Author Topic: รวมเรื่องภัยของคนใช้รถครับ  (Read 21161 times)

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club

ผมเองก็มีประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกันครับ เหตุเกิดตอนประมาณ
21.00 ที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ผมเป็นคนที่สังเกตุสิ่งต่างๆรอบตัวอยู่เสมอ
ดังนั้นหากมองเผินๆเหมือนกับว่าผมเดินไปดื่มน้ำในมือไปเรื่อยเปื่อย
สิ่งที่ผมรู้สึกก็คือ รู้สึกว่ามีคนเดินตามผมห่างๆแต่ผมยังไม่คิดอะไรในทีแรก
เพราะคงเป็นผู้มาใช้บริการที่จอดอยู่ชั้นเดียวกัน
อีกอย่างที่รถที่จอดชั้นเดียวกับผมนี้ยังค่อนข้างเยอะ

บังเอิญว่าผมอยากจะทิ้งแก้ว น้ำในมือก็เลยมองหาถังขยะ
ซึ่งมันไม่ค่อยมีหรอกตามที่จอดรถ
เพราะทางศูนย์การค้าพวกนี้เค้ากลัวเรื่องการรอบวางระเบิด
ระหว่างที่ผมเดินหาที่ทิ้งในดวงใจอยู่นั้น
ผมก็เดินเลยที่จอดรถตัวเองไปหลายคันเหมือนกัน แต่ก็ไม่มี
จะทิ้งมั่วๆมันก็น่าเกลียด
ก็ตัดสินใจว่าเอาไปไว้ตรงที่วางแก้วในรถก่อนก็ได้ว่ะ
( ซึ่งตลอดเวลาไอ้บ้านี่ก็ยังเดินตามผมอยู่)
พอหมุนตัวจะกลับมาที่รถตัวเอง ไอ้บ้านี่มันก็ทำเป็นเดินให้เลยผมไปก่อน
แล้วก็หยุดเหมือนมองหารถมันว่าจอดไหน ไอ้ช่วงที่หมุนตัวกลับมานี่เอง
ที่ผมเห็นมันชัดๆว่า สภาพมันไม่ใช่ลักษณะคนขับรถเก๋งแน่นอน
คือมันมีสายร้อยกุญแจแบบ Flex( สายที่วนๆคล้ายสปริง)กับกุญแจดอกเดียว
ใส่แจ๊คเก็ตสีดำ แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่าเป็นผู้ไม่หวังดีรึเปล่า
ก็เลยแกล้งทำเป็นเดินเลยรถตัวเองอีกสักสี่ห้าคัน
แล้วไปหยุดทำท่าทางจะไขกุญแจรถคันหนึ่ง ซึ่งมันก็รีบเดินตามกลับมา
คงกลัวว่าจะไม่ทันเดี๋ยวผมขึ้นรถไปเสียก่อน
แต่ผมก็ทำทางเป็นเปลี่ยนใจอีกครั้งมองหาที่ทิ้งแก้วน้ำ
แล้วเดินสวนกับมันในระยะที่ปลอดภัยสำหรับผมเอง
แต่เป็นอันตรายสำหรับมันเพราะผมก็พร้อมอยู่แล้ว
แน่นอนว่าผมเดินกลับไปหารถผมเองอย่างแท้จริง ซึ่งคราวนี้มันหลงกลผมเต็มๆ
เพราะมันไปยืนอยู่ท้ายรถขับที่ผมทำท่าจะไขประตู
มันไปยืนแบบแอบๆเพราะเดี๋ยวผมต้องกลับมาแน่นอน
แต่คราวนี้ผมเดินไปปั๊บ กดรีโมทปุ๊บ ขึ้นรถได้ผมก็สตาร์ทเครื่อง
กดเซ็นทรัลล็อค ขณะที่ผมขับออกไป ผมมองไปที่มันซึ่งกำลังทำหน้างงๆ
แต่ไม่กล้ามองแบบต็มๆนัก เห็นหน้าตามันเหวอๆ
ผมก็เลยคิดว่ายังไงต้องแจ้ง ร.ป.ภ. ไว้ก่อน
ไม่ว่ามันจะใช่อย่างที่ผมคิดหรือไม่ก็ตามแต่เพื่อความปลอดภัยของคนอื่นๆ
ผมขับเลยไปจอดตรงที่คืน บัตรจอดรถ แล้วแจ้งทางเจ้าหน้าที่ห้าง
รวมทั้งนำเจ้าหน้าที่ 4 นไปเองด้วย
เพราะผมรู้อยู่คนเดียวนินา ไปเจอมันผลุ๊บๆโผล่ๆอยู่
ทางเจ้าหน้าที่จึงตรงเข้าไปสอบถามว่า ทำอะไร
มันตอบว่าไงรู้ไหมครับ.. ....มันมาซื้อของแต่จำไม่ได้ว่าจอดรถไว้ตรงไหน
แต่พอสักไปสักมาว่ารถยี่ห้ออะไร ทะเบียนอะไร มันก็อึกอักตอบมาว่า
มันนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เอามอเตอร์ไซด์มา มั่วๆแล้วก็แถ
พอเจ้าหน้าค้นตัวก็พบมีดปอกผลไม้หนึ่งเล่ม ทีนี้หน้ามันซีดอย่างชัดเจน
ที่จริงหน้าผมก็ซีดครับ
ผมก็เลยบอกให้เจ้าหน้าที่คุมตัวแล้วแจ้งตำรวจเพื่อขยายผลต่อไป......
ต้องระวังนะครับ อย่าประมาทเด็ดขาด ถ้าเป็นสุภาพสตรี อย่าลีลาอย่างผม
เพราะไม่คุ้มแน่นอนถ้าเราพลาด
เป็นห่วงทุกคนนะครับ
โจ




เพื่อนๆ ฺ BTsec ทุกท่าน
อ่านเรื่องข้างล่างแล้วระวังตัวให้มากๆนะคะ
เพราะพี่ต่อก็เคยโดนลักษณะเดียวกัน โดยขับรถกลับ
บ้านตนเดียวประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ พอเข้าซอยรู้สึกว่ามีรถมอเตอร์ไซด์ขับตามมา
และแล้วเข้าซอยเดียวกัน และตามมาเรื่อยๆ
พอพี่ต่อจอดรถหน้าบ้านเขาก็ขับเลยเข้าไปในซอยซึ่งเป็นซอยตัน
และเลี้ยวกลับมาจอดอยู่ใกล้ๆ
และลงมาเปิดประตูข้างคนขับที่พี่ต่อนั่งอยู่
พอดีคอยระวังอยู่แล้วและคอยมองอยู่ และรถก็ล็อคอยู่
เขาจึงเปิดไม่ได้
แต่ทำท่าบุ้ยใบ้ให้เราเปิดประตูเหมือนจะถามอะไร
พี่ต่อก็เลยบีบแตรดังมากๆหลายครั้ง แล้วโบกมือให้รู้ว่าไม่เปิด
พอดีแม่บ้านเดินมาที่ประตู เขาก็รีบเดินไปขึ้นรถขับออกไป
ทั้งหมดนี่เกิดขึ้นเร็วมากนับจากที่จอดรถหน้าประตูบ้าน ประมาณ 2-3 นาทีเท่านั้น
ปกติเมื่อถึงบ้านพี่ต่อจะบีบแตรแล้วเปิดประตูเพื่อส่งกุญแจประตูใหญ่ให้แม่บ้านไขประตูให้
พอดีวันนั้นมองมอเตอร์ไชด์คันนี้อยู่เลยยังไม่ได้กดแตร
เขาอาจจะคิดว่าเราจะลงจากร ถมาเปิด
ประตูบ้านเองก็ได้
ไม่อยากคิดเลยว่าถ้ารถไม่ได้ล็อคอยู่จะเกิดอะไรขึ้น ต่อให้หน้าบ้านเราเอง
พวกมิจฉาชีพพวกนี้จะลงมือเร็วมาก
คนมาช่วยก็อาจช่วยไม่ทัน
ดังนั้น ขอย้ำให้ระมัดระวัง มากๆ
เพราะเหตุการณืประเภทนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก และขอให้ทุกคนปลอดภัยนะคะ
ฌลาวิภา เมฆใจดี



