Author Topic: 4. tollway accident  (Read 15816 times)

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
4. tollway accident
« on: July 07, 2003, 01:17:52 pm »
                      "เป็นไง คิดไม่ออกเลยหรือ" เคนถามซ้ำ ก่อนจะพูดขึ้นว่า
   "คนที่ขับรถเก่งในความหมายของพี่ก็คือ ใครก็ตามที่ใช้รถอย่างรู้จักกาละเทศะ มีมารยาทในการใช้ถนนร่วมกับผู้อื่น ใช้ความเร็วที่เหมาะสมกับสภาพเส้นทาง ไม่เร็วหรือช้าจนเกินไป สามารถเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขันได้ และสุดท้ายก็คือต้องเป็นคนที่รู้จักและปรับตัวเข้ากับรถคันนั้นๆ ได้ดี"
   "กว้างๆ และคร่าวๆ ก็คงมีเท่านี้ล่ะครับ" พูดจบเคนยิ้มและหันหน้าไปทางพลอยที่ทำหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง
   "พลอยอยากขับรถเก่งเหมือนพี่บ้าง"
   "รู้ได้อย่างไรว่าพี่เก่งล่ะ ขับรถมานาน เกิดก่อน หรือแก่กว่า มิได้หมายความว่าจะต้องเก่งกว่าเสมอไป กระทั่งมีประสบการณ์มากกว่าก็ยังไม่ใช่เรื่องชี้ยันว่าจะเก่งกว่าแต่อย่างใดเลย"  
   "อยากเก่งก็ต้องทำตัวให้เก่งสิครับ เล่นกันนอกถนนแบบนั้นปล่อยให้เป็นเรื่องของเด็กๆ เขาดีกว่า .. ตามพี่มาข้างนอกนี่สิ"
   พลอยเดินตามเคนจนมาถึงรถนิสสัน สกายไลน์ R32 ของตัวเองที่จอดอยู่หน้าโรงรถ
   "ลองบอกพี่หน่อยสิว่าเครื่องยนต์ของรถที่เธอขับทำงานได้อย่างไร"
   พลอยยืนนิ่งเงียบ
   "คนเล่นรถที่ดีจะต้องรู้เรื่องพื้นฐานพวกนี้เสียก่อน หากมีปัญหาจะได้แก้ไขและเอาตัวรอดได้ ควรรู้ว่าแต่ละชิ้นส่วนทำงานสัมพันธ์กันอย่างไร และจะดีมากที่สุดหากรู้ถึงจุดดีจุดด้อยของรถเราเอง"
   "ก็พลอยถึงจะให้พี่เคนช่วยสอนไงคะ"
   "ตกลงครับ พี่จะสอนให้ แต่เธอต้องลืมทุกอย่างที่เคยอยู่ในหัวสมองให้หมดก่อนนะ ไม่อย่างนั้นแล้วเติมเท่าไรก็ไม่เข้าสมอง เหมือนแก้วน้ำที่เต็มอยู่แล้ว แต่ให้พี่เทน้ำเพิ่มเข้าไปอีก คงไม่มีอะไรดีขึ้นมา "
   พลอยพยักหน้า
   "พรุ่งนี้พี่ต้องไปทดสอบรถช่วงสายๆ ถ้าสนใจก็มาได้เลย จะพาไปดูการทำงานของคนอีกกลุ่มหนึ่ง"
   "ดีจังเลยค่ะ ขอไปด้วยคนนะคะ"
   "ขอคุณพ่อคุณแม่ก่อนแล้วหรือยังล่ะ" เคนย้อนถาม
   พลอยวิ่งหายเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ อีกไม่กี่อึดใจก็วิ่งออกมาด้วยสีหน้าเริงร่า เคนไม่ต้องถามก็รู้คำตอบ
   "พรุ่งนี้พี่มารับสิบโมงเช้าครับ คืนนี้ขอตัวกลับก่อนนะ"


6.00 น. / กรุงเทพฯ
   เคนกลับจากวิ่งออกกำลังกายก็อาบน้ำและเตรียมอาหารเช้าบริการตนเอง จัดเตรียมสิ่งของที่จะใช้ในงานวันนี้อย่างรอบคอบ เขาเลือกเสื้อผ้าโทนสีอ่อนที่สวมใส่สบายเพราะคาดว่าวันนี้ทั้งวันต้องผจญอยู่กลางแดดแน่ๆ จึงหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ติดไปอีกผืน หมวก แว่นตา และถุงมือไม่ต้อง เพราะประจำอยู่ในรถแล้ว ที่เหลือก็ใช้ความสามารถของตัวเองและประสบการณ์ แล้วก็ไม่ลืมคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค กล้องถ่ายรูปอัตโนมัติ และวิทยุสื่อสาร ที่กลายว่าเป็นของประจำติดตัวไปเสียแล้ว
