ธค 58

[O'Pern]

18 ธค 58
          ขี่จักรยาน 30 นาที โปรรับลมหนาวยังไม่หมด ต้องรีบสูด ลมหนาวล็อตนี้น่าจะอยู่อีกไม่กี่วัน ดูพยากรณ์อากาศเขาว่าพรุ่งนี้วันสุดท้าย แล้วก็จะเริ่มอุ่นขึ้น ปัดโธ่ มาแค่ไม่กี่วันเองน่ะ
          มื้อเช้าวันนี้อาหารดีโคตร เต้าหู้เหลืองผัดกับต้นหอม บร็อคโคลี่ผัดกับถั่วลันเตาและแครอท ไข่เจียว ข้าวกล้อง งาดำ กระเทียมสด
          เช้าไปถึงที่ทำงานก็เข้าไปยกของในโกดังเช่นเคย ใกล้ปลายปีแล้ว เป็นเทศกาลเก็บสต็อคสินค้าอีกเช่นเคย ขนของเก่าออกมาขาย เอาของใหม่เข้าไปเก็บ เป็นแบบนี้ทุกปี
          บ่ายกลับเข้ามาบ้าน นั่งทำงานเขียนที่คั่งค้างมานาน แต่พอตอนเย็นแม่โทรมาเรียกให้กลับไปเฝ้าร้านต่อจนร้านปิด อืมม ขอบคุณครับที่ให้ผมว่างไปทำงานนิดหน่อย

[O'Pern]

19 ธค 58
          กินน้ำส้มคั้นสดทำเอง 1 แก้วใหญ่
          เช้านี้ไม่ได้ขี่จักรยาน ลองมาซ้อม Uke ท่ามกลางลมหนาวบ้าง เฮ้ยย เวิร์คดีเหมือนกันว่ะ
          อาหารเช้านี้กินฉู่ฉี่เนื้อปลาเก๋า ไข่ต้ม ผักแกล้มเพิ่ม “ขมิ้นขาว” ชิ้นเท่าหัวแม่มือ แครอทลวก กระเทียมสด ข้าวกล้องโรยงาดำบด
          ไปส่งมิวแล้วเลยไปร้านขายของ จัดขำขำแค่ 50 ลัง แต่ก็เกือบจะออกอาการปวดหลัง เลยต้องนังยองๆ คุกเข่ากับพื้นแล้วยก เป็นท่าที่ทุเรศมาก แต่ก็ต้องทำเพื่อป้องกันหลังเจ็บ ตอนสายกินส้มไป 2 ผล เติมของดีมีคุณค่าให้กับร่างกาย
          บ่ายไปธนาคารอีกแล้ว หิวโหย กินก๋วยเตี๋ยวในฟู๊ดเซนเตอร์เหมือนเดิม จากเดิมปกติจะกินบะหมี่ วันนี้ลองเส้นเล็กบ้าง เพราะบะหมี่ร้านนี้ไม่ค่อยอร่อย ใส่ลูกชิ้นแคระ เพราะมีเต้าหู้ด้วย
          วันนี้ไม่รู้อารมณ์ไหน กินก๋วยเตี๋ยวเสร็จ นึกอยากกินเครป ใส่หมูหยอง น้ำพริกเผา กินต่อจากก๋วยเตี๋ยวทันที ผลคืออิ่มจัง
          ตอนแรกจะไปฟิตเนสออกกำลังกาย เลยเปลี่ยนแผน ไปตอนนี้อ๊วกแตกแน่ๆ กลับบ้านดีกว่า มาทำงานที่บ้านต่อ
          เกิดเหตุหิมะถล่มที่นอร์เวย์

[O'Pern]

