Author Topic: ความจริงที่โหดร้ายตอนที่3  (Read 13447 times)

xportto

  • Guest
 เราสองคนใช้เวลาคุยกันถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ประมาณ 3

ชั่วโมง  แต่ก็หาข้อยุติไม่ได้เลยซักที  ผมจึงต้องตัดสิน

ด้วยการแนะนำให้เธอขึ้นไปนอนพักผ่อนบนบ้าน  เพื่อที่

เธอจะได้คลายความเครียดที่เก็บสะสมมานาน  

“แป้งไม่ต้องกลัวนะ คืนนี้เราจะอยู่เป็นเพื่อนแป้งเอง ขึ้นไป

นอนได้แล้วคนดี” ผมพูดกับแป้งพร้อมทั้งเอื้อมมือไปลูบ

หัวเธอเบาๆ

“ไม่เอาแป้งกลัว ไหนบอกว่าจะอยู่ด้วยกันไง ทำไมทิ้งกัน

แล้วละ” แป้งส่ายหน้าและก็กำมือผมไว้

“ไม่ได้หรอกแป้งเป็นผู้หญิงนะ จะให้ผู้ชายขึ้นไปนอนกับ

ผู้หญิงได้อย่างไร ใครรู้มันไม่ดีนะ เอาอย่างนี้แล้วกัน เรา

จะนอนที่โซฟานี้เอง แป้งขึ้นไปนอนเถอะนะ ไม่ต้องเป็น

ห่วงนะ” พอผมพูดเสร็จ ผมก็ไปส่งแป้งที่บันได พร้อมกับ

ส่งยิ้มให้เธอเล็กน้อย

“ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น เราสองคนจะไม่ทิ้งกันใช้ไหม” แป้งหัน

หลังกลับมาถามผม

“ใช้สิ”ผมตอบ

   หลังจากที่แป้งขึ้นนอนได้สักพัก ผมก็เดินตรวจรอบๆ

บ้าน ว่าไม่ได้ปิดประตูหรือเปล่า พอผมเดินตรวจเสร็จ ผมก็

กลับมานั่งที่โซฟา และก็เอามือก่ายหน้าผาก เพื่อคิดหาวิธี

แก้ไขปัญหาของแป้ง ผมคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก

ผมจึงตัดสินใจ ล้มตัวลงนอนบนโซฟา  และก็เผลอหลบไป

ในที่สุด
 
   แกรกๆ ......................  เฮ้ยเงียบๆ..........

พอผมหลับได้ไม่นาน ผมก็ได้ยินเสียงอะไรก็ไม่รู้ มาจาก

ประตูหลังบ้าน จะเป็นเสียงหนูก็ไม่ใช่  หนูอะไรพูดได้

“หรือว่าจะเป็นเสียง.........” ผมได้แต่คิดในใจ ว่าเป็นเสียง

ต่างๆนาๆ จนผมต้องค่อยๆหมุนตัวมาอีกข้างหนึ่งอย่าง

เงียบๆ เพื่อที่จะดูว่า หลังบ้านมีอะไรเกิดขึ้น (โซฟาที่ผม

นอนอยู่ มันหันหน้าไปทางหลังบ้านพอดี) พอผมหมุนตัว

เสร็จ ผมก็ค่อยๆลืมตาทีละนิด จนม่านตาของผมเปิดอย่าง

เต็มที่ แต่สิ่งที่ผมเห็นนั้น ก็คือ.........ความมืดนั้นเอง

“เฮ้ย ก่อนที่เราจะนอนเราไม่ได้ปิดไฟนิ  ใครมาปิดไปวะ

สงสัยจะเป็นแป้งแน่เลย” ผมพูดกับตัวเองในใจ พร้อมทั้ง

เพ่งเล็งความมืด ไปทางหลังบ้าน

แกรก............. แกรก...............  

แอด...............................................