   ไปรับพลอยที่บ้านตรงตามเวลานัดหมายคือ 10.00 น. ออกเดินทางจากบ้านพักย่านสุขุมวิทมุ่งหน้าสู่จุดหมายที่เป็นสนามทดสอบรถทันที
   ความสนิทสนมของทั้งคู่เป็นไปด้วยความรวดเร็ว ก็ด้วยเพราะความที่สนใจในเรื่องราวของรถยนต์เหมือนๆ กัน เคนและพลอยจึงนั่งคุยกันได้เป็นเวลานานๆ และหลายครั้งที่ทั้งคู่เกิดความคิดเห็นไม่ตรงกัน ก็ด้วยเพราะวัยและประสบการณ์นั่นเอง
   "ทำไมพี่เคนไม่ชอบแต่งรถล่ะคะ ขับรถเดิมๆ เชยจะตายไปนะคะ.. พลอยว่า"
   "ของเดิมก็ดียู่แล้วนี่ครับ การที่เราจะเปลี่ยนอุปกรณ์อะไรสักอย่าง จะเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้ประสิทธิภาพของเดิมที่ติดรถมาเสียก่อน อย่างเช่นล้อที่ใส่อยู่นี้ทำด้วยอลูมิเนียมเกรดพิเศษอยู่แล้ว มีน้ำหนักเบามากกว่าของยี่ห้ออื่นๆ ในขนาดเท่ากัน ระบบท่อไอเสียก็เป็นเฮดเดอร์โลหะพิเศษที่ออกแบบมาอย่างดี มีเปอร์เซนต์การยืดตัวน้อย จะมีก็แค่ปลายท่อเท่านั้นแหละครับที่ออกจะดูเชยๆ ไปหน่อย หากคุยถึงเรื่องสมรรถนะด้วยแล้ว พี่เชื่อว่ารถคันนี้เหนือกว่ารถคันแต่งอื่นในหลายๆ ด้านครับ" พูดจบก็ยิ้มและหันไปมองหน้าพลอยที่กำลังมองหน้าเคนอยู่พอดี เคนจึงพูดต่อ
   "พลอยคงจะชินตากับรถแต่งใช่ไหมครับ เห็นรถแต่งสวย แต่งดุ ดูแล้วก็เลยสนใจ คิดว่ามันคงจะแรงเหมือนอย่างพี่พวกนิตยสารรถยนต์เขาเขียนถึงกัน .. ใช่ไหมล่ะครับ"
   "อดใจรออีกนิดครับ เดี๋ยวจะได้เห็นของจริงกันที่สนาม แล้วพลอยอาจเปลี่ยนใจเลิกแต่งรถกันไปเลยก็เป็นได้"
   "โหห .. ถึงขนาดนั้นเชียวหรือคะ"
   "ยิ่งกว่านั้นอีกครับ พี่กับกลุ่มเพื่อนๆ นักทดสอบจับเอาอุปกรณ์ตกแต่งที่ต่างโฆษณาทั้งหลายมาพิสูจน์และทดสอบกันแบบนี้เป็นประจำ อย่างวันนี้เขาก็จะทดสอบยางยี่ห้อหนึ่งรุ่นล่าสุด ดูซิว่าจะดีหรือด้อยตรงจุดไหนกันบ้าง"  
   ขับรถมุ่งหน้าออกนอกเมืองโดยใช้ถนนวิภาวดีรังสิต เคนขับลงจากทางด่วนดินแดงก็ขับมุ่งหน้าขึ้นทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์ทันที จ่ายค่าผ่านทางพร้อมๆ กับนิสสัน สกายไลน์สีขาวที่ขับจี้ท้ายรถเขามาตอนช่วงปลายสุดใกล้ช่วงลงทางด่วน
   มันเหมือนการออกตัวของรถแข่งที่รถทั้งสองคันมาจอดคู่กันอย่างพอดิบพอดี สกายไลน์เร่งเครื่องยนต์เหมือนกับท้าให้เคน 'ลอง' กับเขา เคนหันหน้าไปมองแล้วยิ้ม และออกรถอย่างปกติ   นิสสันสกายไลน์ดูหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด ออกตัวล้อฟรีเสียงดัง ควันขาวจากยางคละคลุ้งไปหมด แล้วก็ขับขึ้นหน้ารถของเคนไป
