรกล้วนๆ ยังผ่านมากันได้เลย (แต่คนใช้เบรกไม่เป็น ก็กดจนเฝดก็มีนะ)
ส่วนแบบ Cantilever จะเด่นตรงมีชิ้นส่วนน้อยชิ้น และชิ้นเล็กกว่า สามารถขึ้นรูปสร้างด้วยโลหะ Titanium ได้ง่ายกว่า รถทัวริ่งแบบ Hi End จึงยังคงใช้ Cantilever Brake กันอยู่
- ข้อดีแฝงอีกอย่างคือตอนลุยโคลนหนักๆ ตอนโคลนพอกล้อจะสามารถผ่านได้ดีกว่าเบรกแบบ V