เรื่องสำคัญมากๆ
ระหว่างที่รถผมหยุดรอไฟเขียว มีชาย 2 คนเดินมาข้างหลัง
ทั้งคู่กระตุกประตูหลังคนละข้าง
โชคดีที่ประตูล๊อกอยู่ 1 ใน 2 คนนั้นพยายามดึงแรงขึ้นอีก
แล้วทั้งคู่ก็เดินเร็วผ่านรถผม
แล้วปนไปในฝูงชน เดี๋ยวนี้ เหตุร้ายเกิดได้ตลอดไม่ว่ามืดหรือสว่าง
เราคงต้องระวังอย่าเผลอเชียวละ




เหตุการณ์ที่ 1
ภรรยาผม จะมีนิสัยเมื่อขึ้นรถแล้วต้องกดเซนทรัล ล๊อคทั้งก่อนสตาร์ทเครื่องและก่อนดับเครื่อง
มีรถเก๋งคันหนึ่งสีเงิน มีคน สอง คนเดินลงมาจากรถแล้วก็เดินมาที่รถของเราอย่างสุภาพ
ขณะที่ภรรยาผมกำลังเล่นกับลูกอยู่ เพลินๆ ก็ได้ยิน เสียงตึ๊กจากข้างหลัง
ภรรยาผมก็ตกใจรู้สึกตัวว่ามีคนพยายามเปิดประตูหลังของรถเรา
แต่เพราะรถล๊อคพวกเขาก็เดินกลับ ไปขึ้นรถเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ตอนที่ภรรยาผมเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟัง ผมคิดว่าเหลือเชื่อจริงๆ กลางวัน แสกๆ แท้ๆ
ถ้าหากบังเอิญรถไม่ได้ ล๊อค ผมไม่กล้าคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น
อยากจะให้ทุกคนมีนิสัย ขึ้นรถต้องล๊อครถ
พวกผู้้ชายมักจะลงมือจากเบาะหลัง เพราะจะควบคุมสถานการณ์ได้ง่าย



เหตุการณ์ที่ 2
หลังจาก พ่อและแม่ผม จ่ายเงินค่าจอดรถเลี้ยวออกจากโรงพยาบาล ก็จอดติดไฟแดง
ขณะนั้น ( ยังไม่ ถึง 3 นาที ระบบล๊อคอัตโนมัติคงยังไม่ทำงาน )
ชายหนุ่ม สอง คนก็เข้ามานั่งที่เบาะหลังของรถ
โชคดีที่พ่อแม่ของผมไหวตัวเร็วมาก
รีบถอดเข็มขัดนิรภัย ดับเครื่อง ดึงกุญแจออกแล้วออกมายืนนอกรถโดยเร็ว
คนทั้ง สอง คนนั้นก็ยังนั่งอยู่ในรถหน้าตาเฉย
จนกระทั่งคุณแม่ของผมตะโกนใส่พวกเขาว่า
พวกเรายังมีเพื่อนฝูงอยู่ในโรงพยาบาลอีกเยอะ
จะให้ เรียกพวกเขาลงมาคุยกับพวกแกไหม ?
พวกเขาจึงออกมาจากรถแล้วบอกว่าขอโทษขึ้นผิดคัน ( นี่มันปล้นกันชัดๆ)
แล้วรถคันข้างหลัง ( มีคนอยู่ในรถ สอง คน) ก็ขับมารับพวกเขาจากไป
น่ากลัวที่สุด



เหตุการณ์ที่ 3
ตอนจอดติดไฟแดง รถของผมอยู่ห่างจากทางแยกประมาณคันที่สามหรือสี่
สักครู่ หนึ่ง จู่ ๆ ก็มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งจอดอยู่ท้ายรถผม
บนรถมีชายหนุ่มอายุ ประมาณ 20 กว่า สอง คน
แล้วที่น่าสงสัยก็คือ พวกเขาพยายามมองเข้ามาในรถของผม
ผมจึงจ้องพวกเขาอยู่ครู่หนึ่ง
พอไฟเขียวก็ออกรถพร้อมมัน
ผมบังเอิญได้ยินหนึ่งในนั้นพูดขึ้นว่า 'รถมันล๊อคหมด' แล้วก็ขับเลยไป


Source - fw mail



จริงเท็จไม่ทราบครับ แต่อย่างไรแล้วก็ต้องระวังตัวกันตลอดเวลา ขอให้คุณและคนรอบข้างปลอดภัยครับ

i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline kenjung

  • Amateur Racer
  • *
  • Posts: 1
ไอ้พวกนี้ต้องกระทืบให้ดิ้น สาระเลวจริงๆครับ

Offline Mokan

  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 771
  • Winning isn't everything, it's the ONLY thing!!!
ถ้าเกิดกับผมตอนติดไฟแดง ผมกดคันเร่งชนกับรถข้างหน้าให้มันเป็นเรื่องเป็นราวไปเลยครับ รถพังดีกว่าเสียชีวิต อย่างน้อยก้อมีคนหันมาสนใจมากขึ้น :P
In racing, you either lead or follow or GETTA HELL OUT OF THE WAY!!!!

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
  ไม่เดินที่เปลี่ยว ไม่เที่ยวกลางคืน

ทำแค่นี้ก็รอดไปได้เยอะละ  ;D
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline ชัย08

  • Full Member All Thailand Championship Racer
  • ***
  • Posts: 112
  • ทำวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวาน เพราะวันนี้คือวันพรุ่งนี
ผมว่าต้องมีความชั่งสังเกตด้วยครับ

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
เมื่อวานได้ฟังเพื่อนเล่าว่าจอดรถไว้ที่วัดโพธิ์
และไปเดินดูของที่ตลาดนัดสะพานพุทธ
ขากลับมาที่รถประมาณ 2 ทุ่มตอนออกรถมีผู้ชายมายืนขวางหน้า
เพื่อนเห็นว่ามีคนเดียวและตัวเองก็เป็นผู้ชายจึงเปิดกระจกถามไปว่ามีอะไร
เท่านั้นแหละมีผู้ชาย 3-4 คนมาจากไหนไม่รู้
ลากตัวเขาออกมาซ้อมด้านหลังรถ แล้วขับรถพาไปด้วยไปชานเมือง
ลากตัวลงมาซ้อมต่อ คนหนึ่งบอกให้ยิงทิ้ง อีกคนบอกว่าแทงให้ตาย
สุดท้ายคนหนึ่งบอกว่ามันพูดดีปล่อยมัน

ก่อนไปพวกมันถอดเสื้อผ้าออกหมด
เอาเสื้อมัดแขนไว้ และขับรถพร้อมทรัพย์สินทั้งหมดไป
โชคดีที่ไม่ตาย

ใครที่พบเหตุการณ์อย่างนี้แนะนำว่าอย่าเปิดกระจกรถ
เพราะคนร้ายที่แอบอยู่สามารถดันกระจกลง
และปลดล็อคประตูได้ ทางที่ดีใช้แตร...ดังๆ ให้เป็นจุดสนใจ

จำไดว่าเร็วๆนี้มีข่าวคนมาจากต่างจังหวัดไปถามทางคนที่อยู่แถวท่าเตียน
ก็ถูกซ้อมและปล้นลักษณะคล้ายกัน

โปรดระวังภัยนี้ ส่วนใหญ่จะโดนกับผู้หญิงที่ขับรถปิ๊กอัพคนเดียว




คุณพ่อเค้าเคยได้ยินมาว่าพวกผู้ร้ายมีการชิงรถแบบใหม่
โดยเฉพาะรถกระบะใหม่ๆที่ไม่มีหลังคาท้ายกระบะ
ซึ่งคนร้ายจะสามารถโยนสิ่งของใส่ท้ายรถได้
ถ้าเป็นรถเก๋งก็มักจะทิ้งของบางอย่างไว้ข้างๆรถ
โดยต้องเป็นที่สังเกตได้ง่ายของเรา หลังจากที่คุณพ่อเตือนได้ไม่กี่วัน
คุณพ่อก็กลับมาเล่าให้ฟังว่า รุ่นน้องที่บริษัทเพิ่งไปโดนมา
แต่โชคดีที่คุณพ่อเคยเตือนไว้ก่อนจึงรอดไปได้!อย่างหวุดหวิด
เค้าไปจอดรถกระบะไว้ข้างถนน แล้วลงไปทำธุระ พอกลับมาที่รถ
ก็เห็นมีรถเก่งจอดต่อท้ายอยู่เค้าก็ไม่ได้สนใจ แต่ก่อนที่เค้าจะขึ้นรถก็เห็นว่า
ท้ายรถมีซองสีน้ำตาลคล้ายซองเอกสารแต่มีลักษณะบวมป่อง
เค้าเห็นดังนั้นก็คิดถึงคำเตือนได้ จึงหยิบซองกระดาษทิ้งพงหญ้าข้างถนน
แล้วรีบขึ้นรถทันที แล้วเค้าก็เห็นว่ารถคันหลังที่เหมือนจอดสนิท
ก็ออกรถไปทันทีเช่นกัน เค้ารู้ได้ทันทีว่าเป็นแก็งค์ชิงรถแน่ๆ