   พลอยแปลกใจที่เคนไม่ไปแข่งกับเขาด้วย แถมยังยุให้ขับไล่ตามหลังไปก็ยังดี ดูเธอเองกระวนกระวายกับเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่น้อย
   "พี่เคนอัดเลยสิคะ หรือว่ารถคันนี้ไม่แรง" พลอยพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน
   ประโยคหลังของพลอยทำให้เคนต้องฉุกคิด  ก่อนที่จะหันไปพูดกับพลอยว่า
   "ปล่อยเขาไปคนเดียวเถอะครับ แข่งนอกสนามแบบนี้พี่เห็นมาเยอะแล้ว ตอนจบมักจะไม่ค่อยสวย"
   ทางตรงและยาวบนทางยกระดับทำให้เคนมองเห็นไฟท้ายรถของนิสสันสกายไลน์ได้ไม่ยาก แม้ไม่เล่นด้วย แต่ก็อยากรู้ตอนจบเหมือนกันจึงขับตามไปห่างๆ ครั้นเมื่อรถใกล้กันมากเข้าก็ยกคันเร่งเสียเฉยๆ อย่างนั้นแหละ
   สกายไลน์สีขาวขับเปลี่ยนเลนไปมาราวกับคนเมา การขับรถเช่นนี้ทำให้ผู้ร่วมทางคนอื่นหมั่นไส้ได้ไม่ยากเย็น งานนี้เคนไม่ต้องลงมือเอง ผู้ช่วยเขาคือ มาสด้า RX-7 สีแดงสดที่กำลังเร่งเครื่องประกบคู่กับนิสสัน สกายไลน์คันดังกล่าว และมีอีกคันที่ขับไล่หลังมาคือ พอร์ช 911 คาเรร่า 2
   พลอยดูจะตื่นเต้นกับเหตุการณ์อย่างมาก เชียร็ให้ RX-7  แซงขึ้นหน้าให้ได้ และคะยั้นคะยอให้เคนลงไปร่วมวงกับพวกเขาด้วย
   นิสสัน สกายไลน์ คันนั้นคงจะลงเครื่องยนต์ตัวใหม่มาแน่ๆ และเครื่องต้องแรงไม่เบา เคนดูจากล้อขนาด 18 นิ้ว คู่หลังที่กว้างมาก หากใช้เครื่องยนต์เดิมกับล้อขนาดนี้ ผู้ขับก็คงจะเป็นเด็กที่เพิ่งเล่นรถ หรือไม่ก็เป็นพวกนิยมความสวยมากกว่าสมรรถนะ
   ไม่ทราบเหมือนกันว่าเคนคิดถูกหรือผิด แต่สกายไลน์คันนั้นยังคงกดคันเร่งแช่อย่างต่อเนื่อง ความเร็วบนหน้าปัดของรถเคนชี้ไปที่ 220 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่สกายไลน์สีขาวนั้นพุ่งขึ้นไปนำอยู่ข้างหน้าค่อนข้างไกลมาก หากรถทั่วไปที่แรงพอกันจะกดคันเร่งให้ทันก็ต้องใช้ระยะทางไม่ต่ำกว่า 2 กิโลเมตร
   แล้วจู่ๆ เสียงหูฟังจากวิทยุสื่อสารของเคนก็ดังขึ้น จับใจความได้ว่าเป็นการรายงานการเกิดอุบัติเหตุที่เชิงทางลงทางยกระดับโทลเวย์ขาออกที่มีรถชนกัน 6 คัน กีดขวางหมดทุกช่องทาง ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ
   "พลอยใส่เข็มขัดนิรภัยอีกชุดที่อยู่ด้านหลังนะครับ" เคนพูดเสียงดัง
   พลอยทำหน้างง หันไปมองก็เห็นเข็มขัดนิรภัยแบบ 5 จุดชนิดเดียวกับที่ใช้ในรถแข่งแขวนอยู่ด้านหลังเบาะนั่ง จึงปลดเข็มขัดชุดที่ใส่อยู่เดิมแบบ 3 จุดออก แล้วเอี้ยวตัวไปคว้าเข็มขัดเส้นที่ใหญ่และมีจุดยึดมากกว่ามาใส่แทน เคนเองก็ทำแบบเดียวกับพลอยเช่นกัน
