หัวใจของรถดริฟท์สำหรับผมก็คือ ทน และถูก
จะเอาทนก็เพราะต้องแช่นาน ต้องอัดหนัก แถมผมเล่นต่อเนื่องเสียด้วย เคยขับดริฟท์อยู่นานสุดแบบไม่หยุดพักก็ราว 30 - 40 นาที !!! เป็นรถคันอื่นเขาฮีทขึ้นตั้งแต่ 10 นาทีแรกแล้ว
จะเอาถูกก็ต้องเล่นแล้วมันพัง พังแล้วก็ต้องซ่อม ไหนๆ จะต้องซ่อม ก็ขอซ่อมถูกๆ หน่อย
ข้อด้อยของเครื่องโรตารีตัวนี้คือมัน "เปราะ" ครับ ไม่ได้แปลว่าไม่แรง ไม่ดี หรือไม่เหมาะกับดริฟท์ แต่มันอาจเหมาะกับคนที่มีสปอนเซอร์พร้อมๆ มากกว่า
- ข้อด้อยจุกจิกยังมีอีกเยอะครับ เช่น หาคนทำดีๆ ยาก / ในเมื่อคนเล่นน้อยก็ทำให้หาอะไหล่ได้ยากเช่นกัน / ในเมื่อคนไม่ค่อยเล่นก็ทำให้ไม่ค่อยมีของเข้ามา ส่งผลทำให้มันแพงอีก /
- ส่วนข้อด้อยด้านเทคนิคก็คือ มันร้อนง่าย แถมร้อนแล้วรวน ร้อนแล้วแรงตก ร้อนแล้วจุกจิก ฯลฯ
ยินดีต้อนรับเข้าสู่โลกแห่งการดริฟท์ครับ ;D
ไม่น่าอวด...เลยน่ะครับ
หัวใจในการดริฟที่แท้จริงนั้นคือ Torque & slide
ในการดริฟนั้นจำเป็นจะต้องใช้พละกำลังแรงบิดมหาสานส่งไปที่ล้อเพื่อให้โอเวอร์สเตียร์เมื่อถึงโค้ง โดยทำให้โมเมนตัมของรถเปลี่ยนไป โดยการหักพวงมาลัยไปในทิศทางตรงกันข้ามอย่างรวดเร็วแล้วหักกลับเพื่อรักษาการทรงตัว หรืออาจจะใช้คลัชคิกหรือเบรคมือช่วยก็ได้
ซึ่งวิธีและลักษณะการดริฟนั้นมีอยู่อย่างหลากหลายวิธี ลองหาดูในกูเกิลก็มีครับ
ทั้งหมดทั้งสิ้นไม่เกียวกับ ความทนทานของเครื่องยนต์เลยแม้แต่เสี้ยวเดียว ยิ่งราคาถูกยิ่งแล้วเลย ไม่มีปัญญาก็อย่าเล่นเลยครับ ของพวกนี้ต้องทำใจครับ
อย่าทำเหมือนพวกมีปัญญาซื้อรถราคาแพงๆแต่ไม่มีปัญญาเติมน้ำมันเอาไปติดแก๊ซ บ้าหรือป่าวก็ไม่รู้
เครื่องโรตารี่เหมาะสมกันการดริฟเป็นอย่างมาก ด้วยน้ำหนักและพละกำลังแรงบิดที่มีมาอย่างมหาสานในรอบสูง ซึ่งต่างจากเครื่องไส้กรอกทั่วไปที่พละกำลังแรงบิดจะมาแต่ต้นๆหรือกลางๆน้ำหนักก็เยอะกว่าโรตี้หลายเท่านัก
คิดดูง่ายๆ ทำไมนักแข่งดริฟชื่อดังทั้งหลายจึงใช้ RX 7 ดริฟ คิดสิ
อีกรุ่นที่นิยมก็คือ evo อันนี้ไม่เกี่ยวกับเครื่องยนต์ครับ แต่เพราะ มันขับ 4 ซึ่งสามารถทำ Power Over Drift ได้อย่างง่ายดาย