แก็งค์พวกนี้จะใส่ยาหรือสารที่ทำให้เรางง มึน ไว้ในรถบ้าง ข้างรถบ้าง
ที่เราเห็นชัดเจน (ตามปกติคนเรามักจะสงสัยและหยิบมาเปิดดู)
แล้วก็จอดรถซุ่มดูอยู่ใกล้ๆ เมื่อเหยื่อหลงกลเปิดดูหรือจับโดนสาร
ก็จะชิงรถและของมีค่าไป


                  ฝากเตือนเพื่อนๆ ทุกคนโดยเฉพาะผู้หญิงที่ขับรถคนเดียว

Source - fw mail
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline Mokan

  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 771
  • Winning isn't everything, it's the ONLY thing!!!
ระวังตัวไว้ก่อน ปลอดภัยสุด

-เตรียมกุญแจพร้อมไว้เสมอเวลามาขึ้นรถ ไม่ใช่มาหาเอาข้างรถ
-ดูว่ามีใครอยู่ใกล้ๆรถเรา หรือ เดินตาม หรือ เดินสวน รักษาระยะห่างเอาไว้เสมอ
-ขึ้นรถได้ ล๊อครถ สตาร์ทเครื่องทันที อย่ามัวแต่หาของรึโทรศัพท์รึแต่งหน้าทาปาก
-ออกรถจากช่องจอดให้ไว ไม่ใช่มัวโอ้เอ้
-มีใครไม่รู้จักมาใกล้หรือพูดด้วย อย่าลงจากรถหรือเปิดกระจกเด็ดขาด
-ถ้ามันขวางหน้ารถ ชนแม่งเลย ทับได้ก้อทับไป มันตายดีกว่าเราตาย
-ถ้ามีเรื่องระหว่างรถกับรถ พยายามขับต่อไปให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่าหยุด ถ้าต้องชนก้อชน แต่อย่าหยุด จนกว่าจะเข้าเขตชุมชนหรือเจอตำรวจ

สุดท้าย อย่าทำตัวให้เป็นเหยื่อ
In racing, you either lead or follow or GETTA HELL OUT OF THE WAY!!!!

RetroDrifter

  • Guest
เมื่อ 2ปีที่แล้ว เคยเจอ ประมาณ เกือบเที่ยงคืน เส้น มวกเหล็ก-สระบุรี
มีรถNV จอดข้างทางเปิดฝากระโปรง 1 คัน มีผู้หญิงสวยมาก มายืนโบกมือขอความช่วยเหลือ
เลยชะลอจะจอดช่วย
แต่มองข้างทางพอดี เห็น ผู้ชาย 2 คน นั่งยองๆ หลบหลังพุ่มไม้ กำลังมองและเตรียมออกมาจากพุ่มไม้
ผมก็เลย รีบขับหนีออกมาแล้ว โทรแจ้ง ตำรวจทางหลวง
น่ากลัวมากครับ ถ้าจอด อาจถึงตายได้เลย
เจอแบบนี้ ต้องสังเกตดีๆครับ และ  เตรียมพร้อม  ห้ามหื่นจนลืม เด็ดขาด

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
วันที่ 19 เราขับรถจากกรุงเทพ มุ่งไปอุทัย เพื่อไปทำบุญฯ ไหว้ครู พอเลยด่านบ้านตึก ไปสองกิโล เค้าเรียกว่า บ้านตึก เราถูกมอเตอร์ไซด์ ชาวบ้านแถวนั้น ปาดหน้ากระชั้นชิด

เราเบรคสุดตัว ทำให้รถของเราเสียหลักพพุ่งประทะ เกาะกลางถนน หมุนคว้างกลางถนนสายเอเชีย โชคดีมากที่ถนนว่างไม่มีรถมาปะทะซ้ำรถของเรา ไม่งั้น เราต้องตายคารถแน่นอน

รถของเราเสียหายพอสมควร แต่เราและเพื่อน ปลอดภัย ไม่บาดเจ็บอะไร ตำรวจทางหลวงน่ารัก และดีมาก ช่วยเราและเพื่อนอย่างดี กราบขอบคุณนายตำรวจทั้งสามท่าน

สิ่งที่เราสงสัย เราคิดว่า เรากำลังโดนทำร้ายเพื่อชิงทรัพย์ เพราะตอนที่เราขับรถมาถนนว่าง เราขับรถมาแบบเรื่อย ความเร็วอยู่ที่ 100-110 และขับอยู่เลนกลาง จู่ ๆ รถมอเตอร์ไซด์ที่ไหนไม่รู้ ขับมาเทียบและปาดเราแบบกระชั้นมาก แถมปาดแล้วไม่เข้าเลนขวา เพื่อกลับรถ แต่ยังขับอยู่ในเลนเราระยะกระชั้น ขับแบบสบาย ๆ ไม่เร็วเกิน และไม่ช้า อยู่ในระยะที่ให้คนขับรถที่ถูกปาดกลัวจะไปชน มีเทคนิคมาก ซึ่งก็ทำให้เรากลัวไปชนมาก จึงรีบ แตะเบรคกระทันหันอย่างเร็ว จึงทำให้รถเราเสียหลักไปปะทะเกาะกลาง และหมุนคว้างกลางถนนเช่นนั้น มันผิดวิสัยคนปาดเพื่อเข้าเลนขวาสุด เพื่อไปกลับรถ แถมเมื่อรถเราพุ่งชน เค้าไม่หันกลับมาเลย และไม่รู้ขับหายไปไหน??

ความสงสัยลำดับสองคือ เมื่อเราเอารถเทียบข้างทาง มีชาวบ้านขับมอเตอร์ไซด์มาทันที เห็นเราคุยกับเพื่อนกับอยู่ถามเราว่า "ไม่เป็นอะไรเหร๊อ" ย้ำถามสองครั้ง และก็ถามว่า มาแค่ผู้หญิงสองคน?? คือคำถามนี้ เราแปลกใจ นะ เพราะคนเราน่าจะถามว่า เป็นอะไรหรือป่าว เจ็บตรงไหนไหม?? คำถามมันแปลก ๆ นะ

พอเรามาทบทวนหลังเหตุการ์ณ ทำให้เราค่อนข้างแน่ใจว่า น่าจะเป็นแผนทำให้เกิดอุบัติเหตุ แล้วชิงทรัพย์ เราเล่าให้ญาติ ๆ บอกว่า แถวนั้นเป็นเขตโจร มันจะลงมือกับเหยื่อตอนถนนว่าง และไม่มีรถตาม ต้องการให้เหยื่อบาดเจ็บ แล้วลงมือรูดทรัพย์

เพื่อน ๆ ต้องระวังนะ ถ้าเดินทางสายเอเชียไปเหนือช่วงนี้ โดยเฉพาะช่วงที่เราเจอ คือเลยด่านบ้านค่าย ตรงแถววัดศรีมงคล อันตรายมาก เพราะถ้ามีรถตามหลังมา เราต้องตายแน่ หรือถ้ารถพลิกคว่ำตกข้างทาง ก็คงเจ็บหนัก ตำรวจทางหลวงบอกเราว่า ชาวบ้านแถวนี้ ชอบขับรถปาดหน้าเพื่อกลับรถ ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อย มีคนตายตรงนั้นร้อยกว่าศพแล้ว เราขนหัวลุกเลย เพราะตรงที่เกิดเหตุมีศาลเพียงตาเล็ก ๆ ตั้งอยู่ด้วยแหละ

ท้ายสุด ขอกราบขอบพระคุณ คุณพระศรีรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยลูกพ้นภัย แคล้วคลาด มา ณ โอกาสนี้ เลยเขียนเพื่อเตือนให้เพื่อน ๆ ระวังนะ เดี๊ยวนี้ภัยมันมาแบบคาดไม่ถึง

จากคุณ : ลูกหลวงพ่อฯ -

Source - pantip.com
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
สวัสดีเพื่อน ๆ พี่ๆ ทุกคน

