Author Topic: 1. on the highway  (Read 111720 times)

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
1. on the highway
« on: July 04, 2003, 09:26:26 am »
บนทางด่วน เสาร์ 03.17 น.  
   "เคน" ขับรถกลับจากงานเลี้ยงมุ่งหน้ากลับบ้าน ถนนโล่งจนเคนเผลอตัวกดคันเร่งมากเกินปกติ เหลือบตามองที่หน้าปัทม์อีกครั้งก็เห็นเข็มชี้ไปที่เลข 180 ซะแล้ว รถที่เซ็ทมาดีของเขาทำให้ความเร็วดูไม่น่ากลัวเท่าไหร่ แต่ก็ผ่อนเท้าลงให้ความเร็วลดมาอยู่ในย่านปลอดภัยทันทีที่รู้ตัว
   ไม่คาดฝัน ขณะที่ขับอยู่เพลินๆ ก็เหลือบมองกระจกข้างขวาก็เห็นรถสองคันขับแข่งกันมา ความเร็วที่คะเนของรถสองคันขณะนั้นไม่น่าจะต่ำกว่า 200 กม./ช.ม. ไฟหน้าจากกระจกมองหลังเริ่มชัดมากขึ้นทุกขณะ เคนเบนรถหลบไปในเลนซ้ายสุด เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง รถคันแรกที่ขับแข่งกันมาเปิดไฟสูงมาตลอดทาง เคนตอบรับทราบเปิดทางด้วยการเปิดไฟเลี้ยวซ้ายทันที
   ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงลงไปเล่นกับเขาด้วยแล้ว ตอนนี้เคนเลิกอัดรถบนถนนหลวงอย่างเด็ดขาด ไม่ใช่เพราะกลัวอันตราย หากแต่เป็นการทำให้ผู้อื่นตกอยู่ในความอันตรายโดยไม่รู้ตัว อย่างเช่นรถสองคันนี้ที่อัดคู่กันมา
   "ยังไม่สูญพันธุ์อีกหรือวะไอ้พวกนี้" เคนนึกในใจแล้วมองกระจกข้างอีกครั้งก่อนรถทั้งสองคันจะผ่านหน้าเขาขึ้นไป
   แต่การแข่งของรถสองคันนี้ดูแปลกต่างจากที่เขาเคยพบเห็นมาคือรถคันหลังขับจี้ท้ายคันหน้าเหมือนในสนามแข่งวงรี ทั้งๆ ที่การแข่งนอกสนามแบบนี้ควรขับกันคนละเลนเพื่อที่จะมองเส้นทางได้ชัดเจนมากที่สุดและสามารถเลี่ยงอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าต้องอย่าลืมว่านี่ไม่ใช่ในสนามแข่ง เราไม่สามารถควบคุมสิ่งที่อยู่รอบข้างตัวได้เลย
   รถสปอร์ตราคาแพงทั้งคู่ยังคงขับด้วยความเร็วสูงเกินหลัก 200 ก.ม.ชม อย่างต่อเนื่อง แม้เคนจะไม่ลงไปเล่นด้วยแต่ก็อดเป็นห่วงการแข่งรถของพวก Midnight Racing ไม่ได้ เคนปรับบูสท์เพิ่มจากเดิมเป็น 1.2 บาร์ โดยกดปุ่มที่เซ็ทไว้แบบอัตโนมัติพร้อมการจ่ายน้ำมันที่ปรับตั้งไว้ล่วงหน้าแล้ว สปอยเลอร์หลังที่ปรับระดับอัตโนมัติยกตัวสูงขึ้นเล็กน้อยทันที่ที่เข็มความเร็วแตะหลัก 200 ครั้นพอแตะคันเร่งนิดเดียวก็สามารถตามติดท้ายของนักแข่งนอกสนามได้ไม่ยาก แต่เนื่องจากไม่อยากร่วมวงเล่นด้วยเลยทิ้งระยะห่างรถทั้งสองคันกว่า 500 เมตร
   โค้งซ้ายอยู่ข้างหน้าแต่พอหลุดโค้งออกมาก็พบสิบล้อสองคันกำลัง ขับแซงกัน ถนนสามเลนถูกใช้ไปเสียสองเหลืออีกหนึ่งกับรถสองคัน งานนี้มีลุ้น ขณะนี้รถทั้งสองคันขับผ่านไปแล้ว แต่สายตายังมองรถคู่นั้นด้วยความเป็นห่วง เขากระแทกคันเร่งเพิ่มความเร็วขึ้นเพื่อให้มองเห็นเหตุการณ์
