Author Topic: (ต่อจากตอนที่แล้ว)ไปให้ได้ กลับให้ถึง  (Read 11512 times)

Offline Thep Twenty

  • Group N Racer
  • **
  • Posts: 91
  • ก็แค่ เด็ก ม.6
ต่อนะครับ อย่าเพิ่งเบื่อกันหล่ะ เรื่องจากประสพการณ์จริงครับ

ครืดๆๆๆ……”เฮ้ย ท่าไม่ค่อยดีแล้ว” โซ่เกรด XTR ที่นักเล่นจักรยานทุกคนรู้ว่าดีและอาจจะดีที่สุด มันกำลังจะขาดครับ!!!!! ผมไม่สามารถทำอะไรต่อได้นอกจากพยายามถ่ายแรงลงสู่ล้อให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ระยะทางเหลือไม่มาก ประคองไว้ก็น่าจะรอด 30วินาทีต่อมารถวิศรุตก็ทำพิษเนื่องจากใบจาน Acera พร้อมชุดขับเคลื่อนด้านหน้าเริ่มออกอาการ ลง1แล้วหลุด ตัวผมเองก็ยังงงอยู่ที่ทำไมมันเป็นเช่นนั้น ต่างคนก็ต่างประคองเพื่อไปให้ถึงจุดหมายที่ตั้งไว้   สภาพจักรยานที่แทบจะไม่เหลือความสมบูรณ์ไม่เหมือนช่วงแรกๆของการเดินทาง
ประคองไปได้ซักพัก เจอหล่มซักพัก ปั่นขึ้นมาได้ไม่เท่าไหร่เอง……….ถึงแล้ววววววหน่วยโล๊ะโค๊ะ
พอผมถึงก็มีเสียงทักจากเจ้าหน้าที่ “อ่าวเป็นไงบ้าง พักก่อน มาเอาน้ำที่นี่ได้นะ” หลังจากนั้น ผมโซ้ยข้าวผัดที่แบกขึ้นมา2ห่อกับวิศรุต กินกันจนขี้เกียจไปต่อเลยก็ว่าได้ ครื่มๆๆ เสียงฟ้าที่เริ่มมืดและเริ่มใกล้เข้ามาแล้ว
“เร็วเข้าเหอะ รีบซ่อมรถ เดี๋ยวได้ไปดูกระเหรียงกัน ไหนๆมาแล้วก็ต้องไปให้ถึง”  ผมรีบต่อโซ่รถผมก่อนเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะเละไม่เป็นท่าเลยสำหรับโซ่ราแพงลิ้วถึง1000 บาท ข้อต่อเละเลยอ่ะ แทบจะโบ๋เป็นรู ดีที่เอาชุดตัดต่อโซ่กับประแจเลื่อนมา ยังพอซ่อมได้ไม่ยากได้ ถัดมาอีกคัน วู้ว เฟืองเยินเลย งอ ออกมาซี่เดียวเอง ประแจเลื่อนอีกแล้วครับพระเองงานซ่อมครั้งนี้ทั้งเคาะ ทั้งทุบ สุดท้ายมันก็เริ่มตรง พอขี่ต่อได้ละ ถึงจะไม่เต็มร้อยก็เหอะ ต่อไปวิศรุตมีหน้าที่ไปขอน้ำ ซึ่งผมจะไปล้างบันได้ซักหน่อย พอเราเก็บของเสร็จ เราก็เดินทางต่อ ไปอีกประมาณ3กิโล
ขี่ต่อได้ยังไม่ถึง200เมตรเลยฝนดันทะลึ่งตกลงมาซะอีก ทีแรกก็ว่าจะย้อนอยู่หรอก คำยุจากวิศรุตทำให้ผมต้องไปต่ออีก แต่ก็ไม่เป็นไร ไหนๆมาแล้ว ต้องเอาให้ถึง ก่อนหน้านั้นมีรถเจ้าหน้าที่ ที่ทักผมตอนมาถึงขับผ่านไป แต่ผมขี่ตามเขาไม่ทันเลยต้องขี่กันเอง แหะๆๆๆ แย่เลย ฝนก็ตกลงมาหนักขึ้นทุกทีสภาพทางก็เริ่มย่ำแย่ไลน์ล้อที่รถต่างๆวิ่งผ่านไปผ่านมาก็เริ่มลึกขึ้นทุกทีแล้ว จะเลี่ยงก็เลี่ยงลำบาก แต่ทำไงได้ จะลุยก็เสียดายรถ ฝนก็ตกหนักขึ้นมาทุกที เสื้อผ้าเปียกหมดแล้ว จักรยานก็เปียก กระเป๋าที่เอามาด้วย เสื้อเลอะหมดเลย ตอนนี้หลังจากที่เปียก ลูกบ้ากเริ่มเพิ่มขึ้น ความเร็วจาก10กิโลเมตร/ชั่วโมงกระโดดขึ้ไปราวๆ17-18ทันที พื้นเป็นดินแข็งที่มีตะใครน้ำเกาะอย่ผสานกับทางที่เอียงเป็นตัววี ผมเกาะอยู่ทางของด้านซ้าย วิ่งไปเรื่อยๆซักพัก ดริฟเลย วู้วววว เสียว ยังไม่ได้ทันตั้งตัวหรอก จักรยานหมุนติ้ว ท้ายกวาดไม่เป็นท่าตามแรงส่งที่มาจากทางลาดลงที่ชันเอาเรื่องเหมือนกันสุดท้ายก็ต้องเบรคให้อาการหายไปก่อนแล้วลดความเร็วลงมาในย่านที่ปลอดภัย ปั่นไปซักพัก เจอแอ่งน้ำ สุดท้ายก็ไปไม่รอดกันทั้งคู่ ลงเข็นดีกว่า ออกไปไม่นานครับ ลงเนินมาอยู่มันๆและแล้ว ตูม จักรยานทั้งสองคันกระโจนลงน้ำระดับเกือบมิดล้อ “เหอะๆๆๆ เอาไงเอากันว้ะ” ขี่ต่อไปอีกก็ไม่เห็นจะมีอะไรเลย กลับดีกว่า ก่อนที่ฝนจะตกหนักกว่านี้ย้อนกันมาถึงแอ่งน้ำเมื่อกี้ก็ตัดสินใจกันครั้งสุดท้าย  เอาไงเอากันว้ะ ถอดเสื้อไปเลย รถก็เปียกไปแล้ว ไม่เป็นไรหรอก แต่ขากลับนี่ซิ
RB Only !