   ด้วยความเป็นห่วงเพื่อน ๆ พี่ ๆ ทุกคน โดยเฉพาะผู้หญิง  หมวยมีประสบการณ์ภัยใกล้ตัวที่น่ากลัวและเมื่อนึกขึ้นทีไร ก็เป็นเรื่องน่ากลัวในจิตใจทุกที  จึงอยากจะมาเล่าประสบการณ์ให้ได้รู้และได้ระวังกัน  ในความชั่วร้ายของรถ Taxi   เรื่องมีอยู่ว่า

   คืนวันพุธที่ 30 เม.ย. 2551 ที่ผ่านมา  หมวยไปยืนรอรถ taxi  ที่หน้าสนามกีฬาแห่งชาติ (ข้าง MBK) เวลาประมาณ 4 ทุ่มกว่า ๆ  หมวยยืนรอ taxi อยู่นานมากๆๆ แต่ก็ไม่มี taxi คันไหนไปซักคัน (หมวยจะไปปิ่นเกล้า) ซักพักก็มี taxi (ยี่ห้อ toyota soluna รุ่นเก่า สีฟ้า ถ้าจำไม่ผิด)  วิ่งมาจอดตรงหน้า  และมันก็รับหมวยขึ้นรถไปโดยเส้นทางที่มันพาเราไปก็คืน วิ่งตรงไปตรงสะพานยศเส  แล้วก็เลี้ยวขวาผ่านตรงตลาดโบ๊เบ๊  ก็นึกในใจว่าเราเป็นผู้หญิงคนเดียวขึ้น taxi1 ดึก ๆ คนเดียวก็อันตรายเหมือนกันนะ (นึกถึงเรื่องที่เคยอ่าน mail ว่ามีคนถูก Taxiรมยาสลบ และล่าสุดน้องอุ๋ม (เพื่อนที่ทำงานปัจจุบัน) นั่ง taxi ตอนกลางวันแล้วเจอ taxi มันเร่งเครื่องยนต์ขณะรถติดก็อาจเป็นได้ว่ามันกำลังคิดการไม่ดี  น้องอุ๋มก็เลยลงรถ )  ก็เลยหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาแฟน  ก็บอกแฟนว่า "ขึ้นรถ taxi แล้วนะอีกประมาณครึ่งชั่วโมงคงถึงบ้านแล้วล่ะ" ในใจก็หันไปมอง กท รถที่เคยเห็นในรถ taxi ทั่วไปมี
จะบอกแฟนว่าขึ้นรถ taxi กท อะไร  ก็เห็นแค่ว่า " ทพ " แต่ไม่มีเลยทะเบียน  ก็เริ่มเอะใจ
1 อย่างแล้ว  แล้วในขณะที่หมวยพูดกับแฟน  ไอ้คนขับ taxi ชั่ว มันก็เหมือนสะดุ้งตกใจ แล้วก็หันมามองเรา  ซึ่งขณะนั้น taxi วิ่งผ่านตรงตลาดโบ๊เบ๊  พอรถเลี้ยวซ้ายเข้าตรง ธ.กรุงไทยสะพานขาว เพื่อที่จะมุ่งหน้าตรงไปสะพานผ่านฟ้า (ราชดำเนิน)  ไอ้ taxi มันก็หันมามอง
หมวยอีกที  แล้วมันก็หันกลับไป ทันใดนั้นมือที่มันจับที่เกียร์รถยนต์ก็เหลือแค่ 3 นิ้ว (กลาง นาง ก้อย) ส่วนอีก 2 นิ้ว (นิ้วชี้กับนิ้วโป้ง) มันไปกดอะไรบ้างอย่างที่เป็นเหมือนช่องแอร์พิเศษที่รถ taxi คันอื่น ไม่มี (เท่าที่เคยสังเกตได้)แล้วมันก็เร่งแอร์ขึ้น เราเห็นพฤติกรรมมันเราก็เริ่มเตรียมตัวแล้วว่าอาจจะเกิดอะไรขึ้น หลังจากนั้นไม่นาน เท่าที่จำความได้ประมาณ
1นาทีผ่านไป ก็รู้เลยว่าถูกไอ้ taxi ชั่วมันรมยาสลบแน่ๆ ความรู้แรกเลยคือ ความชามันเริ่มมาจากตรงท้อง ไล่มาตรงหน้าอก และสุดท้ายที่จำความรู้สึกได้คืนรู้สึกหน้ามืด หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก หายใจถี่ เหมือนจะหมดสติ ในทันใดแต่ก็ตั้งสติได้ก็บอกไอ้คนขับว่าให้จอดข้างหน้าเลย (ก่อนที่จะบอกคนขับให้จอด มือก็เปิดล็อกประตูแล้วก็ที่จะบอกมัน)
แล้วมันก็ชะลอรถแล้วถามว่าทำไม หมวยก็บอกว่า " จอดแล้วกัน หายใจไม่ออก ถ้าไม่จอดจะกระโดดลงแล้วนะ" มันก็ไม่ถึงกับจอดสนิท แต่หมวยก็ดันประตูรถออกมาแล้วก็กึ่ง ๆ กระโดดลงออกมาจากรถ   และจากสติที่ใกล้จะหมดแล้วได้ยินมันพูดว่า " จะลงทำไมล่ะครับ ผมไม่ได้ทำไรคุณนะ แอร์รถผมก็เย็น" แล้วก็เหมือนได้ยินมันทวงค่า taxi ก็เลยโยนให้
มัน จำได้ว่า 50 บาท (ทุกคนที่ฟังเราเล่าบอกว่าไปให้มันทำไม)  ในขณะที่กระโดดลงรถ  ก็ลงมานั่งยองๆ เพื่อตั้งสติ มองเห็นอีกทีก็เห็นตัวเองอยู่กลางสี่แยกหลานหลวง และฝั่งตรงข้ามที่ลงมีป้อมเล็ก ๆ ที่ตอนแรกคิดว่าเป็นป้อมตำรวจ ก็แข็งใจวิ่งข้ามทางม้าลายไปตรงป้อมนั้น ปรากฎว่าเป็นแค่ป้อมจราจรที่ไม่ตำรวจอยู่เลย  และแล้วก็มีชายคนนึงเดินผ่านหน้า
ก็ร้องให้เค้าช่วย เค้าก็เข้ามาถามว่าเป็นอะไร  ก็เล่าเหตุการณ์ให้เค้าฟัง เค้าก็นั่งเฝ้าเราซักฟักจนเราเริ่มมีสติ หมวยก็กด 191 ก่อนเลยเป็นอันดับแรก ไม่ต้องหวังเลยค่ะว่าจะโทรติด  แต่ในขณะนั้นร่างกายอ่อนแรงมาก ๆ ผู้ชายคนนั้นก็เลยบอกว่าโทรหาแฟนคุณดีกว่าไม๊ ผมจะรอเป็นเพื่อน (จริง ๆ แล้วผู้ชายคนนั้นก็หน้าตาน่ากลัวเหมือนกัน)  ก็เลยโทรหาแฟน
แฟนก็บอกให้พ่อของแฟนมารับกลับบ้าน (บ้านพ่อแฟนอยู่โบ๊เบ๊) ในระหว่างรอพ่อแฟนมารับ ผู้ชายคนนั้นเค้าก็รอเป็นเพื่อนนะ แล้วก็บอกให้หมวยไปรอตรงที่คนเยอะ ๆ สว่าง ๆ แต่จะบอกว่าแถวนั้นเป็นบริเวณที่เปลี่ยวมาก ๆ เพราะเป็นย่านค้าขาย ทุกคนปิดบ้านหมดและเงียบสนิท ดีหน่อยก็เพราะว่ายังมีรถวิ่งพลุกพล่าน  แต่ก็ไม่มีอะไรดีกว่าไปยืนริมถนน ก็เลยไปยืนให้ใกล้ริมถนนที่สุดซึ่งมีรถวิ่งผ่านไปมา  ในใจก็แอบกลัวผู้ชายคนที่นั่งอยู่ด้วย พอมีสติก็เลยบอกเค้าว่าไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวรอพ่อมารับกลับบ้านแค่ 15 นาทีพ่อก็มาถึง  แล้วผู้ชายคนที่เค้ารอเป็นเพื่อนเค้าก็เดินจากไปแล้วก็ยืนรอดูเราอยู่ไกล (เหมือนเค้าจะรีบไปแต่
เค้าก็ยังรอดูเราก่อนด้วยความเป็นห่วง เราคิดไปเองว่าเค้าอาจไม่ดี) 
   พ่อแฟนก็รับกลับบ้าน แล้วก็กะว่าจะพาไปแจ้งความที่ สน.นางเลิ้ง (พื้นที่เกิดเหตุ)
แต่สภาพหมวยตอนนั้นก็แย่มาก เพราะเหลือแค่สติอันน้อยนิด ส่วนร่างกายหมดแรงไปเลย
และในที่สุดก็ไม่ได้ไปแจ้งความ  เพราะหมวยก็จำ กท.รถไม่ได้เลย