20 ธค 58
          ตื่นมา 0500 แต่ขี้เกียจลุกเฉยเลย สงสัยนอนดึกไปหน่อยเลยเกลือกกลิ้งต่ออีกนิด ปกติจะไปวิ่งที่ศูนย์เยาวชนบางมด แต่วันนี้นึกอะไรไม่รู้ ลองไปวิ่งที่สวนสาธารณะใต้สะพานแขวนตรงถนนพระราม 3 ดูบ้าง
          ไปแบบมึนๆ เลย ทางเข้าอยู่ไหนยังไม่รู้เลย มันเข้าทางใต้สะพานแขวนได้เลย แต่ผมไม่รู้ประตูทางเข้าอยู่ไหนไง เลยไปกลับรถยูเทิร์นด้านหน้า ซึ่งต้องไปถึงแยกสาธุประดิษฐ์เลย อยากมาสัมผัสบรรยากาศริมน้ำน่ะครับ อากาศหนาวๆ น่าจะสดชื่นดีไม่น้อย
          ลู่วิ่งระยะทาง 850 เมตร ผมจัดไป 5 รอบ วิ่งแบบช้าๆ เลยนะ ให้หัวใจเต้นในโหมด Fat Burn มีเครื่องเล่นบริหารร่างกายแบบเป็นสถานี้ด้วย แต่จัดเรียงแบบคับแคบเกินไปหน่อย ลองเล่นแล้วก็โอเคดีนะ บริหารได้หลายส่วน ชอบมากตรงมีให้โหนบาร์ด้วย และยังมีก๊อกน้ำให้ล้างมือหลังเล่นเสร็จอีกด้วย ชอบเลย
          อีกจุดที่ชอบคือบรรยากาศริมน้ำ มีหลายมุมให้นั่งเล่น เสียดายนิดที่วันนี้น้ำลง เลยเห็นน้ำไม่เต็มตลิ่ง ผมอยู่ในสวนนี้จนถึง 0800 เคารพธงชาติแล้วก็กะจะไปหาของกินแถวถนนตกต่อ ได้ข่าวว่ามีร้านอาหารอิสลามอร่อยมาก
          ร้านหาไม่ยากครับ อยู่ตรงถนนตก ตรงข้าม รพ เจริญกรุงประชารักษ์ แต่ผมโง่ไปหน่อยดันมาวันที่เขาปิดเสียนี่ แถมปิดกันหมดทุกร้านอีกด้วย เซ็งสัสสสส เป็นอันว่ากลับไปกินก๋วยเตี๋ยวแถวบ้านร้านเดิม “เจ๊เค็ง”
          บะหมี่ต้มยำแห้ง ใส่ผักบุ้ง ถั่วงอก ไม่ใส่ผงชูรส มักจะสั่งแนวๆ นี้ยืนพื้นเป็นหลัก ผมสั่งใส่ลูกชิ้นเคระ แต่เจ๊จัดลูกชิ้นทุกอย่างมาให้ เฮ้ยย เพิ่งรู้ว่าลูกชิ้นแบบอื่นก็อร่อยดีว่ะ
          ร้านเล็กๆ คับแคบมาก ลูกค้าคนหลังๆ เข้ามาไม่มีที่นั่ง โต๊ะอืนก็นั่งกินหน้าตาเฉย ผมเลยเรียกคุณลุงคุณป้าสองคนให้มานั่งด้วยกัน
          กินเสร็จเผ็ดปากมาก อยากกินขนม แม่ค้าหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวขายขนมไทย พวกข้าวเหนียวหน้าสังขยา ตะโก้ และมีฟักทองแกงบวชด้วย ผมรีบจัดฟักทองมา 1 ถุงทันที ไอ้นี่มีประโยชน์มากๆ สมควรกิน
          จะเดินขึ้นรถ แต่ดันเดินเข้า 7 หาไอติมกินต่อ ผมไม่ได้เข้า 7 มานานเลย ร้านนี้ใหญ่มากด้วย มีขนมอบ ขนมปังหลากหลาย ดูน่ากินดี ไปหยุดเอาตรงตู้ไอติม ปกติชอบกินแมกนั่ม แต่วันนี้เจอแมกนั่มรุ่นใหม่หลายรุ่นเลย มีแบบทับทิมด้วย เฮ้ยย งง แถมยังมี Black Espresso ด้วย ผมจัดไอ้รุ่นนี้มาเลย ไม่ต้องคิดเลย อ้อ ไอ้แมกนั่ม Gold นี่ไม่ค่อยอร่อยนะ ออกแนวหวานมากเกินไป ไม่แนะนำ แมกนั่มอัลมอนด์ก็เช่นกัน หวานไปหน่อย
          มองไปมองมา เจอไอติมไมโลด้วย โห นึกถึงบรรยากาศตอนเด็กๆ ที่มีไมโลมาแจกในโรงเรียนขึ้นมา แม่งเหมือนโดนสะกดจิต เขามีสองรุ่น สองแบบ ผมจัดมาอย่างละแท่งเลย ปิดท้ายด้วยตระกูลบิ๊กดิ๊ป คือมีเคลือบช็อคโกแลต รวมไอติมวันนี้ผมจัดมาถึง 5 แท่ง แม่งอย่างเว่อร์เลย
          ถึงบ้านก็รีบแช่ไอติมก่อนเพื่อน จากนั้นก็อาบน้ำ ลงมาเล่น Uke ต่อ ลมเย็นๆ พัดตลอดวัน สบายดีมากๆ    
          เปิดคอมฯ ในรอบหลายวัน ช่วงนี้แม้จะว่างตอนบ่าย แต่ก็ไปฟิตเนตตลอดเลย ไม่ได้จดบันทึกทุกวันเหมือนที่เคยทำ
          บ่ายแม่ซื้อราดหน้ามาฝาก เป็นของจากร้าน “จ๊ากกี่” อนุสาวรีย์ชัย ร้านนี้มีชื่อเสียงมาก แต่ไม่น่าเชื่อว่าราคาล่าสุดวันนี้คือห่อละ 110 บาท แถมซื้อใส่ห่อกลับบ้านต้องสั่ง 2 ห่อขึ้นไป แต่กินแล้วผิดหวังในรสชาติอย่างมาก เพราะเส้นที่ถือว่าเป็นหัวใจหลักของก๋วยเตี๋ยวทำได้แย่มาก ร้านข้างถนนแถวบ้านยังผัดเส้นได้หอมกว่าเสียอีก จุดที่ยังอร่อยอยู่ก็คือผักคะน้าที่เขาใช้แบบต้นใหญ่ที่เรียกคะน้าฮ่องกง หมูก็นุ่มดี แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วล่ะครับสำหรับร้านนี้
          เย็นดู The Voice ที่เขานำนักร้องที่ผ่านเข้ารอบรุ่นเก่าๆ มาร้องปะทะกัน เฮ้ยย มันดีว่ะ ผมไม่ได้ฟังเพลงเท่าไหร่หรอกนะ ฟังแบบผ่านๆ แต่ชอบมากตรงคือการดูพวกเขาตามหาความฝันของตัวเอง
           เอาใจช่วยนักล่าฝันทุกท่านครับ คนสิ้นหวังคนนี้ให้กำลังใจพวกคุณอยู่

[O'Pern]

21 ธค 58
               ตื่นสาย ไม่ได้ออกกำลังกายอะไรเลย เอาแค่ Uke มาเล่นได้พักเดียว กินกล้วยน้ำว้างอมๆ จนเปลือกดำปี่ไป 2 ลูก รสชาติเหมือนกล้วยตากเลยนะ
     มื้อเช้ายังคงกินราดหน้าไอ้จ๊ากกี่ที่เหลือจากเมือวาน (ซื้อมาสองชุด / ซือใส่ห่อ ต้องอย่างต่ำสองชุด) รสชาติยังคงงั้นๆ ผมเลยเอาเส้นมาม่าไปผสมรวมด้วย อารมณ์คล้ายได้กินหมี่กรอบราดหน้า
ถึงร้านก็เข้าโกดังยกของ รูปแบบงานเดิมๆ ครับ รับโทรศัพท์ จดออเดอร์ ตรวจเช็คของ ทำงานจุกจิก ตอนสายนี่กินกล้วยน้ำว้าไปอีก 2 ลูก แถมกินขนมกูลิโกะอัลมอนด์ไปตั้ง 6 ชิ้นแน่ะ
          บ่ายเข้าไปฟิตเนส คราวนี้ไม่วิ่งแล้ว ยืดเส้นนิดหน่อยแล้วเล่นเวทก่อนดีกว่า มาเดินเร็วเอาตอนเล่นเวทจนหมดแรงแล้วแทนบ้าง วันนี้เจ็บไหล่ด้านซ้ายตอนออกแรงดึง ไม่รู้เกิดจากอะไร เลยเล่นแบบยั้งๆ หน่อย
          กลับมาบ้านกินโยเกิตใส่จมูกข้าวสาลี 3 ช้อนพูนๆ ใส่งาดำอีก 1 ช้อน
          กลางคืนซ้อม Uke อ่านหนังสือ นอน ชีวิตกูมีอยู่แค่นี้
          ข่าวใหญ่วันนี้คือมีอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์หายตัวจากทริปสำรวจเส้นทางของ “เปิ้ล นาคร” เขาว่าสำรวจนะ แต่บางข่าวบอกเป็นงานแข่ง มาสะกิดใจผมตรงมันเป็นเส้นทางข้ามอ่าวแบบที่ผมนึกไว้นี่แหละครับ แต่เขาไปกันด้วยเจทสกี ระยะทางราว 100 กม เจทสกีขี่กันก็แค่ 4 ชม (ต้องเติมน้ำมันกลางทางหรือเปล่าผมไม่รู้) ขึ้นฝั่งกันที่หัวหิน “สุภัทรารีสอร์ท” ใกล้เขาตะเกียบ นับจำนวนสมาชิกก็หายไป 1 คน จากนั้นก็เริ่มออกตามหา
          อ้อ ทริปนี้เขาขี่กันตั้งแต่วันอาทิตย์แล้วนะ วันนี้เพิ่งจะมาเป็นข่าว เขาค้นหากันตั้งแต่เกิดเรื่องแล้ว โดยในช่วงแรกพบรายงานว่าเจอเจทสกียังติดเครื่องอยู่เลย แต่ไม่เจอคน พอดึกๆ ก็หยุดการค้นหา เพราะคลื่นลมแรง
          มาเริ่มต้นค้นหาอีกทีตอนเช้า ก็ทราบข่าวดี มีเรือประมงค์ช่วยไว้ได้ โดยพบอาจารย์ในสภาพเกาะไม้ไผ่ลอยคออยู่ถึง 19 ชม ผมว่าอาจารย์ก็อึดใช้ได้เลยนะ ไม่ได้กินอะไรเลย ไม่มีน้ำเปล่าอีกด้วย
          มันทำให้ทริปข้ามอ่าวด้วยคายัคของผมยิ่งฮึกเหิมมากยิงขึ้น ผมต้องการร่างกายที่แกร่งโคตรๆ