“เสียงเปิดประตูนิ เฮ้ยใครเข้ามาวะ” ผมนึกในใจ

เสียงที่ผมได้ยินนั้น  ผมก็ตอบไม่ได้ว่าเป็นเสียงอะไร แต่

เสียงเหล่านี้ มันดังกึกก้องในหัวของผมตลอดเวลา ทั้งๆที่

เสียงเหล่านี้เงียบหายไปได้สักพักแล้ว  ถึงแม้ว่าผมจะกลัว

เพียงใด ผมต้องรู้ให้ได้ว่า ต้นกำเนิดของเสียงนั้น มันคือ

อะไร

ตุบ......ตุบ........ตุบ

   สักพัก ก็มีเสียงฝีเท้าค่อยๆก้าวเดินทีละก้าว ดังมาจาก

หลังบ้านพร้อมกับความมืด

ตุบ......ตุบ........ตุบ    เสียงค่อยๆดังมากขึ้น จนผมรู้สึก

ได้ว่า ฝีเท้านั้นตรงมาทางผม  ซึ่งในตอนนั้นผมคิดอะไรไม่

ออก กลัวก็กลัว ขนก็มาลุกเหมือนแมวที่กำลังตกใจอีก  

ผมก็เลยหลบตาและยกมือทั้งสองขึ้นมาสวดมนต์  พอผม

สวดมนต์ได้สักพัก เสียงฝีเท้าก็เงียบหายไปทันที ผมก็

ค่อยๆลืมตาขึ้น พร้อมทั้งถอนลมหายใจอย่างแผ่วเบา

ทันใดนั้นเอง สิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ลำแสงสีส้มกลมโต

ขนาดใหญ่ ปรากฏเหนือศีรษะของผม ทำเอาผมแทบหัวใจ

วาย สติของผมไม่อยู่กับตัวแล้วในตอนนั้น  ร่างกายของ

ผมนั้นสั่นจนควบคุมไม่ได้  ขนทั้งร่างกายต่างพร้อมใจลุก

ขึ้นมา เพื่อบอกให้โลกรู้ว่า ผมกลัวจะตายอยู่แล้ว........  

หลังจากลำแสงสีส้มกลมโตขนาดใหญ่ ปรากฏเหนือศีรษะ

ของผมประมาณ 10 วินาที  ผมก็ตั้งสติให้กลับมาอยู่กับ

เนื้อกับตัว  พร้อมทั้งรวบรวมความกล้าของลูกผู้ชายทั้ง

หมด เพื่อต่อสู่กับความกลัวที่มาจากลำแสงสีส้ม สักพักก็มี

เสียงของคนกระซิบคุยกันเพื่อนัดหมายอะไรสักอย่าง  ผม

จับใจความได้ว่า

“เฮ้ย เดี๋ยวข้าจะขึ้นไปลากมันลงมาเอง เอ็งคอยดูข้างล่าง

เดี๋ยวคนมาเห็นเข้า แล้วจะซวย”