   เช้าวันที่ 2 เมษายน เปิดทำงานหลังจากหยุดวันแรงงานไป 1 วัน  ก็ได้มาเล่าเหตุการณ์ให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่ทำงานฟัง  ทุกคนลงความเห็นว่าให้ไปแจ้งความ  เพราะอาจมีวงจรปิดบริเวณแถวสี่แยกก็ได้ ก็กะว่าตอนเย็นจะไป    พอตกเย็นก็นั่งเขียนเรื่องเตือนภัยนี้
กะว่าจะส่งให้เพื่อน ๆ พี่ๆ ที่รู้จักอ่านเพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจ    นายที่อยู่ในห้องได้ฟังเรื่อง
ก็เลยอาสาพาไปแจ้งความ นายบอกว่ารู้จักกับรอง ผกก. ก็เลยไปแจ้งความในเย็นวันนั้น
ก็เล่าเหตุการณ์ให้รอง ผกก.ท่านนั้นฟัง  ท่านก็ให้ร้อยเวรทำการบันทึกประจำวันไว้ให้ 
แล้วในขณะนั้นท่านก็เล่าให้ฟังว่ามีคนมาแจ้งความเรื่องแบบนี้บ่อยในช่วงนี้  ซึ่งก็เป็น taxi
ที่รับผู้โดยสารจากบริเวณเดียวกัน  ท่านก็เห็นว่าเรื่องของหมวยน่าจะเป็นประโยชน์กับ
คนอื่น  ท่านก็เลยต่อสายโทรศัพท์ไปยัง สถานีวิทยุรายการ สวพ.91  เพื่อที่จะให้หมวยเล่า
ประสบการณ์ออกรายการวิทยุ  แต่พอดีวันนั้นฝนตกและการจราจรติดมาก ๆ เค้าไม่มีช่วง
เวลาให้ออกรายการ  ก็เลยไม่ได้เล่า  ท่านก็เล่าว่าน่าเสียดายที่หมวยไม่ได้ไปแจ้งความตั้งแต่
วันที่เกิดเหตุ  เพราะถ้ามาแจ้งความก็อาจจะพาไปตรวจร่างกายว่า ยาสลบที่คนร้ายใช้ เป็น
ยาสลบประเภทไหน จะได้เป็นข้อมูลให้ตำรวจต่อไป  (เพราะยาสลบที่คนร้ายใช้ หมวยรู้สึกได้เลยว่ามันเร็วมากหลังจากที่มันเอื้อมมือไปกดยาประมาณแค่ไม่ถึง 1 นาที หมวยก็หมดแรงแล้ว ไม่อยากคิดต่อเลยว่า ถ้าหมวยตัดสินใจช้ากว่านั้น ไม่ตัดสินใจที่จะกระโดดลงมา
ก็คงหมดสติไปในทันใดแน่เลย) 
   ก็เลยแอบเป็นห่วงเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่รู้จัก และช่วยบอก ๆ ต่อๆ เพื่อจะได้เป็น
ข้อเตือนภัยให้กับคนรู้จักต่อไป  (เพราะที่หมวยรอดมาได้ก็เพราะจาก mail ที่ได้รับมา
ในทำนองนี้ที่เคยได้อ่านเหมือนกัน)
   ข้อสังเกตและข้อควรระวัง
1.   ถ้าไม่จำเป็นอย่าขึ้น taxi คนเดียว  แต่ถ้าจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ก็ให้โทรหารคนรู้จัก แล้วก็บอกเลข กท taxi ที่เราขึ้นให้เค้าได้รู้ 
2.   จากสถิติที่ได้นั่งคุยกับตำรวจ  ถ้าเป็น taxi เก่าก็ควรระวัง และให้สังเกตป้าย
กท. บนรถ ถ้าไม่มีให้พึงระวังว่าไม่ควรขึ้น
3.   จากการสังเกตเอง taxi ต้องสงสัยจะมีช่องแอร์พิเศษ อยู่บริเวณใกล้ ๆ เกียร์
เพื่อเวลาเค้ากดยาแล้ว เราจะได้ไม่ทันสังเกต
4.   ขณะนั่งรถอยู่ถ้าคนขับมีปรับเร่งแอร์ หรือเร่งเครื่องยนต์ (ขณะที่รถติด)  ให้ตั้งเป็นข้อสังเกตไว้ว่าไม่น่าไว้วางใจ

สุดท้ายหากใครได้รับ mail นี้ช่วยส่งต่อ ๆ ให้ทุกคนที่รักและรู้จักด้วยนะคะ
เพราะไม่แน่ใจว่าจะมีใครอีกกี่คนที่โชคไม่ดีเหมือนหมวยที่รอดชีวิตมาได้

Source - fw mail
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
อ่านไว้จะได้ระวังตัว คัดลอกจาก ตามล่ามาเล่า : ประไพพัตร โขมพัตร นิตยสารดิฉันภัยมืด


 
ผู้หญิงคนหนึ่งนั่ง อยู่บนสถานีตำรวจก้มหน้านิ่งตลอดเวลา
 
ใบหน้าเธอซีดขาว บางครั้งก็เหม่อลอย แววตาหมดหวัง และบางครั้งหมดอาลัยตายอยากในชีวิต
 
ขณะนั้นเป็นเวลาเกือบตี 2 แล้ว ท่าทางของเธอสะดุดในผู้หญิงอีกคนซึ่งอยู่ที่นั่นด้วย
 
จนอดไม่ได้ที่จะหา โอกาสเข้าไปพูดคุยด้วยความสงสัย ผู้หญิงทั้งคู่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน
 
แต่เหตุที่ต้องมาอยู่บนสถานีตำรวจในเวลาเดียวกัน ก็เนื่องจากอุบัติเหตุรถชนกัน!
 
เป็นการเฉี่ยวชนแล้วพยายามขับหนี แต่ไม่พ้นการจับกุมของเจ้าหน้าที่ที่อยู่บริเวณดังกล่าวได้
 
เธอซึ่งเป็นผู้เสียหายให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
 
จนเมื่อถึงเวลาสอบปากคำอีกฝ่าย เธอพยายามเข้าไปพูดคุยกับผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้วยความสงสัย
 
ตอนแรกคิดว่าอาจจะกลัวหรือตกใจที่แฟนตัวเองพยายามหลบหนี หรือกังวลกับคดีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
 
จึงบอกว่า ถ้าชดใช้ค่าเสียหาย ก็จะไม่เอาความใดๆ แต่ยังไม่ทันที่จะพูดอะไรไปกว่านั้น
 
ผู้หญิงคนนั้นก็ร้องไห้ออกมาอย่างน่าตกใจ พร้อมทั้งเล่าให้ฟังว่า ไม่ได้เป็นอะไรกับผู้ชายคนนั้น
 
ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเลย อากัปกริยาเช่นนี้ยิ่งทำให้น่าสงสัยมากขึ้นกว่าเดิม
 
และยิ่งทำให้ต้องปลอบโยน เพื่อหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นแน่
 
ด้วยความเป็นผู้หญิงด้วยกัน ทำให้ใช้เวลาไม่นาน
 
เรื่องราวทั้งหมดก็ถูกถ่ายทอดออกมา เธอบอกว่ากำลังถูกผู้ชายคนนั้นจับตัวไว้เหมือนกัน
 
เธอกลัวมากและอายมาก และกำลังช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้น กับสิ่งที่เกิดขึ้นจนทำอะไรไม่ถูก
 
เมื่อเธอเล่าจบ ทำให้ผู้ฟังรีบเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจให้จับกุมชายคนนั้นไว้ทันที
 
ผู้หญิงคนนี้เป็นผู้โชคร้าย ความจริงบ้านของเธออยู่ที่จังหวัดนครปฐม
 
ในขณะที่เธอกำลังขับรถกลับบ้าน เป็นเวลา 3 ทุ่ม ก็มีรถจักรยานยนต์คันหนึ่งขับมาชนท้าย
 
ผู้ขี่จักรยานยนต์เป็นผู้ชายคนหนึ่ง รีบจอดรถลงมาดูความเสียหาย และขอโทษขอโพยเธอเป็นการใหญ่
 