   เอื้อมมือไปกดปุ่ม High Power ที่โคนของเกียร์อัตโนมัติ และจัดการกดปุ่มสามสี่อันที่แผงคอนโซล ปลายนิ้วสัมผัสปุ่ม Auto Fuel, Auto Wing ที่เป็นสวิทช์ซ่อนอยู่ด้านหลังของพวงมาลัย หยิบหูฟังขนาดเล็กที่ซ่อนไว้ในเสากลางของรถมาเสียบไว้ที่ดูด้านขวา ส่วนหูด้านซ้ายยังคงฟังเสียงการรายงานสถานการณ์จากวิทยุสื่อสาร เขาหันไปมองพลอยที่กำลังจัดการกับเข็มขัดนิรภัยชุดใหม่พร้อมๆ กับกดคันเร่งลงแบบคิกดาวน์
   ทันที่ที่สวิทช์คิกดาวน์ที่อยู่ใต้คันเร่งทำงาน พลอยก็พบอาการ 'ดึง ' แบบชนิดที่ว่าแผ่นหลังทั้งผืนแทบจะจบลงไปในพนักพิง แรงฉุดมีมากจนถึงขนาดขาทั้งคู่ของเธอลอยสูงขึ้นมาจากพื้นรถ หัวเข่าเธอเองยกสูงขึ้นจนตัวเธอเองอ้าปากค้าง นึกไม่ถึงเลยว่าจะพบความแรงในอัตราเร่งที่ตอบสนองได้อย่างรุนแรงมากขนาดนี้ ไม่ใช่เพียงแค่อาการหลังติดเบาะแบบที่เธอเคยเจอ แต่มันเหมือนกับมีแรงอะไรสักอย่างที่ผลักเธอให้หงายหลังลงไป
   กระจกหน้าที่เคยว่างเปล่าบัดนี้มีการแสดงผลเป็นค่าตัวเลขต่างๆ เต็มไปหมด เห็นแสงไฟกระพริบและเสียงเตือนดังเป็นระยะ ในสมองของพลอยตอนนี้มีแต่คำว่า 'ตะลึง' แล้วเธออาจจะตะลึงมากกว่านี้อีกหากทราบว่าชุดแต่งตัวถังภายนอกรถสามารถทำงานปรับระดับเองได้ตามความเร็วรถ
   Air Dam ที่อยู่ชายล่างสุดของกันชนหน้ายื่นตัวเองต่ำลงมาเกือบจะติดพื้นถนน พอๆ กับ สเกิร์ตข้างที่เลื่อนลงมากว่า 3 นิ้ว ส่วนสปอยเลอร์หลังนั้นตั้งชันเกือบ 30 องศา สเกิร์ตหลังที่อยู่ใต้กันชนเปิดช่องเล็กๆ ให้อากาศบางส่วนระบายออก ครั้นหันไปมองที่ความเร็วบนกระจกหน้าที่เป็นแบบ HUD ก็เห็นว่าเข็มความเร็วแบบดิจิตอลชี้ไปที่ 300 กิโลเมตร/ ชั่วโมงเรียบร้อยแล้ว และยังคงเดินหน้าขึ้นไปเรื่อยๆ
   "อะไรกันนี่ เป็นไปได้อย่างไรกัน อัตราเร่งจากความเร็ว 220 - 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาที พี่เคนใช้เครื่องยนต์อะไรกันนะ และอุปกรณ์อีเลคโทรนิคมากมายที่รายล้อมอยู่ล่ะ มันคืออะไรกัน .. .. "
   พลอยรู้สึกแปลกใจและสับสนในสิ่งที่เธอเพิ่งจะเคยเจอ หรือนี่คือ 'ของจริง' ที่พี่เคนเคยพูดถึงไว้ ของจริงที่เตรียมไว้สำหรับเฉพาะใช้สถานการณ์จริงเท่านั้น มิได้ใช้เพื่อโอ้อวด หรือเพื่อความสนุกสนานแต่อย่างใด
   ไม่กี่อึดใจเคนก็ขับขึ้นมาทันและเห็นรถมาสด้า RX-7 กำลังขับขึ้นตีคู่กับสกายไลน์แต่ก็ยังแซงกันไม่ขาด ความเร็วของรถทั้งคู่ที่ขับไล่กันมาก็ราวๆ 230 กิโลเมตร/ชั่วโมง เคนเบนรถแซงขึ้นทางด้านซ้าย แต่ยังหาวิธีที่จะบอกรถทั้งสองคันให้หยุดลงไม่ได้ ระยะห่างจากจุดนี้จนถึงที่เกิดอุบัติเหตุเหลือระยะทางไม่ถึง 1 กิโลเมตร แถมเส้นทางก็เป็นทางลาดลงเนิน เรื่องของระยะเบรกและคุณภาพของเบรกก็ไม่สำคัญเท่าเวลาในการตัดสินใจในการเหยียบเบรกและเทคนิคการเบรกแบบกะทันหัน
   เคนเบนรถเข้ามาที่เลนกลางขวางหน้ารถนิสสัน สกายไลน์ แต่ก็ทิ้งระยะห่างไว้มากพอดู เขาถอนคันเร่งและเปิดกระจกข้างลงโบกมือให้หยุดรถ แต่ดูท่าทางรถคันที่ตามหลังมาจะไม่เข้าใจ อาจเป็นเพราะว่าอยู่ไกล และกำลังใช้ความเร็วที่สูงมาก พลอยตัดสินใจเปิดกระจกข้างลงอีกหนึ่งบานช่วยโบกมือให้รถแข่งทั้ง 2 คันลดความเร็วลง
   ทันทีที่ไฟเบรกจากรถเคนสว่างขึ้น รถแข่งทั้ง 2 ก็แยกออกกันคนละเลน สกายไลน์ที่นำหน้าอยู่เบนเข้าเลนซ้าย ส่วน RX-7 เลือกใช้เลนขวา รถทั้ง 3 คันกดเบรกพร้อมๆ กัน แต่ถนนเป็นทางลาดลงเนิน และอุบัติเหตุข้างหน้าก็ยังคงกีดขวางเส้นทางอยู่
   รถของเคนใช้ระบบ Air Brake ที่ทำงานอาศัยสปอยเลอร์หลังเป็นตัวช่วยต้านลม โดยจะยกตัวสูงขึ้นจากเดิมอีกถึง 5 นิ้ว และปรับองศาของปีกเพิ่มเป็น 75 องศา ทำให้เคนเบรกได้อย่างรุนแรงโดยที่น้ำหนักรวมไม่ได้มากดที่ล้อหน้ามากจนเกินไปนัก รถของเขาหยุดได้นิ่งและใช้ระยะทางสั้นกว่าคนคันอื่นๆ จากความเร็ว 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง เคนลดเหลือ 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลาไม่ถึง 5 วินาที จานเบรกเดิมรองรับไม่ไหวแน่ เคนเลือกใช้แบบที่ทำด้วยคาร์บอน-เซรามิกที่การคายความร้อนเร็วกว่าจานเบรกแบบที่ทำจากโลหะผสมทั่วไป  
นิสสัน สกายไลน์กดเบรกรุนแรงมากจนสปอยเลอร์หน้าถูกับพื้นถนนจนสึก ทำให้ท่ออินเตอร์คูลเลอร์ที่เดินไว้ต่ำครูดกับพื้นถนนจนเกิดประกายไฟแล่บตลอดทางและมองเห็นได้ชัดเจนแม้จะเป็นช่วงใกล้เที่ยงวันก็ตาม จานเบรกที่ร้อนมากจนระบายความร้อนออกไม่ทันทำให้เกิดอาการ 'เฟด' จากเดิมที่ความเร็วค่อยๆ ลดลงก็กลายเป็นเหมือนไม่มีเบรกเสียแล้ว ความเร็วของรถยังเกิน 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภาพอุบัติเหตุข้างหน้าเริ่มมองเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ทางด้านรถมาสด้า RX-7 ที่ใช้เลนขวาก็ต้องกดเบรกอย่างรุนแรงเช่นกัน แต่ได้เปรียบตรงเป็นรถที่เบากว่า พอเบรกแรงๆ ช่วงล่างก็ยังคงความนิ่งอยู่มาก จึงลดความเร็วจาก 230 กิโลเมตร/ชั่วโมง ลงมาเหลือประมาณ 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้อย่างไม่น่ากลัวเท่าไรนัก คงเป็นเพราะล้อและยางขนาดใหญ่ที่เข้ามาช่วยเสริม แต่ถ้าจะให้ถึงความเร็วที่จุดหยุดนิ่งเลยก็ต้องมาลุ้นกันอีกทีว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะระยะทางที่เหลือมีเพียงไม่กี่สิบเมตรเท่านั้น
   ทางด้านพอร์ช 911 ที่ขับตามไล่หลังมา แม้ไม่ได้เข้าอยู่ในกลุ่ม แต่รถก็เร่งมาแรงไม่เบา ขับตามอยู่หลังสุดจึงได้เปรียบที่มีระยะเบรกยาวกว่า ช่วงล่างจากประเทศเยอรมนียังคงทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมสมกับค่าตัวรถราคาแพง ผู้ขับลดความเร็วลงมาอยู่ในย่านปลอดภัยได้โดยที่รถไม่มีอาการผิดปกติใดๆ
   อาการเบรกเฟดในนิสสัน สกายไลน์ทำให้เคนอดเป็นห่วงไม่ได้ เหลือระยะทางอีกไม่มากเท่าไรก็จะถึงจุดที่เกิดอุบัติเหตุแล้ว แต่สกายไลน์ยังคงแล่นพุ่งเข้าหาด้วยความเร็ว หัวรถยังคงทิ่มลงและครูดกับถนน เป็นไปได้สูงว่าเครื่องยนต์ที่เปลี่ยนมาใหม่มีน้ำหนักมาก หรือการนำชุดช่วงล่างและช้อคฯสปริงมือสองมาใช้แล้วจะเกิดอาการล้าจนทรุดตัวกะทันหัน และอาจเป็นไปได้ที่สปริงจะข้อหักหรือหลุดเบ้า
การเบรกแรงเช่นนี้ทำให้ยางที่ค่อนข้างเก่าอยู่แล้วเสื่อมคุณบัติความเป็นยางได้ในเวลาอันสั้น ถึงขนาดถ้าเบรกจนล้อล็อคและลากเป็นทางยาวๆ ก็สามารถจะทำให้ดอกยางหลุดกระเด็นออกมาเป็นชิ้นๆ ได้เลย
   รถ RX-7 ออกอาการในช่วงใกล้จะถึงจุดหยุดนิ่ง ท้ายรถส่ายไปมาดูเหมือนผู้ขับจะคุมไม่อยู่เสียแล้ว จึงพุ่งชนกับรั้วกั้นขอบทาง แต่ก็ยังดีกว่าพุ่งชนรถที่จอดเรียงรายอยู่ข้างหน้าที่ห่างไปไม่กี่ เมตร การตัดสินใจในเวลาเพียงเสี้ยววินาทีเช่นนี้สำคัญมาก เรื่องเช่นนี้ไม่สามารถถ่ายทอดกันได้ อาศัยทักษะและประสพการณ์เพียงอย่างเดียว  
   ระยะทางยิ่งเหลือน้อยผู้ขับสกายไลน์ก็ดูยิ่งร้อนรน เคนสังเกตจากไฟเบรกที่ติดๆ ดับ ๆ แสดงถึงว่าผู้ขับยังคงมีสติดีจึงเหยียบและปล่อยแป้นเบรกสลับกัน และในช่วงไม่ถึงยี่สิบเมตรสุดท้ายมีน้ำมันรั่วออกมาจากด้านหน้ารถคันนี้อีกด้วย
   "เขาจะเบรกทันไหมคะพี่" พลอยตะโกนเสียงดัง
   "เราก็ช่วยเท่าที่ทำได้ ที่เหลือเขาก็ต้องช่วยตัวเขาเองแล้วล่ะครับ"
   เคนจอดรถนิ่งชิดขอบทางด้านซ้ายมือในเขตปลอดภัยห่างจากจุดที่เกิดอุบัติเหตุอยู่ก่อนแล้วประมาณ 30 เมตร จึงเห็นภาพทุกสถานการณ์ได้ชัดเจน
   โชคไม่เข้าข้าง นิสสัน สกายไลน์เบรกไม่อยู่ รถไหลพุ่งเข้าชนกองซากรถที่ชนกันอยู่ก่อนแล้วที่ความเร็วประมาณ 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง
   โครมมมม... เปรี้ยงง... เสียงปะทะดังสนั่น ผู้ขับเลือกพุ่งเข้าชนมุมด้านท้ายรถคันหนึ่งที่ยื่นล้ำออกมา การชนแบบนี้จะทำให้รถทางตรงที่เป็นฝ่ายชนหมุนอย่างแรง
   เคนลงจากรถรีบวิ่งไปยังรถนิสสัน สกายไลน์ คันดังกล่าว พลอยเองก็วิ่งตามไปติดๆ พอไปถึงก็พบผู้ขับวัยรุ่นอายุไม่น่าจะเกิน 20 ปี นั่งหน้าตาซีดเผือกทำอะไรไม่ถูกอยู่บนเบาะนั่งคนขับ ผลจากการพุ่งเข้าชนแบบออฟเซตนี้ส่งผลให้ด้านหน้ารถย่นยู่เข้ามา ฝากระโปรงบิดเบี้ยว เกิดความเสียหายมากในหลายจุด ไฟหน้าทั้งสองข้างแตกละเอียด หม้อน้ำทะลุ อินเตอร์คูลเลอร์บิดจนเสียรูปและหลุดกระเด็นออกไป เครื่องยนต์ถูกแรงบีบจนหลุดลอยขึ้นจากแท่นเครื่องที่ทำขึ้นมาใหม่ ฝากระโปรงหักมุมเป็นรูปจั่ว แต่ผู้ขับปลอดภัย เช่นเดียวกับรถมาสด้า RX-7 ที่เสียหายเพียงเล็กน้อยตรงด้านข้างของรถ จอดอยู่ไม่ไกลกันนัก
   ผู้ขับก้าวออกมาจากรถตัวเองและเดินไปยืนรวมกันชิดขอบทางด้านซ้าย มีเพียงแต่เคนและพลอยเท่านั้นที่เดินกลับไปยังรถตัวเองเพื่อที่จะขับเดินทางต่อไป