   เคนเห็นไฟจากท่อไอเสียของรถคันแรกแล่บออกมาลูกโต เสียงเครื่องยนต์ครางดังลั่นเคล้ากับเสียงจากท่อไอเสีย เสียงกังหันเทอร์ไบน์หมุนกรีดร้องโหยหวน รถคันที่สองเหมือนรู้หน้าที่ว่าต้องทำอย่างไร ผู้ขับเหยียบเบรคลั่น ล้อไถลยาวไปตลอดพื้น เพราะทางที่ดูเหมือนว่าหนึ่งเลนที่มีมันไม่เป็นอย่างที่คิดอีกต่อไปแล้ว รถยนต์นั่งธรรมดาขับช้ามากแช่อยู่ช่องเลนขวา ที่มองไม่เห็นแต่แรกก็เพราะมุมโค้งปิดไว้แถมถูกบังโดยสิบล้ออีกสองคัน
   เคนยังคงเลี้ยงความเร็วตามดูสถานการณ์พร้อมเบี่ยงรถมายังเลนขวา เคนเข้าใจว่ารถคันหน้าคงผ่านไปได้ จะเป็นห่วงก็เพียงแต่รถคันที่ตามมา ทว่าเขาคิดถูกเพียงครึ่งเดียว รถคันหน้าผ่านไปได้จริง แต่มุมขวาหน้าไปสะกิดมุมกันชนหลังซ้ายของรถเก๋งที่ขับช้าและขับแช่อยู่ในเลนขวาทำให้รถเสียหลักทั้งคู่ นี่กระมังคือเหตุผลว่าทำไมรถคันที่อัดตามหลังมาถึงได้กดเบรคสุดแรง จนทำให้หน้ายางส่วนที่สัมผัสกับผิวถนนแหว่งหายไปเหลือแต่ชั้นผ้าใบกับเส้นใยเหล็กที่เสียดสีกับผิวถนนจนไฟแล่บตลอดทาง
   ความเร็วกว่าระดับ 250 มันอยู่เหนือการควบคุมของรถบ้านทั่วๆ ไป รถเก๋งที่ขวางทางปืนถูกสะกิดท้ายเพียงนิดก็หมุนฟาดกำแพงกระดอนออกมาสงบนิ่งกลางถนนขวางอยู่สองเลนซ้าย รถคันที่ชนดูแล้วก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะหมุน 180 องศาเอาท้ายฟาดกับรั้วขอบทางด้านซ้ายสุด รถลอยขึ้นสูงสักสองฟุตแล้วตกลง กันชนหลังฉีกขาด ไฟท้ายทรงกลมแตกยับไม่มีชิ้นดี แต่ที่ร้ายกว่านั้นคือถังน้ำมันแตก น้ำมันทะลักออกมานองเต็มถนน อินเตอร์คูลเลอร์ใบโตขาดกระเด็น ฝากระโปรงปลิวไปอยู่ไหนไม่รู้หน้ารถย่นยู่จนดูไม่ออกว่าเป็นรถอะไร
   เหตุการณ์ชักจะไปกันใหญ่ สิบล้อสองคันที่ดูเหมือนไม่เกี่ยวอะไรด้วย แต่ตอนนี้กลายเป็นผู้ร่วมรายการหลักไปแล้ว เพราะข้างหน้าเขาแค่ไม่กี่สิบเมตรมีรถหมุนขวางถนนอยู่สองคัน ยังไม่นับรถเก๋งซิ่งคันหลังที่กำลังเบรคแต่ก็ยังหาที่หยุดไม่ได้
   เคนเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเพราะถึงแม้จะไม่ตามหลังมาติดๆ แต่ก็พอจะมองผ่านโค้งได้อย่างชัดเจน รถคันที่เบรคลากยาวตัดสินใจใช้กำแพงช่วยชะลอความเร็วและไปสงบนิ่งอยู่เลนขวาสุดไกลออกไปจากรถที่หมุนขวางอยู่ ควันและกลิ่นยางไห้มเหม็นตลบเคนอาศัยช่องว่างเลนขวาสุดผ่านขึ้นไป เขาตัดสินใจจอดหน้า Toyota Supra ที่สงบนิ่งแล้วพร้อมเปิดไฟฉุกเฉิน แต่ยังคงนั่งมองเหตุการณ์ผ่านกระจกหลัง