พร้อมทั้งบอกว่า ไม่ต้องกังวล จะชดใช้ค่าเสียหายให้
 
และพร้อมจะไปตกลงที่สถานีตำรวจด้วยท่าทางที่สุภาพนอบน้อม
 
ทำให้เธอไม่รู้สึกกลัว และยินดีที่จะไม่เอาเรื่อง หากชดใช้ค่าซ่อมรถที่มีรอยบุบเพียงเล็กน้อย
 
ชายคนนั้นบอกให้เธอขับรถตามเข้าไปยังอู่ซ่อมรถที่อยู่ไม่ไกล เพื่อให้ช่างตีราคาและตกลงค่าซ่อม
 
แต่ระหว่างทาง ขอนำรถมอเตอร์ไซด์เข้าไปเก็บที่บ้านก่อน เพราะรู้สึกว่าเครื่องยนต์เริ่มมีปัญหา
 
เธอก็ขับรถตามไปจนถึงปากทางเข้าบ้าน และนั่งคอยอยู่ที่รถ
 
ชายคนนั้นกลับออกมาพร้อมชายคนหนึ่ง เปิดประตูและขึ้นนั่งประกบทันที
 
ดันตัวเธอไปนั่งตรงกลาง ใช้มีดบังคับให้นั่งเฉยๆ และขับรถเข้ามากรุงเทพฯ
 
ถึงธนาคารแห่งหนึ่งบริเวณงามวงศ์วาน ก็จี้ตัวเธอลงไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม
 
ได้เงินจำนวนที่ธนาคารกำหนดให้กดจากตู้ในวงเงินเท่านั้น
 
แต่เมื่อเห็นเงินในบัญชียังมีเหลืออีกมาก จึงยังไม่ปล่อยตัวไปง่ายๆ
 
กันตัวไว้ รอเวลาให้เลยเที่ยงคืน แล้วจะกดเงินจากตู้เอทีเอ็มอีกครั้ง
 
ในช่วงการรอคอยเวลา ก็ขับรถมาแถวถนนลาดพร้าว เลี้ยวเข้าไปในโรงแรมม่านรูด
 
และผลัดกันข่มขืนเธอหลายครั้ง แล้วก็สั่งอาหารรวมทั้งเบียร์มาดื่มกินในห้อง
 
จนมีอาการมึนเมา แล้วก็ข่มขืนอีก จนกระทั่งตี 2
 
ชายคนหนึ่งจึงขับรถพาเธอมา บังคับให้กดเงินให้อีก
 
โดยให้สัญญาจะปล่อยตัวไป หากได้เงินที่ต้องการแล้ว
 
ยังไม่ทันที่จะถึงธนาคาร ชายคนนั้นก็ขับรถชนท้ายรถคันหนึ่งที่อยู่ข้างหน้าเสียก่อน
 
แล้วพยายามหลบหนี จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้
 
เจ้าหน้าที่ตำรวจพาไปจับเพื่อนร่วมแก๊งอีกคนที่นอนคอยอยู่ในโรงแรมได้ และพาตัวมาสอบสวน
 
ทั้งคู่รับสารภาพว่า ทำอย่างนี้กับผู้หญิงมาแล้วหลายครั้ง
 
ส่วนใหญ่จะตระเวนมองหารถที่มีผู้หญิงขับเพียงคนเดียว
 
และมักจะหาเหยื่อตามจังหวัดที่อยู่รอบๆกรุงเทพฯ
 
ผู้หญิงส่วนใหญ่อาย ไม่กล้าแจ้งความ กลัวเสียชื่อเลย ทำให้ยิ่งได้ใจ

Source - Fw mail
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
ระวั ง ห้องน้ำปั๊ม!!

ระวังห้องน้ำในปั้มและรถที่ขับตามมา
ด้วยความปรารถนาดีและห่วงใย โปรด Fw:
ต่อให้กับคนที่ท่านรักและห่วงใยต่อไป
สัตว์โลกทั้งหลายพึงตั้งอยู่บนความไม่ประมาท
ความตายอยู่รอบตัว
เขาเคยคิดว่าภาพข่าวอาชญากรรมที่มีให้เห็นบนน.ส.พทุกวันเป็นเรื่องไกลตัว
จนกระทั่งกลางดึกคืนหนึ่ง
ในห้องน้ำของปั๊มน้ำมันที่เปิดไฟฟ้าสว่างไสว
วิชชุ เศรษฐกนก
ศิลปินฝึกหัดของบริษัท
Aratist ในเครือแกรมมี่กรุ๊ป
จึงตระหนักว่า
ไม่ว่าใครก็มีโอกาสตกเป็นเหยื่อของอาชญากรได้พอๆกัน
วันที่เกิดเหตุผมไปคุยเรื่องงานดนตรีกับพวกเพื่อน ๆ และพี่ ๆ
ที่พรีเมียร์พระราม 9 คุยเสร็จเกือบตีสาม
ปกติก็ไม่ได้กลับดึกขนาดนั้น
แต่วันนั้นคุยกันค่อนข้างซีเรียสเลยใช้เวลานาน
คุยเสร็จต่างคนต่างแยกย้ายกลับบ้าน
ผมขับรถเกือบจะถึงบ้านแล้ว
ผ่านปั๊มแห่งหนึ่งก็เลยแวะเข้าไป จริง ๆ
แล้วไม่ถึงกับอยากเข้าห้องน้ำขนาดทนไม่ได้
แต่อยากซื้อขนมกับ ไอศกรีมไปกินที่บ้านมากกว่า
ตอนนั้นไม่มีรถคันอื่นเข้ามาเติมน้ำมันเลย
ผมขับไปจอดหน้ามินิมาร์ทเข้าไปซื้อของเสร็จ
คิดว่าเข้าห้องน้ำล้างหน้าหน่อยดีกว่า
ก่อนจะเข้าห้องน้ำ ก็เดินไปล็อครถก่อน
ห้องน้ำของปั๊มอยู่ข้างหลังมินิมาร์ท
ไม่มีใครในห้องน้ำเลย
แต่ไฟสว่างมากเพราะเป็นไฟนีออน
กำลังจะรูดซิปกางเกงก็ได้ยินเสียงตึง...
เป็นเสียงคนเดินเข้ามา
พอเอี้ยวตัวไปมองก็เห็นปืนจ่ออยู่ตรงหน้า
ความรู้สึกแรกคือไม่อยากเชื่อว่าถูกปล้น
แต่พอได้สติก็รู้ว่านี่ของจริง...
จังหวะนั้นมันเร็วมาก
พอผมเอี้ยวตัวไป
เห็นคนเดินตามหลังมาอีกสองคน
คนถือปืนก็ขึ้นลำ ปืน
แล้วพูดด้วยเสียงดุ ๆ
ว่า... ถ้ามึงไม่อยากตายหันหลังไป พอผมหันกลับ
เขาก็ผลักผมกระเด็นไปติดกำแพงห้องน้ำ
แล้วเอาด้ามปืนตบที่ท้ายทอยซ้อนกันหลายครั้ง
ผมบอกเขาว่า.พี่อยากได้อะไร..เอาไปเลยหวังว่าเขาคงจะไม่ทำอะไรร้าย
แรง
แต่ปรากฎว่าเขาไม่สน
ทุบเอาอีก...
แล้วอีกคนก็เข้ามาจับมือผมไปไพล่หลัง
ได้ยินเสียงแกะเทปกาวดังแควกก่อนจะเอาเทปนั้นมัดมือผมไว้พอมัดเสร็จ
ก็จับตัวผมหันมา
จากนั้นก็ต่อยที่ท้องผมอย่างแรง
หมัดเดียวแต่จุกมาก
จนผมทรุดลงไปนอนตัวงออยู่กับพื้น
ต่อจากนั้นเขาก็จับขาผมรวบให้นั่งบนพื้น
แล้วทำท่า เหมือนจะเอาเทปมามัดที่เท้า
แต่เปลี่ยนใจเป็นมาพันที่หน้าก่อน
เริ่มจากปิดตา ปิดปาก
ตอนปิดปากเขาปิดจมูก
ไปด้วย
ผมพยายามร้องว่าหายใจไม่ออก
แต่เสียงมันดังออกมาแค่อือๆ
เท่านั้น
โชคดีว่าพันไม่แน่นมากยังมีช่องเหลือให้หายใจได้
หลังจากนั้นมันก็เอาเทปมามัดเท้าต่อ
ก่อนค้นตัวเอากุญแจรถไป
แล้วทุกอย่างก็เงียบ
ตอนแรกผมคิดว่าพวกเขาคงทิ้งผมไว้
เอาแต่รถไปอย่างเดียวรออีกเดี๋ยวค่อย ๆ
กลิ้งออกไปหาคนช่วยก็ได้
แต่ยังไม่ทันจะโล่งใจเลย
ก็รู้สึกว่าตัวเองถูกยกลอยขึ้น
ตอนนั้นตกใจสุดขีดเลย
ตกใจกว่าตอนเห็นปืนอีก
เพราะคิดว่าคราวนี้คงต้องถูกเอาไปยิงทิ้งแน่
ผมดิ้นสุดชีวิตเลยโดนอัดหรือเตะไม่รู้แน่เข้า
หลังจากนั้นมันไม่เชิงว่ามีสติตลอด
มันกึ่งรู้สึกตัวกับไม่รู้สึกตัว
เนื่องจากถูกมัดตาเอาไว้
ทำให้ไม่รู้ว่าเค้าอุ้มไปไหน
รู้สึกว่าหลังแตะอะไรสักอย่าง
คิดว่าน่าจะเป็นรถเพราะพอวางเสร็จรถก็ออกตัวตอนนั้นนึกถึงพ่อแม่.
ท่านจะอยู่อย่างไร
เพราะผมเป็นลูกคนเดียว
แล้วก็นึกถึงพระปลงว่าท่าจะไม่รอดรถวิ่งไปได้ซักพักก็หยุด
รู้สึกตัวว่าถูกยกลอยขึ้น
ก่อนจะถูกโยนโครมลงไปที่หญ้าคาดว่าคงเป็นข้างทางที่ไหนซักแห่ง
กลั้นใจว่าจะโดนอะไรอีกไหม
รู้สึกว่าจะถูกเตะเข้าที่กลางลำตัวอีกสองครั้ง
จากนั้นก็ได้ยินเสียงรถขับออกไป...
เขาคอยจนแน่ใจว่าพวกนั้นไปแล้ว
แล้วก็พยายามแกะเทปแล้วตะกายไปขอความช่วยเหลือ
มีคนขับรถผ่านมา ช่วยเขาพาไปส่ง
ร.พ. ไปนอนไอ.ซี.ยู 1 คืน
เค้าบอกว่าพ่อแม่เคยเตือนแล้วว่าการขับรถกลับบ้านดึก
ให้ระวังคนขับรถมาชนอาจเป็นโจร.............
คนๆนี้โชคดีกว่าหลายคนที่เค้ายังกลับไปหาพ่อแม่ของเค้าได้...โลกนี้มันมีีทั้ง
เรื่องที่ดีงาม แล้วก็เรื่องที่ไม่ดี
มันเป็นโลกแห่งความจริง
ขอให้ระวังตัวอย่าชะล่า
หลาย ๆ คนคิดว่า... ไม่เป็นไรแค่นี้เอง แต่แค่นี้เองนั้น
มันเท่ากับเราได้เอาตัวของเราทั้งชีวิตเข้าไปเสี่ยงซะแล้วถึงแม้จะไม่ห่วงตัว
ก็ขอให้คิดถึงคนที่บ้านคนที่เป็นห่วงเราด้วยละกัน..
ป.ล. ถ้าเป็น ญ.
ก็อาจจะเสีย
ทั้งกายทั้งใจ
ส่งต่อให้คนดีๆด้วย