[O'Pern]

22 ธค 58
          ตื่นเช้ามาเล่น Uke ก่อนเลย เฮ้ย ไอ้ลมหนาวที่มีอยู่ทุกวันมันหายไปไหนหมดแล้ววะ เช้านี้กินผัดผักบุ้ง ไข่ต้ม กุนเชียง พกสตอเบอรี่ไปกินที่ทำงานด้วยอีก 1 กล่อง
          หัวไหล่ตึงๆ ยังไม่หาย นี่ยังเจ็บกล้ามท้องอีก เมื่อวานเล่นเยอะไปหน่อย วันนี้เลยพักฟิตเนส 1 วัน เข้ามาบ้านนั่งทำงานเขียนแทน กินฟักทองแกงบวชที่ซื้อมาตั้งแต่วันอาทิตย์ ช้อนกินแต่ฟักทองนะ น้ำมันเป็นกะทิแถมหวานมากอีกด้วย
          วันนี้ได้กินสีแดงจากสตอเบอรี่ สีเหลือจากฟักทอง ตอนเช้ามีสีเขียวจากผักบุ้ง ไข่ต้มอีกฟอง ของว่างยังเป็นพวกถั่ว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ โหห สุดยอดมากจริงๆ 

[O'Pern]

23 ธค 58
          ขี่จักรยาน 30 นาที แต่ออกขี่เช้ากว่าเดิมหน่อย ยังคงรับรู้ได้ถึงไอเย็นนิดๆ นะ แต่ถ้าสายๆ ไอพวกนี้จะไปหมดแล้ว
          เช้ากินเนื้อปลาเก๋าผัดกระเพรา แครอท ไข่ต้ม ข้าวกล้อง งาดำ แล้วก็ออกไปร้าน
          บ่ายไปฟิตเนส หัวไหล่ซ้ายรู้สึกเจ็บๆ ลองยกเวทดูแล้วต้องออกแรงฝืนมาก เลยตัดสินใจไปเดินเร็วบนลู่แทน จัดไป 1.30 ชมมันซะเลย เหงื่อท่วมตัว ตอนต่อด้วยเวทอีกนิดหน่อย แต่ยังรู้สึกเจ็บหัวไหล่ เลยเล่นแต่กล้ามท้อง ไปนั่งเล่นริมน้ำก่อนกลับ แต่เจอกับ “กุ๊ก” อีกครั้ง เลยนั่งคุยกันอยู่อีกพักใหญ่
          วันนี้ท้องฟ้ามืดครึ้มตลอดวัน ไม่มีแสงอาทิตย์ลอดออกมาเลยสักนิด แถมตอนเช้ามีฝนปรอยอีกด้วย เป็นเพราะมีมรสุมเข้าทางใต้ของเราครับ ที่สุราษฯ สมุย ฝนกระหน่ำกันตลอดวัน

[O'Pern]

24 ธค 58
          ขี่จักรยาน 30 นาที ขี่ไปทำสมาธิกำหนดลมหายใจไปด้วย สวดมนต์ไปด้วย
          เมนูเช้านี้ยังคงเป็นเนื้อปลาที่เหลือมาจากการแบ่งเมื่อวาน แต่เอามาทำผัดกับขิงและคึ่นฉ่าย รสชาติอร่อยดีเหมือนกัน เน้นรสชาติของวัตถุดิบล้วนๆ
เช้าไปร้าน ตอนจอดรถริมถนนเจอกับขอทานที่มากับเด็กสองคนอีกแล้ว คนนี้ผมให้ของเขาบ่อยมาก วันนี้ไม่มีอะไรติดตัวมา เลยหยิบเงินให้ไป 50 บาท แต่ตอนอยู่บนรถผมถือเงินไว้ในมือแอบภาวนา ขอให้พ่อลูกมีชีวิตที่ดีขึ้นด้วยเถิด
          “ทำบุญให้อฐิษฐาน ทำทานให้ภาวนา” ผมฟังพระเขามาน่ะครับ
          บ่ายกลับมาบ้าน หัวไหล่ซ้ายยังไม่หายเจ็บ ไม่รู้ว่าไปยกเอาท่าไหนนะถึงเป็นแบบนี้ได้ หิวจัด ไม่มีอะไรกินอีกแล้ว แต่เปิดตู้เย็นเจอพิซ่าจากโรงแรมนารายณ์ หน้าเปปเปอโรนี มีสองชิ้น จัดไปรวดเดียวหมดเกลี้ยง ตามด้วยช็อคโกแลตถั่วของ Reese และช็อคโกแลตดาร์คของ Lyndt อย่างละ 1 ชิ้นเล็กๆ
          ช่วงเช้าท้องฟ้าครึ้ม เริ่มจะมีแดดช่วงบ่ายนี่เอง เดาเอาว่าฝนทางใต้น่าจะเบาบางลงแล้ว
          วันนี้ฝรั่งเรียก Christmas Eve ถือว่าเริ่มงานเฉลิมฉลองคริสมาสอย่างเป็นทางการ บางคนลากยาวไปจนถึงปีใหม่ ในเมืองย่านศูนย์การค้าต่างตกแต่งประดับไฟกันอย่างสวยงาม

[O'Pern]