   อีกไม่นานเจ้าหน้าที่ทางด่วนมาถึงก็ลากรถที่เสียหายชิดขอบทาง เปิดการจราจรให้รถที่ตามมาด้านหลังสามารถใช้เส้นทางได้ เคนขับผ่านจุดเกิดเหตุขึ้นไปเป็นคันแรก โดยเจ้าของรถ     นิสสัน สกายไลน์ สีขาว มองตามจนสุดสายตา เขาไม่ได้คุยกับเคนสักคำ แต่คงจำเคนกับรถคันนี้ได้แม่นขึ้นใจ
   เล่นกับความเร็วที่เกินธรรมดาจำเป็นที่จะต้องอยู่ในสถานที่ๆ ควบคุมสภาพแวดล้อมได้เท่านั้น ไม่ใช่เล่นกันบนถนนหลวงเช่นนี้ สถานการณ์บนทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์ในวันนี้คงจะทำให้นักแข่งนอกสนามทั้ง 2 คนจดจำไปอีกนานแสนนาน จะเข็ดหรือหลาบจำหรือไม่ ไม่มีใครรู้ แต่ที่แน่ๆ คือยังมีกลุ่มคนรุ่นใหม่ทยอยกันทำพฤติกรรมเสี่ยงตายเช่นนี้อยู่เป็นจำนวนไม่น้อย คนเพิ่งเล่นรถที่มีแต่ความคึกคะนอง บ้างก็ทำเพื่อโชว์ เพื่อโอ้อวด จนเป็นที่มาของเหล่าบรรดา Midnight Racing รุ่นใหม่ที่อัดรถโดยไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ
   "พี่เคนช่วยเหลือคนแบบนี้บ่อยไหมคะ"
   "ทำทุกครั้งทุกสถานที่ถ้ามีโอกาสครับ"
   อีกครึ่งชั่วโมงถัดมา เคนกับพลอยไปถึงสนามทดสอบรถตามเวลานัด โดยมีเพื่อนๆ บางส่วนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
   "เฮ้ย เคน สวัสดี" ชายรูปร่างใหญ่ลุกขึ้นทักทายคนแรก
   "สวัสดีครับ" "พี่เคนสวัสดีครับ" "ว่าไงพ่อหนุ่ม" ทุกคนในห้องเอ่ยทักทายไม่ขาดสาย คนที่ไม่พูดก็ใช้รอยยิ้มต้อนรับแทน
   "สวัสดีครับทุกๆ คน นี่ผมมาช้าไปไหมครับนี่ เห็นทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าเลย"
   "ไม่หรอกครับ วันนี้จะทดสอบยางรุ่นใหม่กัน อย่างไรแล้วคงต้องขอให้เคนช่วยเก็บรายละเอียดให้พวกเราด้วยนะครับ"
   "ด้วยความยินดีครับ ผมจะทำสุดความสามารถ เพื่อนๆ ครับ ผมขอแนะนำ น้องพลอย เขาจะมาร่วมการทดสอบกับพวกเราในวันนี้ด้วยครับ"
   "สวัสดีค่ะพี่ๆ ทุกคน" พลอยยกมือไหว้และยิ้มให้เพื่อนๆ กลุ่มนักทดสอบ
   "ตามสบายนะครับ พวกเรากันเองอยู่แล้ว" นักทดสอบจากนิตยสารเล่มหนึ่งพูด
   บรรยากาศในห้องรับรองเป็นไปอย่างกันเอง พลอยกับเคนนั่งอยู่ใกล้กัน รายล้อมด้วยเพื่อนๆ ของเคนที่ล้วนแล้วแต่เป็นคนในวงการรถยนต์ที่มีประสพการณ์สูง อีก 15 นาทีจะถึงเวลาเริ่มทดสอบ เคนหยิบสมุดบันทึกขนาดเล็ก เทปอัดเสียง และกล้องถ่ายรูปออกมาตรวจดูความเรียบร้อยอีกครั้ง
   "น้องพลอย พี่ฝากถุงนี้หน่อยนะ" เคนฝากคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คและสิ่งของจุกจิกไว้
   "ได้ค่ะพี่ ให้พลอยรอที่ไหนดีคะ"
   "รอในห้องนี้ดีกว่าครับ เย็นสบายดี ข้างนอกอากาศร้อนมาก"