Source - Fw mail
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline ToppyRacingClub

  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 1382
>> ระวัง ยางรถแบนในห้าง
>>
>> เมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมามีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ที่ทางเข้าห้างสรรพสินค้า
>> แจกใบปลิวให้กับสตรีทุกคนที่ผ่านเข้าไป
>> ข้อความบนใบปลิวนั้นเธอเขียนขึ้นเองโดยเล่าประสบการณ์ที่เธอได้รับเพื่อจะเตือนสตรีคนอื่นๆ
>> เมื่อวันก่อนหญิงผู้นี้ซื้อของเสร็จก็กลับออกไปที่รถและพบว่ายางรถของเธอแบน
>> เธอจึงเอาแม่แรงออกมาจากท้ายรถและเริ่มลงมือเปลี่ยนยาง
>> ขณะนั้นก็มีชายคนหนึ่งแต่งตัวดีท่าทางเป็นนักธุรกิจ
>> ถือกระเป๋าเอกสารเดินตรงมาที่เธอและพูดว่า  “
>> ผมสังเกตเห็นว่าคุณกำลังเปลี่ยนยางรถอยู่ จะให้ผมช่วยไหม  ? ”
>> หญิงคนนั้นรู้สึกของคุณมากและยอมรับความช่วยเหลือ
>> ขณะเปลี่ยนยางเขาก็พูดคุยกันอย่างเป็นมิตร
>> เมื่อเปลี่ยนยางเสร็จก็เก็บยางที่แบนและแม่แรงไว้ท้ายรถ
>> หญิงคนนั้นก็กล่าวขอบคุณเขาอย่างมากมาย   และขณะท!
>> ี่กำลังจะก้าวขึ้นรถชายคนนั้นก็เอ่ยขึ้นว่าเขาทิ้งรถของเขาไว้อีกด้านหนึ่งของห้างและจะรังเกียจไหมถ้าขออาศัยติดรถไปที่เขาจอดรถไว้
>> เธอก็นึกฉงนขึ้นมาเล็กน้อยจึงได้ถามว่าแล้วทำไมรถของคุณถึงได้อยู่อีกด้านหนึ่งของห้าง
>> เขาก็อธิบายว่าเขาพบกับเพื่อนเก่าซึ่งไม่ได้พบกันมานานมากแล้วคนหนึ่งในห้าง
>> พวกเขาก็เลยไปหาอะไรทาน พูดคุยกันสักครู่
>> ตอนออกมาจากห้างก็ออกผิดทางและตอนนี้เขาก็สายมากแล้ว
>> ฝ่ายหญิงสาวก็ไม่อยากจะปฏิเสธเพราะเขาเพิ่งเข้ามาช่วยเหลือเธอเปลี่ยนยางรถ
>> แต่ขณะเ ดียวกันก็รู้สึกอึดอัดใจ (ออกจะเชื่อความรู้สึกของตนเอง)
>> แล้วเธอก็จำได้ว่าเห็นชายคนนั้นเอากระเป๋าเอกสารของเขาใส่ไว้ท้ายรถของเธอก่อนจะปิดท้ายรถและก่อนที่จะขอติดรถไปที่รถของเขา
>> ด้วยความฉลาดมีไหวพริบ
>> เธอจึงบอกเขาว่าเธอยินดีที่จะขับพาเขาไปเอารถแต่เธอเพิ่งนึกได้ว่าเธอลืมซื้อของสำคัญอีกอย่างหนึ่ง
>> เธอบอกว่าเธอจะใช้เวลา 2-3 นาทีเท่านั้นเอง และขอให้เขานั่งคอยเธอในรถก่อน
>> เธอจะรีบไปรีบมา
>> แล้วเธอก็รีบเข้าไปในห้างและเล่าให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยฟังถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
>> เจ้าหน้าที่รปภ.ก็ออกมาที่รถกับเธอแต่ชายคนนั้นไม่อยู่แล้ว
>> พวกเขาจึงเปิดท้ายรถดู
>> เอากระเป๋าเอกสารที่ล็อคอยู่ของชายคนนั้นไปที่สถานีตำรวจ
>> เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดดูโดยตั้งใจจะดูว่าเป็นของใครจะได้ติดตามคืนได้ถูก
>> สิ่งที่พบในกระเป๋าคือเชือก เทปกาว และมีด
>> และเมื่อตำรวจตรวจสอบยางที่แบนก็พบว่าไม่มีอะไรผิดปกตินอจากมันถูกปล่อยลมออกให้แบน
>> นี่ก็แสดงให้เห็นเจตนาของชายผู้นั้นอย่างชัดเจนและเขาได้คิดวางแผนไว้ล่วงหน้า
>> หญิงคนนี้โชคดีอย่างยิ่งที่รอดพ้นอันตรายมาได้
>> ลองมาคิดดูว่ามันจะเลวร้ายกว่านั้นขนาดไหนถ้าหญิงคนนั้นมีลูก   ๆ
>> มาด้วยและต้องนั่งคอยอยู่ด้วยในรถขณะที่ชายคนนั้นเปลี่ยนยาง
>> หรือถ้าหญิงคนนั้นมีลูกเล็ก ๆ ที่ต้องจับให้นั่งติดอยู่กับเก้าอี้เด็กในรถ
>>
>> Source - Fw mail

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
ด่านตำรวจ . . .
 