25 ธค 58
          ขี่จักรยาน 30 นาที แล้วเลยไปซื้อต้มเลือดหมูมากินกับข้าวที่บ้าน ได้กินผักตำลึงแล้ว ไอ้ผักนี้ผมแทบไม่มีโอกาสอื่นกินเลยนอกจากสั่งต้มเลือดหมู สมัยก่อนยังมีก๋วยเตี๋ยวหมูตำลึง แต่ปัจจุบันแทบไม่เหลือแล้ว กลายเป็นก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นกันไปหมด
         ยกของยามเช้าแบบขำขำ อยู่ในออฟฟิซก็รับโทรศัพท์ คิดเงิน แค่สองอย่างนี้ก็ไม่ต้องไปไหนแล้ว เพราะช่วงเช้าลูกค้าโทรเข้ามากันตลอดเวลา
          บ่ายไปฟิตเนส มาปลดปล่อยพลังที่เมื่อวานจัดพิซซ่ามา 2 ชิ้น วันนี้ยังคงไม่เล่นเวท หัวไหล่ซ้ายทำไมยังเจ็บอยู่ก็ไม่รู้ เล่นได้แต่พวกขา กล้ามท้อง พวกลำตัวท่อนบนนี่มันต้องใช้แรงจากแขนเยอะ เลยไม่อยากฝืน อยากให้หายเร็วๆ
          เดินไป 1.45 ชม แต่เป็นการเดินแบบทางราบนะ ปกติจะปรับความชันให้มันสูงสุดที่ 12% วันนี้อยากลองแบบธรรมดาดูบ้าง พบว่าวิ่งแบบนี้ในเวลาเท่ากัน ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ไปได้เพียงครึ่งเดียวของการเดินขึ้นเนินชัน
          ก่อนกลับไปนั่งริมน้ำ พักให้เสื้อแห้งจะได้กลับบ้านอย่างสบายตัว นั่งตรงนี้สามารถทำสมาธิไปด้วยได้เลยนะ วันนี้มีลมพัดโชย ไม่แรงเหมือนตอนช่วงมีลมหนาว
          กลับมาบ้านกินโยเกิต 1 ถ้วย ที่ภรรยาซื้อมาทั้งแพ็ค คงซือเพราะได้กล่องพลาสติคแถมแน่ๆ เพราะไม่เห็นเขากินเลยสักถ้วย จนมันหมดอายุวันนี้แล้ว

[O'Pern]

26 ธค 58
          ตื่นสาย ไม่ได้ออกกำลังกายอะไรสักนิด ไม่ได้เล่นดนตรีอีกด้วย ดื่มน้ำเปล่าจากบนห้องนอนแล้วก็ลงมาข้างล่าง เจอน้ำส้มคันสดๆ จัดไปอีก 1 แก้ว
          เช้านี้กินกุยฉ่าย 5 ชิ้น แต่เด็ดตรงที่มีแครอทลวกครึ่งหัว มะเขือเทศย่าง 1 ลูก กระเทียมสดสิบกว่าชิ้น ไข่ต้มอีกฟอง กินเป็นกับแกล้ม
          วันเสาร์เป็นวันเดียวที่ผมขับรถไปส่งลูกตอนเช้า จากเดิมสมัยก่อนตัวติดกันแทบตลอดเวลา พอมาเรียนสวนกุหลาบตารางชีวิตลูกเริ่มเปลี่ยนไปเยอะ มิวยังคงบ้าเรียนพิเศษอย่างสม่ำเสมอ ไปลงเรียนกระทั่งที่เป็นวิชาที่ตัวเองไม่ได้เรียนก็มี คือเรียนเพราะเขาอยากรู้ในวิชานั้น เช่น ชีววิทยา ของ ม4 มีผ่าตัดหัวใจอะไรทำนองนี้ด้วย แม่งเริ่มโหด
ดีใจอย่างหนึ่งนะตรงที่มิวบอกว่าเริ่มชอบภาษาอังกฤษแล้ว นี่แหละ วันที่ผมรอคอย เขาจะเรียนรู้ได้อย่างก้าวกระโดดมากๆ แถมเป็นการเรียนที่มีความสุขสนุกสนานตลอดเวลา
          เช้านี้แปลกใจมากที่ไม่ต้องไปยกของ นานๆ มีแบบนี้ที แต่ก็ไล่โทรหาลูกค้าเพื่อขอออเดอร์แล้วทำการจัดส่งขึ้นรถต่อไป
          บ่ายต้องรีบไปโอนเงินอย่างด่วน ซื้อของสมัยนี้ไม่ใช่ขอเครดิตแล้วนะ ยังต้องจ่ายเงินล่วงหน้า แถมมีเวลากำหนดอีกด้วย เซลล์โทรมาคุยตอนเช้า บอกต้องโอนเงินก่อนบ่ายโมง !!!
          ผมเข้าไปที่เดอะมอลล์ท่าพระ ใกล้สิ้นปีคนมาหาซื้อของกันเยอะ รถติดยาวเหยียด ผมงี้เซ็งเลย ต้องจอดรถยากแน่ๆ ช่วงกำลังจะเลี้ยงเข้าตึกก็นึกถึง “หลวงพ่อโสธร” ที่เรานับถือ นึกในใจว่าขอให้ได้ที่จอดรถง่ายๆ เถอะนะ แต่แล้วก็คิดใหม่ โดยลบอันเก่าทิ้ง ขอใหม่บอกว่า ขอเป็นที่จอดรถตำแหน่งเดิมที่เราชอบจอดอีกด้วย (โคตรโลภเลย) โดยในห้างนี้มีที่ๆ ผมชอบจอดอยู่ไม่กี่ตำแหน่ง จะเป็นทีๆ ไม่มีใครมาจอดขวางหน้าเรา เดินผ่านทางเข้าออกสะดวก ฯลฯ แต่อีกสักพักผมก็กด “แคนเซิล” ไปอีกแล้ว คือไม่อยากท้าทายพระท่านไง ไม่ได้กด “apply” หรือ “ok”
          แต่ขับเข้าไปไปพักเดียวก็ขนลุกอีกแล้ว ท่ามกลางตึกจอดรถที่รถเยอะมากๆ แต่ด้านหน้าผมมันคือที่ว่างแบบโล่งๆ ขับเข้าไปจอดง่ายๆ เลย เด็ดกว่านั้นมันคือตำแหน่งที่ผมชอบจอดประจำอีกด้วย !!!
         เฮ้ยย เรื่องแบบนี้มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วนะ นี่มันเหมือนคราวที่แล้วเป๊ะเลยนะ ทั้งสถานการณ์ เหตุการณ์ และความคิดของผมในขณะนั้น
งงเลยครับ เฮ้ย ปาฏิหาริย์มีจริง
         ทำธุระที่ธนาคารเสร็จก็เดินซื้อของในซุปเปอร์ ไม่ได้มาที่นี่ราว 1 เดือนมั้ง วันนี้จัดพวกถั่วมาเยอะเลย มีของใหม่คือถั่วพีแคนอบน้ำผึ้ง ไอ้ถั่วนี้ผมไม่ได้กินมานานมาก ถั่วพีแคนบำรุงสมองได้ดีมาก ผมเดาว่ามันเป็นถั่วที่มี Omega 3
          แวะซื้อครัวซองต์มาฝากแม่และภรรยา ไม่มีอะไรฝากลูก มิวไม่ค่อยกินขนมจุบจิบ นี่คือข้อดีของเขาเลยล่ะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่กินเลยล่ะ อยู่กับเพื่อนข้างนอกบ้านนี่เห็นกินเลย์ น้ำอัดลม ชาเขียว ฯลฯ อ้อ ผมซื้อขอบขนมปังมา 2 ถุงใหญ่ๆ เผื่อจะเอาไปให้อาหารปลาริมแม่น้ำในช่วงอาทิตย์หน้า
          วันนี้ Skylane ที่สุวรรณภูมิเปิดใช้งานวันแรก แต่ช่างมันเถอะ เพราะตั้งแต่มันเป็น Greenlane มาตั้งเป็นปี ผมยังไม่เคยไปสักครั่งเลย แต่มาใหม่คราวนี้ได้สปอนเซอร์จากธนาคารไทยพาณิชย์ที่มาวางระบบเข้าสนามด้วยการใช้ Snap (สายรัดข้อมือแบบมีชิฟ) ก็แปลกๆ ดี ทำให้คนสนใจอยากเข้าไปขี่เล่นมากขึ้นแน่นอน ไอ้ snap นี้สามารถเติมเงินแล้วใช้ซื้อของซื้อน้ำที่ตู้อัตโนมัติด้านในสนามได้เลยนะ สะดวกดี แต่ลองคิดในแง่ธุรกิจดูนะ ถ้าคนเติมเงินเอาไว้สัก 500 แล้วทำไอ้ snap นี้หายล่ะ ก็เท่ากับเขาสูญเงิน 500 ไปฟรีๆ เลยสิ คนทำหายก็ต้องไปขอ snap อันใหม่ พอลงทะเบียนแล้ว snap อันเก่าจะเป็นอย่างไรก็สุดแท้แต่ระบบของเขา แต่ผมเดาว่าเขาจะทำการยกเลิกไป แล้วเงินที่ค้างใน snap เก่านี้จะไปอยู่ไหนล่ะครับ
          ฉะนั้น อย่าทำ snap หาย อย่าเติมเงินไว้เยอะ เตือนไว้แค่นี้

[O'Pern]

27 ธค 58
          ติดใจสวนพระราม 3 ใต้สะพานแขวน ชอบตรงบรรยากาศริมน้ำนี่แหละครับ ตอนแรกกะจะไปใต้สะพานพระราม 8 บ้าง แต่ดูแล้วท่าทางแดดจะแรงจัดกว่า สวนนั้นต้นไม้ใหญ่น้อย สู้สวนที่นี่ไม่ได้
          รอบละ 850 เมตร จัดไป  ชม แบบขำขำ ได้มาสัก 6 รอบมั้ง ไม่ได้ตั้งใจนับ เพราะวิ่งไปก็ทำสมาธิกำหนดลมหายใจไปด้วย จากนั้นก็มาที่สถานีออกกำลังแบบกายบริหาร อันนี้จะออกแนวคนแก่ไปหน่อย แต่ก็พอได้นะ คล้ายการเล่นเวทเหมือนกัน แต่ต้นแขนซ้ายยังเจ็บ เลยไม่อยากฝืน โหนบาร์แบบดึงข้อไป 5 ครั้ง ซิทอัพ 30 ครั้ง หึหึ ปิดท้ายมานั่งผ่อนคลายที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมน้ำ โหห สุขสุดๆ ว่ะ
          มีผู้หญิงวิ่งนำหน้าทำเหรียญหล่น ผมช่วยตามเก็บไห้ ตอนวิ่งตามได้ยินเสียงกรุ๊งกริ๊งๆ แล้วล่ะ นึกว่าไม่รอดอยู่แล้ว
          แวะให้อาหารปลาที่วัดบุคโลก่อนเข้าบ้าน วัดริมน้ำ บรรยากาศดี มีอุโบสถบนดาดฟ้าด้วย รับลมสบายดีมากๆ ให้อาหารปลาเสร็จก็มานั่งเล่นทำสมาธิบนนี้ ผมว่าในอีกไม่กี่วันคือคืนวันที่ 31 จะต้องมีคนมาตรงจุดนี้เยอะมากแน่ๆ
          หยิบขนมปังกินเองไปด้วยนะ ให้ปลารู้ว่าเราเอาของดีๆ มาให้เขา ทุกทีก็โยนให้แล้วดูปลากินแบบไม่คิดอะไร แต่วันนี้นึกถึงคำพระ “ทำบุญให้อธิฐฐาน ทำทานให้ภาวนา” ผมไม่รู้ว่าภาวนาคือทำอย่างไร ความหมายในทางพุทธลึกซึ้งมาก เลยนึกถึง พ่อ แม่ ครอบครัวภรรยา ลูก ญาติ เพื่อน เพื่อนมนุษย์ ในหลวง และราชวงศ์ ไปจนถึงเพื่อนร่วมโลกในประเทศที่กำลังประสพภัยสงคราม นึกถึงคนเหล่านี้จริงๆ นะ การโยนอาหารปลาแต่ละครั้งก็จะนึกแบบนี้ตลอด เหมือนกับว่ากำลังส่งความปรารถนาดีไปให้ ทำแล้วก็รู้สึกสบายใจดีนะ
          ให้อาหารปลาเสร็จปกติก็จะกลับเลย แต่วันนี้นึกสนุกเดินเข้าไปชมในวัดนั่งไหว้พระเจอบทสวดบูชาที่อยู่ตรงหน้าเป็นองค์จตุคามก็เลยอ่านไปตามนั้น มาสะดุดใจในพระอีกองค์ที่เขาบอกว่าคือหลวงพ่อโสธร คราวนี้บทสวดยาวเลย ก็จัดไปอีกชุด (ปกติที่ผมสวดบูชาหลวงพ่อโสธรจะเป็นบทย่อ) สุดท้ายคือพระ “สีวลี” ผมเห็นรูปท่านแปลกมาก คือเหมือนพระธุดงค์ (ในใจตอนนั้นเรียกพระทัวริ่ง) มือขวาถือไม้เท้า มือซ้ายแบกกลด (ร่ม) แถมแขนซ้ายยังคล้องกาน้ำไว้อีกด้วย องค์นี้ผมก็ไหว้และอ่านคำสวดบาลีด้วยเช่นกัน
ปิดท้ายด้วยการขึ้นไปที่อุโบสถที่เป็นดาดฟ้า เสียดายวันนี้ลมไม่แรง อยู่ได้สักพักก็กลับบ้าน
          กลับไปกินก๋วยเตี๋ยวร้าน “เจ๊เค็ง” แถวบ้านเหมือนเดิม สั่งแบบเดิมๆ อีกด้วย เฮ้ย ชีวิตกูนี่ทำไมมันออกมาแนวเดิมๆ ตลอดเลยวะ แถมกินเสร็จเผ็ดปากเหมือนอาทิตย์ที่แล้วเป๊ะเลย ซึ่งเดินไปซื้อไอติมมา 5 แท่ง แต่ไอ้ทั้ง 5 แท่งมันยังอยู่ในตู้เย็นที่บ้านครบเลย ยังไม่ได้กินสักแท่ง ซื้อมาแล้วเสือกกลั้วอ้วน ฮ่าๆ
          เห็นคุณป้าเปิดถังน้ำแข็งไม่ออก ผมรีบไปช่วย จนเก้าอี้พลาสติคของตัวเองล้มและกลิ้งลงไปนอกถนน (ผมนั่งริมทางเท้า)
          ระหว่างทางเจอคนลักษณะคล้ายคนงานแต่งตัวสะอาดเรียบร้อยหวีผมเรียบอย่างดีถือกระเป๋าสะพาย เขาเดินมาขอเงินค่ารถ 15 บาท ผมเปิดกระเป๋า แต่ไม่มีเงินเศษเลย คุยไปคุยมาเขาบอกยังไม่ได้กินข้าว เลยให้เขาเลือกเอาในตลาดได้เลย ผมจะเลี้ยงเขาให้ เขาเดินไปร้านขายขนมจีนจานละ 20 บาท ผมยื่นเงิน 100 ให้แม่ค้า พอรับเงินทอนมา ก็ให้ค่ารถเขาไปอีก 20 บาท
          เข้ามาบ้านได้ก็อาบน้ำสระผมอย่างสบายเลย สักพัก เริ่มอยากกินหนม ฮ่าๆ เปิดตู้เย็นเจอ Fruit Cake ของ Dean and Deluca ชิ้นยักษ์ใหญ่เลย หั่นแบ่งมากินนิดหน่อย
          1100 แม่ชวนออกไปกินที่ร้าน “ครัวเจ๊ง้อ” พี่สาวพาลูกที่เพิ่งกลับมาจากอังกฤษมานั่งคุยกัน เลยชวนมากินร้านนี้ สั่งกันชุดใหญ่เลย กุ้ง ปู ปลา กั้ง ผมแกะไม่เป็น เลยกินแต่พวกเนื้อปลาที่เลาะง่ายๆ
          ตอนจะเดินออกจากร้านเจอตู้ไอติมแนว Home Made มีรส Horlics ด้วย เฮ้ยย ชอบมากๆ ๆ ไม่ได้กินมากว่า 40 ปีแล้ว อยากกินนะ แต่จะกลับแล้วน่ะสิ ว้า อดเลย คราวหน้าจะไม่พลาด ต้องเมมไว้
          กลับมาบ้านตอนบ่าย เริ่มง่วงเหมือนกันนะนี่ เดินไปเดินมา ซ้อมดนตรี เย็นกิน Fruit Cake อีกชิ้น แบ่งออกมาแล้วรอให้มันหายเย็นสัก 5 นาที่ค่อยกิน รสชาติจะดีกว่ากินตอนที่มันเย็นๆ กินน้ำเต้าหู้ใส่ถั่วแดงและเม็ดแมงลักปิดท้าย