   การทดสอบนอกรอบที่กลุ่มคนเล่นรถจัดขึ้นกันเองแบบสบายๆ ครั้งนี้ทำให้เคนหาข้อมูลและจับผิดตัวผลิตภัณฑ์ได้หลายอย่าง ต่างจากงานทดสอบที่จัดโดยบริษัทใหญ่โดยสิ้นเชิง ที่แต่ละครั้งมักจะเป็นเพียงแค่การเปิดตัว ชี้ให้เห็นเพียงแค่ข้อดีและจุดเด่น เรื่องในแง่ลบนั้นไม่มีใครอยากเอ่ยถึง แม้กระทั่งตัวสื่อมวลชนผู้มาทำข่าวเองหลายคนก็ยังเป็นไปกับเขาด้วย แม้จะรู้อยู่เต็มอกแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากนัก เพราะตัวเองเป็นผู้น้อยก็ต้องทำตามหน้าที่ๆ ผู้ใหญ่มอบหมายให้ คนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเข้ามาจับงานด้านนี้มีอุดมการณ์ดี แต่อยู่ไปได้สักพักก็เหนื่อยหน่ายต้องพ่ายแพ้แรงต้านของ 'เงิน' และ 'ผลประโยขชน์' จนเป็นที่มาของการรวมตัวของกลุ่มนักทดสอบรถยนต์ในงานครั้งนี้ งานที่รวมคนมีฝีมือไว้ด้วยกัน แต่ละคนคือผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาต่างๆ ทั้งนักเคมี นักวิทยาศาสตร์ วิศวกรเครื่องกล วิศวกรสิ่งแวดล้อม นักเขียน นักทดสอบ ดูจะมีเคนเพียงคนเดียวที่อยู่นอกกลุ่ม เขาเป็นเพียงแค่ 'นักขับรถ' แต่ทุกคนในงานก็ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ความคิดเห็นของทุกคนมีค่า และเป็นประโยชน์อย่างมากต่อผู้คนในวงการรถยนต์ แม้เคนจะไม่มีปริญญาพ่วงท้ายเหมือนกับคนอื่นๆ แต่ก็มีบ่อยครั้งที่คนจบปริญญาสูงๆ และผู้เชี่ยวชาญหลายท่านมักขอความคิดเห็นจากเขา
   เคนกับเพื่อนๆ ยืนดูรถทดสอบขณะขับผ่านแอ่งน้ำและเข้าช่วงทดสอบระยะเบรก โชคดีที่มีรถทดสอบถึง 3 คัน ครบทุกอารมณ์ทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง และซูบารุ อิมเพรซาที่เป็นแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
   พลอยอยู่ในห้องพักที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศเย็นสบาย ต่างจากอากาศภายนอกที่ไอร้อนระอุ เคนปลีกตัวเดินไปคุยโทรศัพท์ที่อีกมุมหนึ่งของลานกว้างด้วยสีหน้าเคร่งเครียด สักพักจึงวิ่งขึ้นมาบนห้องรับรอง    
   "น้องพลอยครับ รีบเก็บของแล้วไปกับพี่ด่วนเลย" เคนพูดเสียงกระหืดกระหอบ
   "มีอะไรหรือคะ" พลอยพูดพร้อมกับรีบกวาดข้าวของที่เรียงรายอยู่บนโต๊ะลงในเป้สะพายหลังอย่างรวดเร็ว
   "เพชรเม็ดใหญ่ที่ชื่อ Lucia ถูกฉกไปจากงานแสดงที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติท่ามกลางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและคนดูนับพันๆ คน ขึ้นรถเถอะครับ เดี๋ยวพี่จะเล่าให้ฟัง"

*   *   *   *   *   *   *   *   *   *   *
« Last Edit: July 07, 2003, 01:20:59 pm by O'Pern »
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline nuto wasabi

  • Amateur Racer
  • *
  • Posts: 7
  • เดิมๆก็ดีแล้วหว่ะ
Re:4. tollway accident
« Reply #1 on: September 23, 2005, 04:57:15 pm »
จินตนาการล้ำลึกมากครับ
Bangkok Christian College 146