   ที่เขาเป็นห่วงที่สุดขณะนี้ก็คือสิบล้อสองคันจะผ่านมาได้หรือไม่ คันแรกบรรทุกพืชผลทางการเกษตรและใช้ความเร็วต่ำอยู่แล้วคงไม่มีปัญหา แต่คันที่กำลังควบแซงเป็นรถเปล่าวิ่งห้อมาด้วยความเร็วสูง ถ้ารอดก็ดีไป ถ้าไม่ก็อยู่ที่สิบล้อจะเลือกบี้คันไหนระหว่างรถเก๋งดวงซวยที่ถูกชนขวางเลนซ้ายและกลาง หรือจะเลือกรถต้นเหตุ Nissan Skyline R32 สีดำซึ่งอยู่ในช่องทางฉุกเฉิน หากแต่ลักษณะของรถยังคงหมุนกลับลำ 180 องศา เอาหน้าหันเข้าหาสิบล้อเต็มๆ ส่วน Toyota Supra รถที่เบรคจนไปฟาดกับกำแพงเคนไม่เป็นห่วงมากนักเพราะจอดชิดขอบทางและอยู่ค่อนข้างไกล
   เคนเองก็ไม่ประมาทเขาโยกคันเกียร์มาที่ตำแหน่ง D พร้อมเหยียบเบรค เพื่อให้สิบล้อมองเห็นไฟเลี้ยวดวงที่สามตรงกลางเพิ่มจากไฟฉุกเฉินที่กระพริบอยู่แล้ว แถมยังเป็นการเตรียมพร้อมหากสิบล้อคันที่เร่งแซงไม่เลือกรถทั้งสามคันแต่หันมาเล่นงานเขาแทน
   สิบล้อคันแรกท่าทางจะตกใจเหยียบเบรคลั่นถนนแต่ความเร็วก็มิได้ลดลงเลย เจ้าของ R32 เห็นดวงไฟพุ่งเข้ามาหารถก็เลยยิ่งลนปลดเข็มขัดนิรภัยไม่ออก อีกทั้งตัวเองก็ยังไม่รู้ว่ารถตัวเองน่ะถังน้ำมันแตกจนนองถนนอยู่เต็มแล้ว ทั้งๆ ที่สวิทช์ตัดไฟในรถก็มีเตรียมพร้อม แต่ความตกใจก็ลืมมันเสียสนิท
   ระยะห่างไม่กี่สิบเมตรเริ่มลดลงจนเหลือไม่กี่เมตรในเวลาแค่อึดใจ มันคือระเบิดเวลาดีๆ นี่เองที่รอสิบล้อมาช่วยจุด แม้จะขับมาไม่เร็วมากแต่จะให้หยุดกะทันหันทันทีคงยากสำหรับรถที่บรรทุกเกินพิกัด แป้นเบรคถูกเหยียบแทบมิดพื้นแต่แรงเฉื่อยที่ส่งมายังคงทำให้รถพุ่งอยู่ ส่วนสิบล้ออีกคันที่เร่งแซงก็อาศัยความคล่องแคล่วผ่านไปได้โดยยอมเฉี่ยวท้ายรถเก๋งดวงซวยที่ล้ำออกมานอกเลน
   เปรี้ยง...ชุดไฟและกันชนท้ายหลุดกระจายเกลื่อนถนน แต่คนขับรถใหญ่กลับยิ่งเพิ่มความเร็วหลังจากผ่านไปได้
   เคนรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า เขารีบออกมาจากรถแล้วป้องปากตะโกนลั่นสุดเสียง
   "ออกกกก มาาาาาา"  ยังไม่ทันสิ้นเสียงตะโกน เคนเห็นสะเก็ดไฟเกิดขึ้นทางท้ายรถ Skyline ก็คงจะมาจากความร้อนของท่อไอเสียที่วางอยู่บนน้ำมันเบนซินกองใหญ่ เปลวไฟลามไปถึงยางหลังทั้งสองข้าง แต่เจ้าของรถก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะออกมา เสียงเบรคของสิบล้อยังคงดังลั่นถนน เคนได้แต่ภาวนาขอให้สิ่งที่เขาคิดอย่าเป็นความจริง
   โครมม.. ม..  บรึม.. ม.. ม..
   สิบล้อเบรคไม่อยู่พุ่งชนรถ Nissan Skyline อย่างจัง ความแรงของการปะทะทำให้รถที่หันหัวกลับหมุนไปฟาดกับรถเก๋งที่จอดขวางอยู่ในเลนซ้าย-กลาง ไฟกองโตเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว รถสามคันรวมอยู่ในไฟกลุ่มเดียว แต่รถบรรทุกจะดูอันตรายน้อยกว่าเพื่อน เพราะอย่างน้อยคนขับก็กระโดดออกมาก่อนที่รถจะพุ่งเข้าไปชนแล้ว รอลุ้นก็เพียงเจ้าของรถอีกสองคันเท่านั้น
   เคนรีบวิ่งกลับเข้าไปในรถคว้าถังดับเพลิงเดินข้ามฝั่งถนนอ้อมไปยังทิศต้นลม เขามองฝ่ากลุ่มควันเพื่อดูคนขับรถสปอร์ตสีดำ แล้วเขาก็แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง.. ..
   คนขับเป็นผู้หญิงหน้าตาดีหมดสติอยู่ เคนทิ้งถังดับเพลิงปรี่ไปยังประตูด้านขวา แต่ประตูปิดล็อคไว้ทั้งสองบานทำให้เคนต้องเข้าทางกระจกหน้ารถที่แตกแล้ว เขาปลดเข็มขัดนิรภัย 4 จุดอย่างคล่องแคล่วและเปิดประตูออกจากด้านใน เคนมุดออกมาจากกระจกหน้าที่แตกอีกครั้ง ตรงไปยังประตูและอุ้มร่างหมดสติของสาวน้อยออกมาได้
   โชคดีที่เจ้าของ Supra ออกมาช่วยดับเพลิงไว้ทัน มิฉะนั้นเคนคงเจอศึกหนักกว่านี้แน่ ส่วนเจ้าของรถเก๋งที่ถูกชนโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่ก็ตะเกียกตะกายออกมายืนดูสภาพรถตัวเองแบบที่ยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราวเท่าไรดีนัก ส่วนคนขับสิบล้อก็หายตัวตามเคย
   เคนสังเกตภายนอกไม่มีรอยบาดแผลฉกรรจ์ใดๆ ที่ศีรษะมีรอยแตกทางหางคิ้วขวา คงจะกระแทกกับโรลบาร์ตอนที่โดนสิบล้ออัดปะทะ ลำตัวปลอดภัยดีน่าจะต้องขอบคุณเบาะนั่งคุณภาพสูงและเข็มขัดนิรภัยที่ช่วยผ่อนหนักเป็นเบา เขาค่อยๆ ประคองร่างอันหมดสติเข้าที่ปลอดภัย ปูเสื้อตัวเองกับพื้นแล้วนำนักซิ่งสาวนอนลง
   "เป็นอะไรมากไหมครับพี่"
   "ไม่น่าจะรุนแรงมาก คิดว่านะ" เคนตอบชายหนุ่มที่เพิ่งดับเพลิงที่ไห้มเสร็จ
   "แล้วคุณล่ะ" เคนย้อนถาม
   "ผมไม่เป็นอะไรครับพี่"
   ไม่นานนักเจ้าหน้าที่ทางด่วนก็มาถึงพร้อมรถพยาบาลและรถดับเพลิง เคนหมดหน้าที่พลเมืองดีแล้ว ชายหนุ่มเจ้าของ Supra กล่าวขอบคุณ เคนยิ้มตอบและเดินไปขึ้นรถตัวเองที่จอดติดเครื่องรออยู่ไม่ไกล
   สวิทช์ Power ของการปรับกล่อง ECU ถูกปรับลงไปอยู่ในเขต Normal Cruise เหมือนเช่นตอนแรก เคนออกรถเพื่อเดินทางกลับบ้าน เขานั่งคิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาและยังคงเป็นห่วงพวกนักแข่งข้างถนนอีกหลายๆ รายที่ต้องมาพบอุบัติเหตุทำนองนี้
   แล้วจู่ๆ
   แป๊นนนนน......เสียงแตรลมส่งทอดมาแต่ไกล เหลือบมองกระจกหลังก็พบรถวิ่งมาด้วยความเร็วสูงพร้อมเปิดไฟสปอทไลท์ใต้กันชนล่าง เคนตอบรับด้วยไฟเลี้ยวซ้ายอีกเช่นเดิม แต่คราวนี้รถกระบะที่ควบมาแรงไม่แซงขึ้นไปแต่กลับมาจี้ท้ายรถเขาเสียสนิทและเบนออกเลนขวาพร้อมขึ้นมาตีคู่
   เคนละมือซ้ายจากพวงมาลัยไปวางบนปุ่ม Power อีกครั้งพร้อมเตรียมโยกคันบังคับไปที่ High Speed แต่แล้วก็ยกเลิกการตัดสินใจ "เล่น" กับรถคันข้างๆ อย่างกะทันหัน
   ทันทีที่ถอนคันเร่งรถกระบะทางขวาก็ขึ้นหน้าเขาไป เคนลดความเร็วลงไปในย่านที่กฎหมายกำหนด ไม่ได้อาย ไม่รู้สึกเสียหน้าสักนิด เกมของลูกผู้ชายที่รักความเร็ว พิสูจน์ได้ในสนามแข่งเท่านั้น
   เพราะเกมข้างถนนมิใช่วิถีของคนจริง
« Last Edit: July 07, 2003, 12:27:33 pm by O'Pern »
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline danaidai