[O'Pern]

28 ธค 59
          อาทิตย์สุดท้ายของปีแล้วสินะ นี่คือจันทร์สุดท้ายของปีเช่นกัน จันทร์หน้าก็เป็นจันทร์ของปีใหม่แล้ว
          ออกขี่จักรยาน 30 นาที เช้านี้รู้สึกมีลมหนาวมาหน่อยๆ รีบสูดๆ ๆ ๆ ขี่ไปกำหนดลมหายใจไป เออ ล่าสุดผมกำหนดลมหายใจตัวเองให้อยู่ต่ำสุดได้ 35 ครั้งต่อนาที จากเดิมปกติหัวใจผมเต้น 50 ครั้งต่อนาที คราวหน้าฝึกใหม่ เอาให้แม่งเหลือ 30 พอ
          มีมอไซบิ๊กไบค์มาจอดคุยกันหน้าปากซอยสองคัน ผมไม่ได้สนใจอะไร ขี่จักรยานผ่านไปเฉยๆ เห็นเขากำลังดูแผนที่กัน แต่พอวนกลับมาอีกรอบ เขาก็กำลังดูอยู่เหมือนเดิม เลยขี่เข้าไปเสนอตัวให้ความช่วยเหลือ พบว่าพวกเขากำลังจะไปกาญจนบุรี แต่แผนที่เขามันเป็นแบบเขียนด้วยตัวอักษร ไม่ได้เป็นแผนที่ภาพ คือบอกว่าขี่ไปจะเจอะไร ให้เลี้ยวไหน บอกเป็นตัวหนังสือหมดเลย โหห ยังกะแรลลี่ สุดท้ายเลยบอกทางเขาไปเป็นสเตปๆ ว่าจากตรงนี้ให้ขี่ไปทางถนนวงแหวน แล้วเข้าบรมราชชนนี แล้วซัดอัดยาวไปทางนครปฐม ฯลฯ ช่วยคนได้เล็กๆ น้อยๆ ก็ภูมิใจ จดใส่จิตบันทึกเอาไว้ในไดอารี่ความดี
          เช้ามียกของจากโกดังนิดหน่อย ตอนสายยกขายของหน้าร้าน ทำเอาแขนซ้ายที่ยังเจ็บนี่จี๊ดขึ้นมาเลย พักมาตั้งหลายวัน หวังจะให้หายเร็วๆ
          วันนี้มีงานวันพระเจ้าตากสินมหาราช ปิดวงเวียนใหญ่สองวัน รถติดพอควร ส่งของต้องขับผ่านละแวกใกล้เคียงก็ต้องเสียเวลามากหน่อย คนไม่คุ้นนี่มีงงเลยนะ เขาปิดถนนลาดหญ้าทั้งเส้น ตั้งแต่คลองสานถึงวงเวียนใหญ่เลย
          บ่ายแก่ๆ เข้ามาบ้าน ตอนแรกจะไปฟิตเนส แต่เจ็บแขนอยู่ และเมื่อวานเพิ่งวิ่งมา วันนี้เลยแอบขออู้หน่อย แต่กลับมาบ้านก็ออกกำลังกล้ามท้องแทนนะ
          ถึงบ้านก็กิน Fruit Cake ต่อ รู้เทคนิคทำให้มันอร่อยขึ้นแล้ว ทำง่ายมากด้วยการปล่อยให้มันคลายความเย็นลงสักพัก แล้วจะได้เนื้อเค๊กนี่คนละเรื่องเลยนะ
          เย็นพ่อชวนกินแหนมเนือง จัดไปนิดหน่อย สัก 4-5 คำเอง เน้นผักเยอะๆ กลางคืนซ้อม Uke อ่านหนังสือก่อนนอน 