 

1193 โปรดจำ...ย้ำ

โปรดส่งต่อเยอะ...และกรุณาจำเบอร์โทรแจ้งด้วย ใครเจออย่างนี้...ลองโทรแจ้งดูครับ
ได้ผลอย่างไร Mail   บอกต่อกันด้วย 
มี พร่ำเพรื่อ...ตามรายทางเยอะมาก
               
 ข่าวสาร จากวงการตำรวจ   ที่ควรอ่าน

เวลาเจอด่าน (เถื่อน) คือ   ! มีแค่รถฉลาม 1 คัน จอดตามทางแยก หรือจุดยูเทิร์น   มีตำรวจทางหลวง 2-3 คน โดย 1 คน ยืนกลางถนนคอยโบกรถหรือฉายไฟให้รถเราแอบซ้าย   ตำรวจที่เหลือเป็นคนตรวจค้น ถ้าเจออย่างนี้ อย่าตกใจหรือชะลอความเร็วหรือหักพวงมาลัยไปตามท ี่มันโบก
ให้ตีไฟสูงไล่ แล้ววิ่งต่อไป มันไม่มีตาม   เพราะมันทำผิดกฎหมายการตั้งด่านจุดสกัด
จากนั้นโทรไปที่ 1193   แจ้งว่ามีกลุ่มคนคล้ายตำรวจทางหลวง   มีพฤติกรรมดังกล่าว   ให้ตรวจสอบด้วยว่า   เป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือเปล่าที่ไปกีดขวางการจราจร   หรือเป็นโจรที่ปลอมตัวไปดักปล้น

                           ทีนี้มาดูว่าด่านที่ถูกต้องเป็นเช่นไร....

ด่านที่ถูกต้อง   คือ   ต้องมีเครื่องหมายบอกล่วงหน้าเป็นระยะว่า ข้างหน้ามีด่านและมีสิ่งกีดขวาง   เช่น
กรวยสีส้ม   กรวยสีส้มตั้งเป็นระยะๆ   เพื่อบีบบังคับทิศทางการจราจรให้เหลือช่องเดียวนำไปยังจุดตรวจค้น ในจุดตรวจต้องมี นายตำรวจสัญญาบัตรประจำอย่างน้อย 1   คน   
ลึกไปกว่านั้นคือ   ทางต้นสังกัด(ในพื้นที่นั้นๆ)   จะต้องมี หนังสือสั่งการให้ตำรวจกลุ่มนี้ปฎิบัติหน้าที่
ก่อนปฏิบัติหน้าที่ตรวจ ตำรวจสัญญาบัตรที่ควบคุมชุดตรวจ จะต้องแจ้งทางวิทยุสื่อสาร   ไปยังศูนย์ควบคุมข่ายนั้นๆว่า   จะเริ่มปฏิบัติการตั้งจุดตรวจสกัด   และตรวจสกัดสิ่งใด   ตำแหน่งไหน วันเวลาเท่าไรถึงเท่าไร   ใครเป็นผู้ควบคุม   ด้วยกำลังพลทั้งหมดเท่าไร

หลังจากเลิกปฏิบัติหน้าที่   ตำรวจท่านนี้จะต้องสรุปผลการจับกุม-ตรวจค้นว่า พบ! สิ่งใดบ้างทางวิทยุสื่อสาร   ต่อเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมข่าย   จากนั้นจะต้องบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร   เสนอต้นสังกัด...เป็นอันจบ.

     ศึกษาไว้เป็นความรู้ครับ   อย่าให้ใครมาหากินกับเรา
                           
 ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์   มีหน้าที่ปัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชน
                                                           ตำรวจดี ๆ มีอีกเยอะ 

Source - Fw mail
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
เพื่อนส่งมา ผมเลยส่งต่อครับ
 
เหตุการที่ 1   ผมเคยประสบเหตุนี้แล้วกับตัวเอง ที่ถนนมเหศักดิ์ ซึ่งเชื่อม ถนนสาธรกับถนนสีลมเป็นเวลากลางวันระหว่างที่รถผมหยุดรอไฟเขียว มีชาย 2 คนเดินมาข้างหลัง ทั้งคู่กระตุกประตูหลัง คนละข้าง โชคดีที่ประตูล๊อกอยู่....1 ใน 2 คนนั้นพยายามดึงแรงขึ้นอีก แล้วทั้งคู่ก็เดินเร็วผ่านรถผม แล้วปนไปในฝูงชน เดี๋ยวนี้ เหตุร้ายเกิดได้ตลอด ไม่ว่ามืดหรือสว่าง เราคงต้องระวังอย่าเผลอเชียวละ

เหตุการณ์ที่ 2
ภรรยาผม จะมีนิสัยเมื่อขึ้นรถแล้วต้องกดเซนทรัลล๊อคทั้งก่อนสตาร์ทเครื่อง และก่อนดับเครื่องมีรถเก๋งคันหนึ่งสีเงิน  มีคนสองคนเดินลงมาจากรถแล! ้วก็เดินมาที่รถของเราอย่างสุภาพขณะที่ภรรยาผมกำลังเล่นกับลูกอยู่ เพลินๆ   ก็ได้ยิน เสียงตึ๊กจากข้างหลัง ภรรยาผมก็ตกใจรู้สึกตัวว่ามีคนพยายามเปิดประตูหลังของรถเรา แต่เพราะรถล๊อคพวกเขาก็เดินกลับ ไปขึ้นรถเหมือนไม่มีอะไรเกิด ขึ้น ตอนที่ภรรยาผมเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟัง   ผมคิดว่าเหลือเชื่อจริงๆ กลางวัน แสกๆ แท้ๆ ถ้าหากบังเอิญรถไม่ได้ ล๊อค   ผมไม่กล้าคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น
อยากจะให้ทุกคนมีนิสัย ขึ้นรถต้องล๊อครถพวกผู้ร้ายมักจะลงมือจากเบาะหลัง    เพราะจะ ควบคุมสถานการณ์ได้ง่าย

เหตุการณ์ที่ 3
หลังจากที่พ่อ กับแม่ จ่ายเงินค่าจอดรถเสร็จ  ตอนเลี้ยวรถออกจากโรงพย! าบาล  ต้องจอดติดไฟแดง...
ขณะนั้น  ( ยังไม่ ถึง 3 นาที ระบบล๊อคอัตโนมัติคงยังไม่ทำ งาน )
ชายหนุ่ม สองคนก็เข้ามานั่งที่เบาะหลังของรถ โชคดีที่พ่อแม่ของผมไหวตัวเร็วมาก รีบถอดเข็มขัดนิรภัย    ดับเครื่อง  ดึงกุญแจออกแล้วออกมายืนนอกรถโดยเร็ว คนทั้งสองคนนั้นก็ยังนั่งอยู่ในรถหน้าตาเฉย จนกระทั่งคุณแม่ของผมตะโกนใส่พวกเขาว่า  พวกเรายังมีเพื่อนฝูงอยู่ในโรงพยาบาลอีกเยอะนะ
จะให้ เรียกพวกเขาลงมาคุยกับพวกแกไหม ?
พวกมันจึงออกมาจากรถแล้วบอกว่า  'ขอโทษ ขึ้นผิดคัน'    ( นี่มันปล้นกันชัดๆ ) จากนั้นรถคันที่จอดต่อท้าย ( มีคนอยู่ในรถสองคน )  ก็ขับมารับพวกมันจากไป.... น่ากลัวที่สุด


เหตุการณ์ที่ 4
ตอนจอดติดไฟแดง รถของผมอยู่ห่างจากทางแยกประมาณคันที่สามหรือสี่  สักครู่ หนึ่ง จู่ ๆ ก็มีชายหนุ่มอายุ ประมาณ 20 กว่าๆ
2 คน ขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดอยู่ท้ายรถผม มีอาการน่าสงสัย คือ พวกเขาพยายามมองสอดส่ายสายตาเข้ามาในรถของผม
ผมจึงจ้องพวกเขา....ครู่หนึ่ง พอไฟเขียวก็ออกรถพร้อมมัน
ผมบังเอิญได้ยินหนึ่งในนั้นพูดขึ้นว่า "รถมันล๊อคหมด" แล้วก็ขับเลยไป


Source - Fw mail
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride