Author Topic: ทางลื่น สะพานเยอะ ระวัง!!!  (Read 11194 times)

Offline Thep Twenty

  • Group N Racer
  • **
  • Posts: 91
  • ก็แค่ เด็ก ม.6
“อ่อยเหนื่อยจัง นี่แค่ช่วงแรกนะเนี่ย” เสียงบ่นพรึมพร่ำของทั้งสองคนเริ่มขึ้นตามความเหนื่อย จากนั้น ผมและวิศรุต จึงเดินทางต่อ เดินทางไปคุยไปตามประสาเพื่อนเดินทางไปเรื่อยๆเพื่อให้ไม่คิดถึงความเหนื่อยและระยะทางอีกยาวไกลในข้างหน้า “อ่าว เวรละซิ ไปทางไหนละเนี่ย” ผมพูดขึ้นพร้อมกับเดินไปสำรวจไลน์ซึ่งผมตกลงกับวิศรุตว่าจะไปทางสะพานซุง ระหว่างที่เดินไปบนสะพานซุงแล้ว บอกได้เลยว่าเสียวครับ เสียวหล่นอย่างแรงเลยครับเพราะรองเท้าที่เหมือนรองเท้าฟุตบอลเลยครับ ออกไปทางแนวนั้นอ่ะ แต่มันเป็นรองเท้าจักรยานเท่านั้นเองหลังจากที่ผมเดินข้ามสะพานซุงไปแล้วก็ตังต้องหลุดอีกรอบเพราะเจอแอ่งน้ำครับ หรือจะเรียกว่าบ่อเลยก็ได้  เอาไงดีหล่ะ พอเลือกไลน์ได้แล้วผมก็ค่อยๆใช้เกียรต่ำลงมาแล้วผ่านไปได้อย่างไม่ยากซักพักผมเห็นทางที่มันแยกมาตอนแรก ผมถึงกับตะลึงเลยครับ “โหอะไรฟะ ไมทางขาดด้วยเนี่ย ขึ้นมาชันอีกต่างหาก ที่ที่ไม่ได้ไป” วิศรุตหัวเราะแหะๆๆ  เอา เดินทางต่อกันเลยดีกว่า วู้ยยยยยขึ้นอีกแล้ว ตลอดทางมีแต่ขึ้นกับลงครับ เหนื่อยมากๆ    
ความเร็วเดินทางราวๆ15กิโลเมตร/ชั่วโมงไปเรื่อยๆ แต่ยังต้องมีคอนเซ็พท์ ว่า   ขึ้น 5 ราบ 15 ลง 25 เหอะๆๆๆคิดได้ไง   ซักพักก็ “เฮ้ย หินใหญ่อีกแล้ว ไลน์ไหนดีเนี่ย เฮ้ยๆๆๆๆๆ ลงไปแล้วววอ่ะ วู้ยยเสียววว”  เส้นทางที่เต็มไปด้วยหิน ตระใคร่ และไลน์ของรถโฟรวีล แต่ด้วยระบบกันสะเทือนที่เซ็ตกันมาอย่างดีก่อนจะออกเดินทางทำให้ผมรูดมาได้อย่างไม่ยากนัก  และแล้วเราก็ต้องหาที่พักกันอีกทีเพื่อดื่มน้ำหลังจากที่ตะบี้ตะบันปั่นขึ้นมาจนระบบขับเคลื่อนแทบจะทนไม่ไหว เสียเวลากันการดื่มน้ำและลงไปล้างหน้าที่ลำธารกันพอสมควร เราจำงเดินทางกันต่อ  
โอ้ว ลงเนินอีกแล้ว ไลน์ไม่ยากนัก มันบังคับวิ่งอยู่แล้ว พลังเบรคXTทำให้การลงเขาเป็นไปได้อย่างไม่ยากนักผสานกับระบบรองรับยี่ห้อดังในวงการจักรยาน ROCK SHOX นะเอง (แต่ของผมรุ่นไม่หรูนักหรอก) ครืดๆๆๆๆๆๆๆๆเสียงยางที่แทบจะล๊อคตายอีกครั้งบ่งบอกกับผมว่าข้างหน้านั้นคือสะพาน ถ้าผมไม่เบรคก็คือจบ