[O'Pern]

 29 ธค 58
           ขี่จักรยาน 30 นาที เฮ้ย มีไอเย็นมาอีกล็อตแล้ว รีบสูดจนเต็มปอด ขี่ไปทำสมาธิไปด้วย
          อาหารเช้าวันนี้สุดยอดอีกแล้ว ผัดคะน้ำหมูกรอบ หมูผัดยอดตำลึง กุนเชียง ไข่ต้ม ข้าวกล้องใส่งาดำ กระเทียมสด
          เช้านี้รถไม่ค่อยติดแล้ว ผู้คนพากันเริ่มออกต่างจังหวัดกัน ถนนโล่งนิดๆ ขับแบบรถแทบไม่ติด สบายดีจัง แต่ในทางกลับกัน ร้านขายของจะขายดีมากๆ ยิ่งร้านอื่นเขาหยุดกัน ร้านผมหยุดแค่วันที่ 1 วันเดียว หึหึ นึกไม่ออกเลยว่าวันที่ 31 จะสาหัสขนาดไหน
          เช้านี้ขับรถส่งของนิดหน่อย แล้วก็ไปลงของในโกดังอีกล็อต ขำขำครับ งานแบบนี้ ผมก็ทำประโยชน์ได้แค่นี้
          บ่ายเข้าไปฟิตเนส แต่แขนยังไม่หายเจ็บ เลยเล่นแค่ช่วงขา และไปเดินเร็วอีก 1.45 ชม จากการทดลองพบว่าหากปรับความชัน 12% ผมจะใช้พลังงานมากกว่าเดินทางเรียบถึงสองเท่า วันนี้แค่ 1 ชม ซัดไป 529 Kcal แล้ว ยังมีอีก 45 นาทีหลังที่เดินแบบลดความเร็วลงมาหน่อย แต่ก็ยังปรับความชันไว้ 12% เหมือนเดิม
          กลับมาบ้านอย่างหิวเลย ตัก Fruit Cake ออกมารอให้เย็น แล้วนำเมล็ดเชียที่แม่ซื้อมาให้ลองกิน จัดแช่น้ำแบบเม็ดแมงลักเลย เอาไว้กินกับน้ำเต้าหู้ใส่ถั่วแดงและลูกเดือย
          ผมเฉยๆ กับไอ้พวกของกินสุขภาพจากต่างประเทศเพราะมันดังเพราะโปรโมทจากหนังสือมากกว่า มันก็แนวเดียวกับเม็ดแมงลักล่ะวะ แต่พอหาข้อมูลอ่านแล้วตกใจ เพราะมันมีโอเมก้า 3 มากกว่าแซลมอน 9 เท่า (อย่าตกใจ อยากได้ 9 เท่า ก็ต้องกินแม่งเกือบหมดห่อ เพราะเขาวัดกันที่น้ำหนัก คือต้องกินเมล็ดเชียหนักเท่ากับเนื้อปลา) แต่เอาน่ะ เอาแค่มีโอเมก้า 3 ก็เจ๋งแล้ว ไอ้ตัวนี้บำรุงสมองครับ
          กินโน่นกินนี่แล้วก็เริ่มอิ่ม จากเดิมตอนแรกหิวไอติม (มี 5 แท่งในตู้เย็น) กะจะกินไอ้แมกนั่ม แต่ตอนนี้อิ่มแล้วล่ะ ไอ้เมล็ดเชียนี่โหดสัสเลย ใส่ไปแค่ 1 ช้อนโต๊ะ แสดงอาณุภาพแรงมาก

[O'Pern]

30 ธค 58
          ยังคงขี่จักรยานรับลมหนาว 45 นาที ตื่นเช้ากว่าเดิมก็มีเวลามากหน่อย สูดเข้าไปไอ้เจ้าลมหนาวของข้า
          ช่วงนี้ไม่ได้วิ่งตอนเช้าแล้ว เพราะตอนบ่ายไปเดินเร็วในฟิตเนสแทน มีเครื่องวัดการเต้นหัวใจด้วย ตกใจนะที่ว่าตอนเราวิ่งหัวใจจะเต้นแรงมากเกินโซนของ Fat Burn แต่เข้าไปอยู่ในโซนของ Cardio แทน
         แบบนี้ใช้พลังงานเยอะกว่าก็จริง แต่ไขมันลดลงน้อยครับ Cardio จะดีต่อปอดและหัวใจมากกว่า และควรให้หัวใจอยู่ในโซน Cardio แค่ 30 นาทีก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องลากยาวต่อเนื่องถึง 30 นาทีก็ได้นะ คือวิ่ง Cardio สัก 10 นาที แล้วลดลงมาอยู่ Fat Burn สัก 10 นาที ทำแบบนี้สลับกันไปก็แจ๋วแล้ว
          ที่ผ่านมาแม้ผมจะวิ่งเหยาะๆ แต่หัวใจก็ยังเต้นเกินไปโซน Cardio นี่ถ้าจะให้อยู่แค่ Fat Burn ผมแค่เดินเร็วก็พอแล้ว มันทำให้ผมนึกถึงจักรยานเลยครับ ไอ้พวกเสือหมอบชอบซัดเร็วๆ แรงๆ มิน่า พวกมึงขี่ยังไงก็ไม่เห็นจะผอม ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ ๆ (แต่ได้ปอดและหัวใจแกร่งแทน)
          มื้อเช้ากินหมูผัดพริกหยวกและหอมใหญ่ ไข่ต้ม ข้าวกล้อง งาดำ กระเทียมสด ช่วงนี้ดีครับ รถไม่ติดเลย แต่กลายเป็นว่าได้รับมอบหมายหน้าที่ใหม่ให้ไปขับรถบรรทุกสินค้า ไปรับสินค้ามาจากย่านสาทร ถนนนราธิวาสราชนครินทร์
          เขาสั่งมาเราก็ไปครับ แต่รถที่ขับนี่สิ มันวิ่งได้แค่ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง !!! ช้าสัสๆ เลย ถ้าปกติรถติดๆ มันก็วิ่งได้แค่นี้อยู่แล้ว แต่นี่ถนนโล่งๆ แต่กูขับ 40 !!! มีไรเปล่า
          รถแต่ละคันที่เร่งแซงไปก็หันหน้ามามอง คงจะมีด่าในใจ ผมแม่งไม่กล้าสบตาใครเขาเลย ยิ่งเจอสะพานยิ่งไม่อยากออกตัวเลย แม่งไปแทบไม่ไหว จอดติดไฟแดงคันหน้าสุดนี่ดราม่าบังเกิด พอไฟเขียวคนเขาเร่งพุ่งออก แต่รถกูนี่แม่งไปแบบเหมือนปล่อยไหลตามแรงโน้มถ่วง สัสสสส
          ผมชอบโครงการ 7 วันอันตรายของปีนี้นะ มีเพิ่มเติมจากเดิมคือ “เมาแล้วยึดรถ” ให้มารับได้หลังปีใหม่ เจ๋งดีว่ะ
          วันนี้งานเยอะ เขามาบ้านเอาเกือบจะเย็นแล้ว ไม่ได้ไปฟิตเนส แวะซื้อเปาะเปี๊ยะสดรถเข็นแถวร้าน เอากลับมากินที่บ้าน ร้านนี้ผมว่าอร่อยมากที่สุดตั้งแต่เคยกินมาเลยล่ะ