  • Sr. Member Professional Driver
  • ****
  • Posts: 353
  • I'm in Shanghai
Re:1. on the high way
« Reply #1 on: July 04, 2003, 11:31:44 am »
หุๆๆ อ่านแล้วอ่านอีกก็มันเหมือนเดิม ขอบคุณนะครับที่เอามาลงให้อ่านกัน  ;D

Pai_(LUCIFER RETURN)

  • Guest
Re:1. on the high way
« Reply #2 on: July 04, 2003, 02:59:59 pm »
  ใช้แล้วครับ  เคยอ่ายสมัยก่อนนู้น  แต่อ่านแล้วอ่านอีกก็รู้สึก สนุกเหมือนเดิม........ ;D
 
  แล้วต่อไปจะไปเจอไรหน้า นักซึ่งที่เป็นผู้หญิงนะ จำไม่ได้แล้ว..... ;D


แต่ประโยคนี้สุดๆจิงเลยครับพี่

ทันทีที่ถอนคันเร่งรถกระบะทางขวาก็ขึ้นหน้าเขาไป เคนลดความเร็วลงไปในย่านที่กฎหมายกำหนด ไม่ได้อาย ไม่รู้สึกเสียหน้าสักนิด เกมของลูกผู้ชายที่รักความเร็ว พิสูจน์ได้ในสนามแข่งเท่านั้น
   เพราะเกมข้างถนนมิใช่วิถีของคนจริง

Offline Motown Junk

  • Amateur Racer
  • *
  • Posts: 49
  • light your fire!
Re:1. on the high way
« Reply #3 on: July 04, 2003, 04:31:03 pm »
เหอๆ กว่าจะเอามาลงให้อ่าน >:( >:(   เเต่ยังสนุกดีเหมือนเดิม ;D
c'mon baby light my fire!