“สะพาน เสียงตะโกนขึ้นไปจากผมซึ่งลงมาก่อนแล้ว”  “อ่าเห็นแล้ว ถ้านัทเทพไม่บอกพี่คงลงน้ำไปแล้วอ่ะ”  อู้ว ขึ้นอีกแล้วเหรอเนี่ย แล้วจะเอาเนินที่ไหนตั้งหลักส่งขึ้นไปเนี่ย………….คร๊อกแคร๊ก    เสียงชิฟเกียรของเกียรของวิศรุต ดูท่าจะไม่รอดแฮะ และแล้ว-------ปั้ง ๆ   ๆ เสียงดังติดๆกันไม่กี่ที และสงบนิ่งบ่งบอกให้ผมรู้ว่า พี่เขาเชนเกียรไม่ทัน จากเสือภูเขาเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนเป็นเสือภูเข็นทันที จากพลังงานสู้ล้ออะลูมินั่มกลายเป็นสู่รองเท้าคอนเวิรตแทน ผมหล่ะทำไงต่อดี “เอาว้ะ ยังไงก็ต้องขึ้นไปให้ได้”   โป้ง! เอาอีกแล้วครับ ทีนี้ตารถผมบ้าง ยังครับ ผมยังไม่ดับ เกียรมันเปลี่ยนได้ทันใจผมเหมือนเดิม(ได้ยินแล้วก็เสียวเหมือนกัน)    เราสองคนเดินทางต่อไปเรื่อยๆทั้งทางที่เป็นผิวทราย กรวด ลูกรัง รวมถึงเส้นทางที่เกือบจะเป็นโคลนในระยะทางที่ผ่านมา ทำให้ผมเริ่มเข้าที่เข้าทางได้แล้วเลยปั่นได้เรื่อยๆ แต่ก็ติดอยู่เรื่องเดี้ยวววววว รองเท้าแม่งปลดไม่ออกอ่ะ เซ็งเลย คราวหน้าถ้ารู้ว่าจะไปทางที่รถโฟรวีลเขาวิ่งกัน ผมเอาบันไดธรรมดาไปดีกว่า ปั่นไปได้ไม่นานก็เจอแล้วอีกหนึ่งสะพาน สบายมากสะพานนี้ ขี่ผ่านฉลุย ระยะทางหลังๆเริ่มโหดขึ้นโดยมีไลน์ล้อที่โฟรวีลปั่นๆๆๆๆๆกันจนเป็นร่องเกินขึ้นซึก่งกว่าผมจะหลดจากร่องพวกนี้ไปก็ใช้เวลาไม่น้อยเลยทีเดียว “เอาไงดีเจอไลน์พวกนี้” ผมพูดขึ้นพร้อมกับรองเท้าที่กำลังจะปลดไม่ออก แหะๆๆๆ  “เดี๋ยวเดินดูก่อนละกัน”  ซักพัก “เฮ้ย แข็งๆๆๆ ไปได้โลด งั้นไปต่อเหอะ” เหลืออีกไม่เท่าไหร่เองอ่ะ ผ่านครึ่งมาเยอะแล้ว เอาไงเอากัน หลังจากที่ผมผ่านไปเจอสะพานสุดท้านแล้ว แต่เจ้ากรรมดันต้องลุยน้ำไปก่อนนี่ซิลำบาก รถก็เลอะเทอะหมดแล้ว รองเท้าก็ปลดค่อยไม่ออกเพราะขี้โคลนเข้า เอาไงดี สุดท้ายโชคดีที่ยังมีไลน์ให้ขึ้นสะพานได้ ห้อยยย เหนื่อย พักรถกันแปปนึง จึงออกเดินทางต่อ โหเฮ้ย อะไรมันจะชันขนาดนี้  เข็นอีกแล้วตามฟอร์ม ไปซักพักก็มีเนินอีกแหละ (ทำไงได้อ่ะ ขึ้นเขาอ่ะ) รรบบเกียรที่เริ่มจะรวนแล้วเริ่มออกอาการทันทีที่ผมเชนเกียรลงมาเพื่อที่จะคลานขึ้นเนิน…………
RB Only !