[O'Pern]

31 ธค 58
          ขี่จักรยาน 30 นาที เฮ้ย หนาวจริงแล้วนี่ ลมพัดเย็นมากๆ
          วันสุดท้ายของปี ผู้คนชอบส่งคำอวยพรกันในตอนเที่ยงคืน แปลกดีว่ะ ยุคก่อนฮิตส่ง SMS กันจนระบบล่ม บางข้อความผมได้ตอนเที่ยงของวันรุ่งขึ้นเลยด้วยซ้ำไป คืนนี้คงจะส่งกันจนเนทล่มมั้ง แต่ตอนเด็กๆ บางคนก็จะโทรอวยพรกันตอนเที่ยงคืน ผมชอบฟีลแบบนั้นมากกว่า ได้ยินเสียงชัดๆ เจ๋งกว่าส่งกันในเฟซบุ๊คแบบยุคปัจจุบันเยอะมาก
          แต่ถ้าย้อนกลับไปก่อนหน้ายุคมือถือรุ่งเรือง ยุคเพจเจอร์นี่จะฮาโคตรกว่า ต้องส่งถ่ายข้อความผ่านเจ้าหน้าที่ คุยอะไรหวานๆ ปล่อยมุขขำขำ บางทีเจ้าหน้าที่ก็จะขำไปกับเราด้วย พอคืนวันที่ 31 ระบบล่ม ค้าง โทรไม่ติด

          อ้อ ร้านผมไม่หยุดนะคร้าบบบ ยังต้องออกไปทำงานนะ จะบอกให้ รถโล่ง ขับสบาย แต่งานเพียบ ลูกค้าแต่ละคนก็โทรมาแล้วบอกให้ส่งเดี๋ยวนี้ ถ้ามาไม่ได้เขาก็จะสั่งร้านอื่นแทน ลูกค้าแนวนี้มีพอควรครับ ผมไม่ชอบแม่งเลย แต่เจ้าของร้านเขาชอบ ก็เลยต้องทำตามเขาไป
          มิวหยุดเรียนครับ หยุดเพราะว่าไม่มีสถาบันใดเปิดสอน เขาปิดกันหมด ไม่มีที่ให้ไปเรียน อยู่บ้านกับโลกโซเชี่ยลไปเล้ยยย จะดีจะชั่วก็อยู่ที่ตัวลูกเลือกแล้วล่ะครับว่าจะเสพสื่อด้านใด
          ไปถึงร้านก็เจองานที่ไม่อยากทำเป็นที่สุด ผมต้องขับรถไปรับสินค้าแบบเมื่อวานอีกแล้ว ไปกับไอ้รถคันเดิมที่วิ่งได้แค่ 40 นี่แหละ แต่วันนี้ผมลองปิดแอร์ขับ พบว่ามันมีแรงมากขึ้น จาก 40 กลายเป็น 60 เย้ๆ แต่ว่าขึ้นช้าโคตรเลยนะ
          โชคดีมากที่รถไม่ติดครับ ก็คนอื่นเขาหยุดกันหมดนี่นา ขับข้ามสะพานสาทรแบบโล่งๆ ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน ขับไปรับสินค้าแล้วก็ขับกลับร้าน พอเลี้ยวกลับรถแรงหน่อยสินค้ามันล้มโครมมม ผมจอดรถจัดเรียงมันเข้าที่ โชคดีไม่มีแตกหักเสียหาย เป็นแบบนี้ถึงสองรอบ
          วันนี้ขับสบายกว่าเมือวาน เพราะปิดแอร์ขับ เปิกกระจกก็ไม่ถึงกับร้อน มีลมหนาวมาช่วยพอดี
          มาถึงร้านก็ลงสินค้าแล้วก็ทำหน้าที่อื่นต่อไป เช่น รับโทรศัพท์ เขียนบิล นับเงิน ตรวจเช็คสินค้า ขายของหน้าบ้าน เป็นแบบนี้ไปตลอดจนถึงเย็น
          วันนีร้านมีปัญหาเดิมๆ ครับ คือลูกค้ามารุมสั่งของกันวันนี้ ผลก็คือส่งไม่ทัน ตามมาด้วยการโดนต่อว่า โวยวาย เห็นแล้วก็สงสาร ปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมากๆ จนผมให้คำแนะนำไปหลายครั้งหลายหน แต่ก็มักจะโดนด่ากลับมา
          กลับมาบ้านเล่นกับลูก ซ้อมดนตรี กลางคืนมิวบอกขอนอนดึกหน่อยนะ อยากอยู่ให้ถึง Count Down ผมบอกโอเค ตามสบายใจ อยากไปดูไฟที่คอนโดไหม ชั้น 32 ดูวิวได้ไกลมาก เห็นพลุจุดทั่วเมืองเลยนะ มิวคิดสักพักแล้วก็บอกว่าไม่ไปดีกว่า
          เปิดทีวีดูกันไปเรื่อยๆ พอราว 1030 มิวหลับไปเสียแล้ว อ้าว ไหนบอกจะอยู่ถึง 1200 ไง
          1200 ผมนั่งสมาธิราว 10 นาที ส่งใจไปยังการสวดมนต์ข้ามปี ไม่ขอพรใดๆ แค่กำหนดลมหายใจแล้วคิดว่าตัวเองอยู่ในพิธีนั้นด้วย สักพักก็หลับพร้อมกับการก้าวเข้าสู่ปีใหม่