เมื่อผมได้ฟังข้อตกลงทั้งหมด ผมก็พอจะเดาได้ว่า พวกนี้

ต้องเป็นขโมยแน่ๆ และแล้วลำแสงสีส้มที่เป็นลำแสงของ

ไฟฉาย กำลังเคลื่อนตัวไปทางบันได เพื่อที่จะขึ้นไปทำอะไรสัก

อย่าง ตามที่ขโมยได้ตกลงกันเอาไว้  ผมก็มองตามอย่าง

ไม่ละสายตา

“มันมากันสองคนนิหว่า” ผมมองเห็นแสงสะท้อนของ

ไฟฉายที่กระจก ตรงที่ขโมยพวกนั้นยื่นอยู่ จนผมได้รู้ว่า

มันมากันสองคน คนแรกที่ถือไฟฉายมันสวมหมวกสีดำ

คนที่สองไม่ได้ใส่หมวกแต่ถือถุงอะไรบางอย่าง

“เอ็งรอตรงนี้ ไม่ต้องตามมา เฝ้าให้ดีๆนะโว้ย” ขโมยคน

แรกบอกให้ขโมยคนที่สองรอตรงทางขึ้นบันได

“ลงมาเร็วๆละ” ขโมยคนที่สองตอบ

หลังจากขโมยทั้งสองตกลงกันเสร็จ  ขโมยคนแรก ก็

ค่อยๆเดินขึ้นบันไดไปชั้นสอง ส่วนขโมยคนที่สองนี่สิ เดิน

มายืนพิงตรงหลังโซฟาที่ผมนอนอยู่

“มันจะรู้ไหมวะ ว่าเรานอนอยู่ตรงนี้ ดีแล้วที่พวกมันพึ่งมา

เปิดไฟฉายตรงหัวเราพอดี ไม่งัน มันจับเราได้แน่ เอาอย่าง

ไรดีวะ จะจัดการคนนี้ก่อน หรือว่ารอให้อีกคนลงมา และ

ค่อยจัดการทีเดียว”ผมพูดกับตัวเองในใจ

“รอก่อนสิ” พอผมพูดกับตัวเองเสร็จ ก็มีเสียงมากระซิบที่

ข้างหูของผมว่า...รอก่อนสิ...  ผมก็แปลกใจอยู่เหมือนกัน

ว่า เสียงนั้นมาจากไหน แต่มันไม่ใช่เสียงของขโมยที่อยู่

ตรงหลังโซฟาแน่ๆ เพราะมันเป็นเสียงของผู้หญิง

“เสียงใครวะ คุ้นๆ”ผมนึกในใจ พร้อมทั้งมองไปรอบๆตัว

บ้าน ว่าเสียงมาจากไหน

“สงสัยกลัวจนหูฝาดแน่เลยเรา เอาวะรอหน่อยก็ยังดี”

หลังจากที่ผมรอพวกมันได้สักพัก ผมก็ค่อยๆเอื้อมมือไป

บนโต๊ะข้างๆโซฟา เพื่อหาอะไรสักอย่าง มาต่อสู่กับพวก

มัน และแล้วผมก็คลำไปเจอแก้วที่วางอยู่บนโต๊ะ

“ไอนี่ก็ได้วะ” ผมก็หยิบแก้วอย่างเบาๆ และมาเก็บไว้ข้างๆ

ลำตัวผม

“ทำไมไอ้คนที่มันอยู่ข้างบนมันนานจัง ไม่ได้การแล้ว

จัดการไอ้คนนี้ก่อนแล้วกัน แล้วค่อยดักซุ้มจัดการกับอีก

คน”

ผมก็รวบรวมความกล้าทั้งหมด  และก็รีบลุกขึ้น เพื่อจะขว้าง

แก้วไปยังหัวของขโมยที่ยื่นตรวจการณ์อยู่หลังผม

ทันใดนั้น เสียงของขโมยที่อยู่ชั้นบนโว้ยวายดังลั่น คล้ายๆ

เจออะไรที่น่ากลัวบางอย่าง

ผมกับขโมยคนที่อยู่ข่างล่างหันไปมองที่ชั้นสองพร้อมกัน

ด้วยความแปลกใจ

“เฮ้ยช่วยด้วย....  ช่วยแล้ว.......” ขโมยคนที่อยู่ข้างบน

ร้องดังลั่น พร้อมทั้งกระโจนตัวออกมาจากประตูห้องใด

ห้องหนึ่ง และวิ่งหน้าตั้งมาที่บันได เพื่อหนีอะไรบางอย่าง

..ติดตามตอนต่อไป..แล้วคุณก็จะได้พบกับความจริง

Offline armlux

  • Amateur Racer
  • *
  • Posts: 6
  • I'm a llama!
Re:ความจริงที่โหดร้ายตอนที่3
« Reply #1 on: September 02, 2004, 10:30:34 pm »
กะลังมันส์เลยอ่ะ ต่อคับต่อ ;D ;D ;D

Offline novelty

  • Amateur Racer
  • *
  • Posts: 4
  • power no darg
Re:ความจริงที่โหดร้ายตอนที่3
« Reply #2 on: October 15, 2004, 03:23:45 pm »
มาต่อเร็วๆนะครับกำลังลุ้นเลย  ;D ;D ;D
อย่าให้คนแรงกว่ารถ

Offline Thep Twenty

  • Group N Racer
  • **
  • Posts: 91
  • ก็แค่ เด็ก ม.6
Re:ความจริงที่โหดร้ายตอนที่3
« Reply #3 on: October 29, 2004, 08:15:27 pm »
รอคับรอ มาเร็วๆละกันเน้อ >:(
RB Only !