Offline M'

  • M'
  • Administrator
  • Amateur Racer
  • *****
  • Posts: 25
  • M///
    • slashm.com
Re:1. on the high way
« Reply #4 on: July 05, 2003, 08:52:49 am »
จำได้ว่าเมื่อก่อนมีถามว่าแข่งกันมาจากไหนด้วยไม่ใช่เหรอ หายไปไหนอ่ะ

m_o_n_o

  • Guest
Re:1. on the high way
« Reply #5 on: July 05, 2003, 08:27:12 pm »
ผู้หญิงคนนี้ชื่อ ฟ้า แน่เลย










(จำ password ไม่ได้ เห้อ......เศร้า)

m_o_n_o

  • Guest
Re:1. on the high way
« Reply #6 on: July 05, 2003, 11:41:08 pm »
อิ อิ อิ  ชื่อ พลอย ตังหาก
ชอบมากเลยครับจะติดตามต่อไปนะครับ

Offline Pai_(THE BONG)

  • Amateur Racer
  • *
  • Posts: 17
  • Gymkhana Only...! (B1)
    • www.racingweb.net
Re:1. on the highway
« Reply #7 on: July 24, 2003, 04:29:00 pm »
    อ่าา....   ใช่แล้วน้องพลอย....... ;D
  รู้ว่าบ้านน้องพลอย ใหญ่มาก........ ;D
รถแรงอาจไม่ได้เปรียบเสมอไป รถเกาะถนนดี ก็ยังไม่สำคัญเท่าทักษะการควบคุม สุดยอดกีฬารถยนต์ที่ลงทุนน้อยที่สุด    


Offline e55amg

  • Amateur Racer
  • *
  • Posts: 4
  • สวัสดี
Re:1. on the highway
« Reply #8 on: January 26, 2004, 09:26:05 pm »
ผมเคยอ่านตั้งแต่อยู่ในหนังสือ Racing Club แล้ว แต่อยากรู้ว่าคุณเคนขับรถอะไรหรอครับ

Offline *Aee-ViPeR-MR2*

  • Full Member All Thailand Championship Racer
  • ***
  • Posts: 206
  • +Aee-ViPeR-w/curly hair ^^+
Re:1. on the highway
« Reply #9 on: February 04, 2004, 10:52:55 am »
พี่เปิ้นสุดยอดดดดดดดดดด เลยอ่ะ เอ๋โคดชอบเลยอ่านแล้วมันส์มาก ได้ข้อคิดไรอีกเยอะเลย  ;)


ชอบประโยคนี้สุดแล้วอ่ะ

"ทันทีที่ถอนคันเร่งรถกระบะทางขวาก็ขึ้นหน้าเขาไป เคนลดความเร็วลงไปในย่านที่กฎหมายกำหนด ไม่ได้อาย ไม่รู้สึกเสียหน้าสักนิด เกมของลูกผู้ชายที่รักความเร็ว พิสูจน์ได้ในสนามแข่งเท่านั้น
เพราะเกมข้างถนนมิใช่วิถีของคนจริง"
+*~*+เอ๋ซัง+ทูจัง+*~*+ -Aee-ViPeR-AKA-Vp-ViPeR-LoVe-Two-JuNg-ViPeR-ถูก-EVISU+ViPeR-ครอบงำ!- ดริฟท์คือการควบคุมรถขณะที่รถกำลังจะอยู่เหนือการควบคุม

ตั้ม...เม้ง

  • Guest
Re:1. on the highway
« Reply #10 on: March 04, 2005, 11:04:00 am »
ตามมาอ่านคับ ชอบๆๆ

Offline boy-Za

  • Amateur Racer
  • *
  • Posts: 2
  • +^-^+
Re: 1. on the highway
« Reply #11 on: August 24, 2007, 06:12:20 pm »
อ่านแล้วมันจังเลยครับ
"คนที่อยากจะเป็นผู้ชนะ ก็ต้องรู้วิธีที่จะเอาชนะ และหนทางที่จะเป็นผู้ชนะนั้นมีด้วยกันหลายวิธี การที่จะต้องไปให้ได้เร็วกว่าคู่แข่งนั้นเป็นเพียงแค่แนวทางในการปฏิบัติ หากลองคิดหาวิธีที่จะเข้าเส้นชัยก่อนคู่แข่งจะทำให้การตีโจทย์ครั้งนี้ง่ายขึ้น"

Offline ทราย

  • Amateur Racer
  • *
  • Posts: 19
Re: 1. on the highway
« Reply #12 on: April 18, 2008, 04:38:59 pm »
อ่านแล้วนึกภาพตามไปด้วยเลยค่ะ  สุดยอดพี่สุดยอด